จะบอกเธอได้อย่างไรว่า เธอทำร้ายคุณ…โดยไม่ทำให้ความสัมพันธ์มันแตกหัก

มันไม่ง่ายเลยที่จะบอกใครสักคน ว่าพวกเขาทำร้ายคุณ และมันยิ่งยากขึ้น เมื่อคนๆนั้น เป็นแฟนของคุณ และคุณเป็นห่วงความรู้สึกเธอ อาจดูอ่อนไหวหรืออ่อนแอ! แต่มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้ความสัมพันธ์มันไปรอด…

แต่เป็นเรื่องปกติเวลาที่ผู้ชายจะรู้สึกเจ็บ เมื่อต้องอยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาว ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ความจริงที่ว่าเราไม่มีสคริปต์ทางวัฒนธรรมเหมือนภาพยนตร์ หรือทีวี เลยทำให้การสนทนาเป็นเรื่องยากเป็นพิเศษได้

แต่เรามีเคล็ดลับในการทำให้เรื่องนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกคนมีความสามารถในการทำร้าย และเจ็บปวด ดังนั้นเราจึงต้องมีวิธีการในการลดแรงกระแทกทางอารมณ์ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยเหตุและผล และเกิดการกระทบกระทั่งกันให้น้อยที่สุด

1..

อย่าเอาแต่กล่าวโทษคนอื่น เพื่อลดความเสียใจของตัวเอง

“ผมต้องการที่จะซื่อสัตย์กับคุณ ผมกำลังคิดเกี่ยวกับ [สิ่ง X ที่คุณก็ทำ] และผมรู้สึกเจ็บเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเศร้า”

ไม่ควรทำ!!

อะไรที่เธอทำ แล้วคุณไม่ชอบ แต่คุณเองก็เคยทำ…การเปิดช่องโหว่เช่นนี้ น่ากลัวเหมือนนรก แต่นั่นเป็นสาเหตุที่สำคัญ อย่าคิดว่าจะกวาดปัญหาทิ้งไว้ที่ใต้โต๊ะ หรือปล่อยมันไป เพราะมองว่ามันเป็นปัญหาเล็กน้อย

หากคุณได้รับบาดเจ็บจากสิ่งที่คู่ของคุณทำ และคุณแกล้งทำเป็นว่าคุณไม่ทำ ไม่ได้ทำมาก่อน สิ่งนี้จะรบกวนคุณ และทำให้เกิดความขุ่นเคือง (ซึ่งอาจทำให้ระดับความโกรธเพิ่มขึ้นได้ในภายหลัง) ถ้าคุณต้องการให้แฟนของคุณ ทำตัวเหมือนว่าไม่ได้ ? ดังนั้นอย่าทำมันซะเอง

ทำได้!!

บอกเธออย่างเรียบง่าย และชัดเจนว่าคุณรู้สึกอย่างไร มันจะทำให้เธอเห็นอกเห็นใจมากขึ้น และเธอจะมีโอกาสน้อยลงที่จะป้องกัน! แทนที่จะกล่าวโทษเธอ แต่ให้ใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของคุณ (“ ผมรู้สึก”) เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในการสนทนา ที่ วางกรอบใหม่สำหรับการสนทนา (จากการกระทำของเธอเองเพื่อผลของการกระทำเหล่านั้น)

2.

อธิบายด้วยเหตุและผล ว่าทำไมมันรบกวนคุณ

“เมื่อคุณเปรียบเทียบผมกับแฟนเก่าของคุณ มันทำให้ผมรู้สึกไม่มั่นคง เหมือนผมไม่ดีพอ ผมคิดถึงมันอยู่เสมอ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าคุณไม่มีความสุขกับผม เหมือนที่คุณอยู่กับเขา”

บางทีเธอคงไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณ เธออาจจะประมาท และไม่รู้ว่าคำพูดของเธอจะลงเอยอย่างไร! ดังนั้นเธอจะเข้าใจได้อย่างไรถ้าคุณไม่อธิบาย และไม่ทำลายเธอด้วยอารมณ์โกรธ

อธิบายให้ฟัง เพื่อที่เธอจะได้รู้ว่า เธอทำอะไรผิด และไม่ทำมันอีก อีกอย่างคือ จงอดทน ใช่คุณอาจรู้สึกงี่เง่าที่จะต้องสะกดอารมณ์ไว้ แต่มันจะดีกว่าที่จะให้บริบท และความกระจ่าง ด้วยความเกรี้ยวกราด เพื่อแสดงว่าความรู้สึกของคุณถูกต้อง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น

แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณใช้เหตุผล และใจเย็นกับเธอ มันจะช่วยได้ถ้าคุณสามารถอธิบายได้ว่าทำไมความรู้สึกแบบนี้มันถึงมีตัวตน และมันทำให้คุณบั่นทอนในจิตใจ

3.

อย่าเอาแต่ตัดสิน…อย่าคิดแต่จะพิพากษา

ต่อต้านการที่จะพูดว่า “คุณมักจะทำผิด….” หรือ “คุณเป็นคนที่สร้างความเจ็บปวด” Generalising เป็นนิสัยที่ยากที่จะทำลาย แต่ในกรณีนี้มันไม่ช่วย สิ่งที่คุณกำลังทำคือการเป็นปรปักษ์กับเธอ!

มันอาจจะทำให้เธอหวาดระแวง และสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นหากคุณทำสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ดีของเธอ หรือแนวโน้มทั่วไปที่จะทำร้ายความรู้สึกของเธอ หากเธอไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดซ้ำๆ ให้หลีกเลี่ยงการอธิบายลักษณะนั้น

เก็บไว้ใช้ในกรณีที่เฉพาะเจาะจง เช่น “คืนนั้น เมื่อคุณนินทาเรากับเพื่อนของคุณ นั่นทำให้ฉันรำคาญ” กรณีนี้คุณมีหมุดให้เธอพูดถึง นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถหักล้างได้ คุณต้องพูดอย่างยุติธรรม นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่คุณสองคนจะเข้าร่วมการแข่งขันตะโกนใส่กันอย่างบ้าคลั่ง

4.

เอาแต่สาดอารมณ์ใส่…ใจเย็นๆ น่ะเป็นมั๊ย?

“คุณหมายถึงอะไร คุณไม่คิดว่าคุณทำอะไรผิด คุณทำผิดพลาด คุณทำตัวเหมือนคนแย่ๆ คุณมีความรับผิดชอบได้อย่างไร?”

คนส่วนใหญ่มีความอดทนต่อความคิดที่ว่า พวกเขาสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำไมอีกฝ่ายไม่ให้อภัยในความไม่ตั้งใจนั้น สมมติว่าคุณเผชิญหน้ากับเธอ และเธอจะไม่ยกโทษ หรือไม่ขอโทษ และล้มลงทันทีที่คุณขอร้องให้ยกโทษ (มันคงจะแปลกถ้าเธอทำ!)

เย็นไว้ ใจต้องสงบ อย่าออกนอกลู่นอกทาง คุณยังคงต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ และคุณสามารถช่วยให้เธอเห็นทีละเล็กทีละน้อย ถ้าคุณเอาแต่โกรธ และเปลี่ยนการสนทนาให้กลายเป็นการต่อสู้กับความสัมพันธ์ครั้งใหญ่ ความโกรธของคุณจะไม่ทำให้เธอเห็นใจคุณอีกต่อไปจำไว้!

“ผมเข้าใจแล้วว่าคุณไม่คิดว่าคุณทำอะไรผิด แต่ผมก็ยังได้รับบาดเจ็บ และความตั้งใจของคุณไม่เปลี่ยนผลกระทบของสิ่งที่เกิดขึ้น ผมหวังว่าคุณจะเห็นสิ่งนั้น”

นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการจัดวางเฟรม การชี้ไปที่เธอว่าเจตนานั้นไม่ได้ลดผลกระทบต่อความรู้สึก คุณกำลังรีไฟแนนซ์เธออย่างมีเหตุมีผลโดยไม่ทำให้หน้าโมโหหน้าแดง หรือรู้สึกผิดจนก้มหน้าลง หากคุณวางไว้ในลักษณะนี้ ความรู้สึกของเธอจะเปิดกว้างมากขึ้น พอที่จะเห็น (และหวังว่าจะยอมรับ!) ความผิดพลาดของเธอ

5.

ท้ายที่สุด ถ้าไม่ไหว…ก็ให้ MOVE ON

“ผมไม่รู้ว่าเราจะไปจากที่นี่ แต่ผมมั่นใจว่าเราสามารถใช้ชีวิตได้ ผมรักคุณ และผมก็บอกเรื่องนี้กับคุณ เพราะผมไม่ต้องการที่จะเจ็บปวดเช่นนี้อีก โปรดลองคิดดูสิ และลองระวังความรู้สึกของกันและกันให้มากขึ้น”

ถ้าสุดท้ายแล้ว คุณไม่ไหวจริงๆ ถ้าทุกเหตุผลมันไม่เพียงพอที่จะบอกเธอว่าเธอทำร้ายคุณ คุณต้องการอะไร? คุณเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นจากตรงไหน… และหากคุณต้องการให้เธอชดใช้ บอกเธออย่างนั้น แต่ควรบอกเธอเบาๆ และจบลงด้วยโน้ตที่เป็นบวก

เมื่อเผชิญกับข่าวร้ายผู้คนค้นหาวิธีที่จะรับมือ พวกเขาสามารถทำอะไรเพื่อบรรเทาสถานการณ์ได้บ้าง พวกเขาทำอะไรได้บ้าง? หากคุณเสนอตัวอย่างของการกระทำที่เป็นรูปธรรมแก่เธอ

“เราสัญญาว่าจะไม่พูดสิ่งที่ประมาท หรือเป็นอันตรายแก่กันและกัน” เธอจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ความสัมพันธ์ของคุณจะแข็งแกร่งขึ้นซึ่งมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับความสัมพันธ์

การรักษาความรู้สึกของใจ ของกันและกัน มันย่อมดีกว่าการแตกหัก หรือการหักล้างความรู้สึกในใจ ท้ายที่สุดแล้ว หากมันไม่ใช่ ก็ดีกว่าถ้ามันจะยังคงเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวก…ขอให้ โชคดี!