8 ฟีเจอร์ที่ไม่ได้ถูกพูดถึงใน iOS 13 แต่ควรค่าแก่การใช้งานอย่างมาก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
8 ฟีเจอร์ที่ไม่ได้ถูกพูดถึงใน iOS 13 แต่ควรค่าแก่การใช้งานอย่างมาก

ตอนนี้ทาง Apple ได้ทำการปล่อยอัปเดตตัวใหม่สำหรับ iOS 13 beta 2 ออกมาให้ผู้ร่วมทดสอบได้ลองใช้งานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง iOS 13 ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจับตามองไม่น้อย แล้วภายในงาน WWDC 2019 ที่ผ่านมาทาง Apple ได้นำเสนอสิ่งใหม่ๆที่จะถูกเปลี่ยนแปลงไปให้เราได้ทราบกันไม่ว่าจะเป็น Dark Mode หรือจะเป็นการรองรับการใช้งาน Animoji ใหม่ๆ เช่นกันว่าภายในงานคงไม่สามารถที่จะหยิบยกทุกอย่างมาบอกได้หมด ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับ 8 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจภายใน iOS 13 กันว่ามีอะไรบ้าง

แถบเพิ่ม/ลดเสียงที่ไม่รบกวนการใช้งาน: โดยปกติแล้วเวลาที่เราทำการเพิ่มลดเสียงภายในเครื่อง ตัวระบบจะมีการแสดงแถบสถานะให้เราได้เห็นด้วยว่า ณ ขณะนั้นระดับเสียงอยู่ที่จุดใดตรงกลางของหน้าจอ แต่ภายใน iOS 13 แถบสถานะตรงส่วนนี้จะถูกนำไปแสดงในด้านข้างของหน้าจอแทน

จัดการ Wi-Fi และ Bluetooth ได้ในที่เดียว: ปกติเวลาที่เราจะทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth ในปัจจุบันเราจะต้องเข้าไปที่หน้า Settings เพื่อทำการเชื่อมต่อ แต่ใน iOS 13 ทุกอย่างสามารถจัดการได้ใน Control Center ที่ตอนนี้เราสามารถที่จะกดเปิด Wi-Fi พร้อมกับแสดงเครือข่ายทั้งหมดที่มีให้เชื่อมต่อได้แล้ว (บน Android มีมาสักพักใหญ่ๆแล้ว)

ไม่มี 3D Touch แต่ได้ Quick Action แทน: มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าทาง Apple อาจจะทำการตัด 3D Touch ฟีเจอร์สำหรับเข้าใช้งานคำสั่งต่างๆของแอปฯออกไป แน่นอนว่าต้องมีสิ่งที่จะมาแทนอยู่แล้ว ซึ่งนั้นก็คือ Quick Action ที่จะทำหน้าที่จะเป็นการกดค้างบนแอปฯต่างๆเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อที่จะเปิดรายการของคำสั่งต่างๆที่จะใช้งาน เหมือนกับ 3D Touch แตกต่างกันที่ 3D Touch วัดจากแรงกด แต่ Quick Action วัดจากระยะเวลาที่กด

ปรับขนาดคีย์บอร์ดที่พิมพ์ด้วยมือได้: ใครที่อยากจะลองพิมพ์สิ่งต่างๆด้วยนิ้วมือของเราแทนที่จะเป็นการกดบนคีย์บอร์ด คงจะต้องเคยพบเจอปัญหาที่ว่าพื้นที่สำหรับใช้งานมีน้อยเกินไป ทำให้เขียนได้ไม่สะดวกแต่ตอนนี้ใน iOS 13 จะสามารถปรับพื้นที่ในส่วนนี้ได้แล้ว ใครที่อยากลองเขียนสิ่งต่างๆจะได้พื้นที่มากขึ้นแล้ว

ปรับปรุงรูปแบบในการชาร์จแบตเตอรี่: ที่ผ่านๆมาเรามักจะทำการชาร์จแบตแบบไม่ได้มีรูปแบบอะไร อยากชาร์จตอนไหนก็ชาร์จ แต่ทาง Apple ดูเหมือนว่าจะอยากช่วยให้ประสิทธิภาพในการชาร์จเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องยิ่งขึ้น จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ Optimized Battery Charging เข้ามาที่จะทำให้ตัวเครื่องชาร์จแบตไปค้างไว้ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ และจะตรวจสอบลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ว่าดำเนินไปในรูปแบบใด หากเราชอบชาร์จแบตตอนนอน ตัวเครื่องจะทำการชาร์จแบตจนถึง 80 เปอร์เซ็นต์และค้างเอาไว้ จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนเราจะตื่นตัวระบบจะทำการชาร์จให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยทาง Apple บอกว่านี้จะช่วยทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานยิ่งขึ้น

ใช้งาน iMessage และ FaceTime ได้พร้อมกัน 2 ซิม: ใครที่กำลังใช้งานที่สามารถใช้งานได้ 2 ซิมในเวลาเดียวกัน ตอนนี้น่าจะเจอปัญหาที่ว่าอยากจะใช้งาน iMessage ส่งไปให้คนอื่นในเบอร์รองที่ใช้งาน แต่ไม่สามารถทำได้เพราะจำเป็นที่จะต้องใช้เบอร์หลักในการส่งเท่านั้น เช่นเดียวกับ FaceTime แต่ภายใน iOS 13 ได้มีการแก้ไขจุดนี้ให้สามารถใช้งานพร้อมกันทั้ง 2 ซิมได้ในเวลาเดียวกัน

ลบแอปพลิเคชันได้จาก App Store: ปกติเวลาที่เราจะทำการลบแอปฯใดเราจะต้องทำการกดไอคอนของแอปค้างเอาไว้และกดลบ แต่ภายใน iOS 13 เราสามารถที่จะลบแอปฯต่างๆได้จากภายใน App Store โดยตรง โดยการปัดซ้ายที่ตัวแอปฯและจะปรากฎคำว่า Delete ขึ้นมาให้เราทำการลบได้เลยทันที

ปรับมุมมองของภาพถ่ายได้มากขึ้น: ภายใน iOS 13 ทาง Apple ได้ทำการเพิ่มฟีเจอร์ให้กับแอปฯ Photos ของตัวเองให้สามารถปรับแต่งภาพได้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการปรับแต่งมุมมองของภาพในแกน X และแกน Y ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้ ให้สามารถใช้งานได้แล้วใน iOS 13

ที่มา – ThisIsGame

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save