การซื้อชุดสูทออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การซื้อชุดสูทที่เหมาะสม และดูดีนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อนกว่าเล็กน้อย ถึงแม้ว่าการตัดเย็บจะดูเป็นศิลปะ แต่ก็เป็นศาสตร์ที่แปลกประหลาดด้วยตัวแปรต่างๆ ดังนั้นเพื่อให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น เรามีวิธีเลือกซื้อสูทออนไลน์มาฝากกัน

กุญแจสำคัญในการสั่งซื้อชุดสูทที่ดดี และเหมาะสมกับคุณนั้น เป็นเรื่องที่ควรจะศึกษา เพื่อไม่ทำให้คุณดูเหมือนว่าคุณบุกเข้าไปในตู้เสื้อผ้าของพ่อ หรือแย่กว่านั้น ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดคือการทำวิจัยเล็กน้อยก่อนที่คุณจะคลิกเพียงครั้งเดียว เราจึงได้รวบรวมรายการที่ครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการซื้อชุดสูทบนอินเทอร์เน็ต มาดูกันว่าอะไรบ้างที่คุณต้องรู้

1. รู้จักการวัดของคุณ

การสั่งซื้อชุดสูทที่ไม่มีการวัดตัวก็เหมือนกับการปิดตาเลือก ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดในการค้นหาของคุณคือการ “วัดจากเสื้อสูทที่คุณมีอยู่ ถ้าเสื้อผ้าที่คุณกำลังเล็งอยู่มีขนาดใกล้เคียงกับชุดที่มีอยู่ คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่ามันจะพอดี” นี่เป็นกฎทั่วไป

หน้าอก: วางแจ็คเก็ตราบ แล้วใช้เทปวัดจากรักแร้ถึงรักแร้ หากคุณไม่มีแจ็คเก็ตให้วัดรอบส่วนที่กว้างที่สุดของหน้าอกของคุณ (โดยปกติจะอยู่ที่ความสูงของหัวนม) ใต้แขน และใช้นิ้วกั้นระหว่างเทปกับร่างกายของคุณเพื่อความสบาย

รอบเอว: จับกางเกงที่พอดี (กางเกงยีนส์ หรือกางเกงชิโน) แล้ววางให้แบนราบ จากนั้นให้วัดรอบเอวจากขอบหนึ่งไปอีกขอบหนึ่ง เพื่อวัดขนาดเอวของคุณ หรือพันเทปไว้รอบส่วนเอวของร่างกายของคุณ

Inseam: วางกางเกงที่มีอยู่แล้ววัดระยะจากบริเวณกระดุมตรงขอบของกางเกง หรือให้ยืนตรง ขายืดตรง และวัดจากด้านในของขาของคุณ จากขาหนีบของคุณไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการให้กางเกงของคุณจบ (ระหว่างข้อเท้า และด้านบนของรองเท้า)

2. รู้ขนาดของคุณ

ขนาดชุดสูทไม่เป็นสากล แบรนด์ส่วนใหญ่จะใช้ขนาดมาตรฐานของ UK / US ซึ่งใช้การวัดหน้าอกเป็นนิ้ว ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณมีหน้าอกขนาด 38 นิ้ว แจ็คเก็ตขนาด 38 ควรพอดีกับคุณ

เช่นเดียวกันกับกางเกงซึ่งวัดโดยขนาดรอบเอว อย่างไรก็ตามบางเว็บไซต์จะใช้การปรับขนาดยุโรป (ทำเครื่องหมาย EU) หรืออิตาลี (IT) ซึ่งใช้เวลาประมาณครึ่งหนึ่งในการวัดหน้าอก

วิธีที่ง่ายกว่าในการค้นหาขนาดแจ็คเก็ตขนาด EU / IT คือการเพิ่มขนาด 10 ลงในขนาด UK / US ของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชายที่มีหน้าอกขนาด 40 นิ้ว ควรสั่งเสื้อแจ็คเก็ต EU 50 สำหรับกางเกงขายาวเพิ่ม 8 ในขนาด UK / US ของคุณเพื่อปรับขนาด EU ของคุณ หรือ 16 เพื่อรับขนาด IT ของคุณ (เช่นถ้าคุณมีขนาด 32 นิ้วให้สั่ง EU 40 หรือ IT 48)

3. รู้ความฟิตของคุณ

“สำหรับบางอย่างที่จะดูดี และรู้สึกดี มันก็ต้องพอดี” เมื่อช้อปปิ้งออนไลน์สิ่งสำคัญคือการดูรูปถ่ายอย่างละเอียด และอ่านคำอธิบายผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อดูสิ่งที่พวกเขาพูดเกี่ยวกับชุดสูท ไม่ว่าจะเป็นแบบบาง แบบธรรมดา หรือแบบคลาสสิก ตรวจสอบฉลากของสินค้านี่คือพื้นฐาน

Skinny

ส่วนที่พอดีที่สุดของแจ็คเก็ตทรงพอดีแบบ Skinny จะตัดรอบหน้าอก แล้วหนีบที่เอว และจะมาพร้อมกับกางเกงทรงขาเรียว และแคบ เป็นทรงเข้ารูป ซึ่งชุดสูททรงสกินนี่ที่ดีที่สุดคือชุดที่เรียบง่าย กระดุมแถวเดียวที่มีหนึ่ง, สอง หรือสามกระดุม และปกที่แคบ โดยทั่วไปแล้วทรงนี้เหมาะสำหรับผู้ชายที่เตี้ย หรือสูงปานกลาง

Slim

ชุดสูทแบบบางนั้น มีความหลากหลายมากที่สุด โดยมีแจ็คเก็ตที่ปรับให้เข้ากับลำตัว และกางเกงขายาวที่แคบ และตรง มันดูดีในการตัด้ย็บแบบเดี่ยว หรือกระดุมสองชั้น และเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ชายที่มีรูปร่างสูงขึ้นขึ้นมาหน่อย ที่สามารถดูเท่ห์ในแบบที่ผอมเพรียว และสำหรับผู้ชายที่มีความสูงปานกลางที่มีรูปร่างปานกลาง

Classic (คลาสสิก)

บางครั้งก็มีป้ายกำกับชุดสูทแบบคลาสสิกซึ่งถูกตัดเย็บให้มีความกว้างรอบๆ หน้าอก และเน้นปล่อยตรงบริเวณเอว พร้อมกางเกงที่ออกแบบ และตัดเย็บแบบไม่แน่นหรือเข้ารูปจนเกินไป เพื่อให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้น แต่ควรจับคู่กับการเลือกเสื้อสูทแบบกระดุมสอง หรือกระดุมเดี่ยวเพื่อให้มันดูทันสมัย

ไม่มีโครง

ช่างตัดเสื้อแบบดั้งเดิมมักตัดเย็บโดยเสริมโครงเสื้อบริเวณช่วงไหล่ เพื่อให้ทรงที่อยู่ตัว และเสริมให้ช่วงไหล่ดูยก ดูสง่าผ่าเผยสำหรับคนไหล่ตก แต่ในปัจจุบันมีการดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยการขยายที่ช่วงไหล่ เพื่อให้ได้โครงสร้างแจ็คเก็ตสูทที่ดูสบายๆ ที่ไม่มีโครงสร้างที่ดูแข็งแกร่งมากจนดูทางการเกินไป รวมถึงการเลือกใช้เนื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้ง่าย และรู้สึกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละโอกาส

4. การเลือกผ้า

รูปลักษณ์ และความรู้สึกของชุดสูทอาจเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการช็อปปิ้งออนไลน์ รูปถ่ายผ้าภายใต้แสงไฟสตูดิโอที่สว่างไสวไม่จำเป็นว่าจะต้องดูอย่างไรในชีวิตจริง สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าผ้าฤดูหนาวที่มีน้ำหนักมากอาจมีความรู้สึกที่แตกต่างจากผ้าฤดูร้อนที่มีน้ำหนักเบา ถึงแม้ว่าวิธีการวัดขนาดนั้นจะเหมือนกันมากทีเดียว

ผ้าขนสัตว์: ทางเลือกดั้งเดิมสำหรับการตัดเย็บผ้าขนสัตว์มีความอ่อน นุ่ม ระบายอากาศได้ และหากมองตามช่วงเวลาจะสวมใส่ได้ดี มองหาขนน้ำหนักกลางๆ (ประมาณ 11-12 ออนซ์) ซึ่งสามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าโอกาสใดๆ

ผ้าฝ้าย: เหมาะสำหรับงานแต่งงานในฤดูใบไม้ผลิ ชุดผ้าฝ้ายนั้นอยู่ในกลุ่มที่เบา และระบายอากาศได้ดีที่สุด แต่มีความยืดน้อย

ผ้าลินิน: น้ำหนักเบาที่สุดของผ้าสูททั้งหมด ลินินเหมาะสำหรับเดือนที่อากาศอบอุ่น แต่มีแนวโน้มที่จะยับง่าย ชุดสูทผ้าลินินที่ไม่มีโครงสร้างเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแต่งตัวแบบสมาร์ทแคชชวล ด้วยการผสมผสานระหว่างผ้าลินินแบบมีโครงสร้าง และผ้าลินินผสม ซึ่งทำงานได้ดีสำหรับโอกาสที่ดูเป็นทางการ

โพลีเอสเตอร์: ชุดสูทที่ทำจากโพลีเอสเตอร์ 100 เปอร์เซ็นต์ เส้นใยสังเคราะห์ (และเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนน้อยที่สุด) โพลีเอสเตอร์ไม่หายใจเหมือนผ้าธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่ามันจะทำให้คุณเหงื่อออก และอึดอัด โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน

ตัวอย่างรูปแบบเสื้อสูทที่ที่ดีที่สุดในการซื้อสูทออนไลน์

การซื้อสูทออนไลน์: เคล็ดลับสำหรับมืออาชีพ

ตรวจสอบนโยบายการคืนสินค้า

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้แน่ชัดว่าคุณต้องส่งคืนชุดที่ไม่เหมาะสม หรือชำรุด หรือมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ตามกฎหมายแล้วผู้ค้าปลีกจะต้องให้เวลาคุณอย่างน้อย 14 วันในการเปลี่ยนคืน แต่ในบางกรณีคุณอาจต้องครอบคลุมค่าส่งคืนด้วยตนเอง

รับการเปลี่ยนแปลง

แน่นอนว่าการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์นั้นมีความเสี่ยงสูง ซึ่งคุณจะต้องทำการศึกษา รวมไปถึงการรีวิวต่างๆจากลูกค้าท่านอื่นๆ ซึ่งคุณจะต้องยอมรับความเสี่ยงที่ว่า คุณอาจจะไม่ได้สีตามรูปบนเว็ปไซต์แบบ 100 % หรือขนาดตามที่คุณวัดแบบเปะๆ รวมไปถึงคุณภาพเนื้อผ้าต่างๆ และการตัดเย็บด้วย เพราะสินค้าจริงอาจสร้างความแตกต่างอย่างมากจากภาพที่ลงขายบนเว็ปไซต์

เรียนรู้รายละเอียด

ใช้เวลาอ่านข้อมูลพื้นฐานของการตัดเย็บ มีปกที่แตกต่างกัน ประเภทของกระเป๋า สไตล์ไหล่ และรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของชุดสูท