ท้าชน Mate 30 Series และ Mate 20 Series อะไรดีกว่ากัน - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ท้าชน Mate 30 Series และ Mate 20 Series อะไรดีกว่ากัน

หลังจากที่มีการเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อนสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Huawei Mate 30 Series ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะทราบกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าตัวเครื่องจะไม่สามารถใช้บริการใด ๆ จาก Google ได้ซึ่งดูจะเป็นข้อสังเกตไม่น้อยของรุ่นนี้ แต่วันนี้ที่เราจะมาพูดถึงจะเป็นเรื่องของการเปรียบเทียบกับเรือธงรุ่นก่อนอย่าง Huawei Mate 20 Series ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และควรค่าแก่การจ่ายเงินเพื่อซื้อมาใช้งานหรือไม่ หากเข้าไทย ว่าแล้วเราไปดูกันเลย

หน้าจอ

สำหรับหน้าจอถือว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปที่น่าสนใจไม่น้อย โดยตัวของ Mate 30 / 30 Pro จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.62 นิ้ว และ 6.53 นิ้ว โดยประเภทของหน่าจอที่ใช้งานเป็นแบบ Flex OLED ทั้งสองรุ่น แต่จะมีความพิเศษที่ Mate 30 Pro ที่ใช้งานหน้าจอเป็นแบบ Horizon Display ที่มีความโค้งบริเวณขอบจอ ขณะที่ Mate 30 จะเป็นหน้าจอแบบ Fullview Display ปกติ โดยที่ความละเอียดหน้าจอทั้งสองรุ่นอยู่ที่ FHD+ (2400 x 1176)

ขณะเดียวกัน Mate 20 / 20 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.39 นิ้วด้วยกันทั้งคู่ รวมไปถึงหน้าจอที่เป็นแบบ OLED ในลักษณะ Dewdrop Display ส่วนเรื่องของความละเอียดหน้าจอจะอยู่ที่ FHD+ (2244 x 1080) และ QHD+ (3120 x 1440) ตามลำดับ จากจุดนี้พอจะบอกได้ว่าในเรื่องของขนาดหน้าจอและความละเอียดถือว่า Mate 30 Series ทำออกมาได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่า Mate 20 Pro จะมีความละเอียดที่สูงกว่าก็ตาม

ประสิทธิภาพตัวเครื่อง

ในส่วนของสเปคภายในสำหรับ Mate 30 / 30 Pro จะมาพร้อมกับการใช้งานชิปเซ็ต Kirin 990 พร้อมกับแรม 8GB อย่างไรก็ตามในส่วนของที่เก็บข้อมูลภายในในรุ่น Mate 30 จะมาพร้อมกับที่เก็บ 128GB ขณะที่ Mate 30 Pro จะอยู่ที่ 256GB ส่วนตัวของ Mate 20 / 20 Pro จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Kirin 980 แรม 6GB ขณะที่เก็บข้อมูลอยู่ที่ 128GB ส่วนที่เก็บข้อมูลภายในจะใช้งานเป็นตัวของ NM Card สูงสุด 256GB ทั้งหมด ในภาพรวมแล้วหากเทียบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ก็ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่หากถามว่ามีความก้าวกระโดดแบบสุด ๆ เลยหรือไม่อาจจะบอกได้ไม่เต็มปากนัก

กล้อง

เรียกได้ว่าน่าจะเป็นเหตุผลหลักในการเปลี่ยนแปลงมาใช้งาน Mate 30 Series ก็ว่าได้เนื่องจากว่ากล้องเป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวกล้องเองหรือฟีเจอร์ภายใน ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 40MP f/1.6 (Mate 30 Pro) และ f/1.8 (Mate 30) + 8MP f/2.2 (Mate 30) และ 40MP f/1.6 (Mate 30 Pro) Ultra Wide + 8MP f/2.4 (Telephoto) โดยในตัวของ Mate 30 Pro จะมาพร้อมกับเลนส์อีกหนึ่งตัวเป็น 3D Depth Sensor รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K 60fps พร้อมกับระบบกันสั่น OIS + AIS รวมไปถึงการถ่าย Ultra Slow-mo 7680fps ขณะที่กล้องหน้า Mate 30 อยู่ที่ 24MP f/2.0 และ Mate 30 Pro อยู่ที่ 32MP f/2.0 + Depth Sensor

ในส่วนของกล้องสำหรับ Mate 20 / 20 Pro จะมีกล้องให้ 3 ตัวแต่จะมีความละเอียดแตกต่างกัน 12MP f/1.8 (Mate 20) และ 40MP f/1.8 (Mate 20 Pro) + 16MP f/2.2 (Mate 20) และ 20MP f/2.2 (Mate 20 Pro) Ultra Wide) + 8MP f/2.4 (Telephoto) สำหรับการถ่ายวิดีโอถ่ายได้สูงสุด 4K 30fps พร้อมระบบกันสั่น AIS ส่วนการถ่ายแบบ Super Slow-mo 960fps กล้องหน้าความละเอียดเท่ากันที่ 24MP f/2.0 เรียกได้ว่าในหัวข้อของการถ่ายภาพ Mate 30 Series จัดว่ามีการยกเครื่องขึ้นมาเป็นอย่างมาก ใครที่มี Mate 20 Series อยู่ในมือน่าจะเป็นเหตุผลในการเปลี่ยนเป็นอย่างยิ่ง

แบตเตอรี่

เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่มีการยกเครื่องขึ้นมาเช่นเดียวกันโดย Mate 30 / 30 Pro มีแบตเตอรี่ที่ 4200mAh และ 4500mAh รองรับระบบชาร์ตเร็ว Huawei SuperCharge 40W และ SuperWirelessCharge 27W แต่สำหรับ Mate 20 / 20 Pro แบตเตอรี่มีความจุ 4000mAh และ 4200mAh โดยระบบชาร์ตไวของทั้งสองรุ่นจะต่างกัน Mate 20 รองรับ Huawei SuperCharge 23W ขณะที่ Mate 20 Pro รองรับ Huawei SuperCharge 40W ขณะที่การชาร์ตไร้สายจะรองรับ Wireless Quick Charge 15W ทั้งคู่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ Mate 30 Series ทำออกมาได้ดีกว่าเดิม แม้ว่าในเรื่องของความจุจะไม่ได้แตกต่างกันถึงระดับ 1000mAh ก็ตาม

จากสิ่งที่เรายกมาให้ได้ดูกันคงจะต้องบอกว่าหากใครที่กำลังสนใจ Mate 30 Series ถือว่าเป็นเวลาอันดีที่จะหาซื้อมาใช้งานเมื่อมีการวางจำหน่าย แต่สำหรับใครที่มี Mate 20 Series อยู่ในมือหตุผลที่น่าจะเป็นเหตุผลหลักในการเปลี่ยนมาใช้งานรุ่นใหม่กว่าคงจะเป็นเรื่องของกล้องที่มีการอัปเกรดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับสเปคของตัวเครื่องต้องบอกว่าแม้จะมีการยกเครื่องให้ดีกว่าเดิม แต่หากเทียบกันจริง ๆ แล้วถือว่า Mate 20 Series ก็ยังคงเป็นรุ่นที่น่าใช้งานเช่นกัน เพราะรองรับการเล่นเกมและการทำงานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี อีกเรื่องที่ยังทำให้ Mate 20 Series น่าใช้งานอยู่คงหนีไม่พ้นเรื่องของบริการ Google ที่ยังคงมีให้ใช้งานอยู่ต่างจาก Mate 30 Series ที่ไม่มีให้ใช้งานแล้ว

ที่มา – ThisIsGame

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save