กุนซือฝีมือดีที่ต้องมาดับในพรีเมียร์ลีก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
กุนซือฝีมือดีที่ต้องมาดับในพรีเมียร์ลีก

        ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือเป็นฟุตบอลลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ และผู้จัดการทีมมากหน้าหลายตา ต่างก็สลับสับเปลี่ยนกันเขามาทำหน้าที่กันอย่างมากมาย บางคนประสบความสำเร็จ และบางคนก็ล้มเหลว

        อดีตยอดกุนซือฝีมือดีเหล่านี้ ต่างก็เคยฝากผลงานชิ้นโบว์แดงไว้กับทีมเก่าของตัวเอง แต่เมื่อมาได้สัมผัสบรรยากาศการทำงานในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแล้วนั้น พวกเขากลับเอาชื่อเสียงของตัวเองมาทิ้งเอาดื้อๆ และบางรายแทบกลายเป็นโค้ชที่ถูกลืมไปแล้ว

Source : telegraph

1. บรูซ ริอ็อค (อาร์เซน่อล)

ริอ็อค นำ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงเวลา 3 ปีที่เขาคุมทีม รวมถึงพาพลพรรค “เดอะ ทร็อตเตอร์” เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลถ้วยลีก คัพ ได้อีกด้วย นั่นทำให้ อาร์เซน่อล ไม่ลังเลที่จะดึงเขามากุมบังเหียนในปี 1995

อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวสก็อตแลนด์ ทำผลงานกับ อาร์เซน่อล ได้ไม่ดีนัก และเขาคุมทีมได้เพียงปีเดียวเท่านั้น โดยสิ่งเดียวที่แฟนบอล “ไอ้ปืนใหญ่” จดจำเขาได้ก็คือ การซื้อตัว เดนนิส เบิร์กแคมป์ ตำนานดาวยิงชาวดัตช์ มาร่วมทีม

ภายหลังอำลา อาร์เซนอล ริอ็อค ไม่ได้กลับมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีก อีกเลย เขาตระเวนไปทำงานกับทีมในดิวิชั่นที่ต่ำกว่า อาทิ นอริช ซิคี้ และวีแกน แอธเลติก เป็นต้น

Source : telegraph

2. เฟลิกซ์ มากัธ (ฟูแล่ม)

กุนซือเจ้าของฉายา “จอมขมังเวทย์” ผู้เคยคว้าแชมป์บุนเดสลีกา ร่วมกับทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และโวล์ฟสบวร์ก มาแล้วนั้น กลับต้องมาล้มเหลวอย่างไม่น่าเชื่อกับ ฟูแล่ม ในปี 2014 หลังจากที่เขาไม่สามารถพา “เจ้าสัวน้อย” อยู่รอดในพรีเมียร์ลีก 

เบรเด้ ฮาเกแลนด์ อดีตกองหลัง ฟูแล่ม เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่บริเวณต้นขาจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วง และวิธีการที่แปลกประหลาด ภายใต้การควบคุมของ มากัธ ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นักเตะ ฟูแล่ม หลายคนฟอร์มตกด้วยเช่นกัน

ภายหลัง ฟูแล่ม ตกลงมาเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ มากัธ โดนไล่ออกหลังจากพาทีมเก็บได้เพียง 1 แต้ม จาก 7 เกมแรก จากนั้น โค้ชชาวเยอรมัน ย้ายไปคุม ซานตง ลู่เหนิง ในศึก ไชนีส ซูเปอร์ลีก จนถึงปี 2017 ก่อนจะอำลาทีม และว่างงานจนถึงปัจจุบัน

Source : express

3.เรมี่ การ์ด (แอสตันวิลล่า)

การ์ด เคยคุมทีม โอลิมปิก ลียง ได้แชมป์ เฟร้นช์ คัพ ในฤดูกาล 2011-12 และแชมป์โทรฟี่ เดส์ แชมปิยงส์ ในปี 2012 มาแล้ว ก่อนจะย้ายมาคุมทัพ แอสตัน วิลล่า ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 ซึ่งหลายคนคิดว่า “สิงห์ผยอง” ได้กุนซือฝีมือดีไปคุมทีมแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส ปฏิวัตินโยบายของ วิลล่า เกือบทั้งหมด เขาสั่งยกเลิกแผนการให้นักเตะได้พักในคริสต์มาส โดยให้เหตุผลว่า ทีมกำลังอยู่ในอันดับบ๊วย ซึ่งมันไม่มีเอฟเฟ็กต์ตอบสนองตามที่เขาต้องการ

จากนั้น การ์ด โดนไล่ออกโดยที่ยังไม่จบซีซั่น หลังพา วิลล่า เก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัด จาก 20 เกมที่ลงสนาม ซึ่งนับเป็นสถิติการเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น

Source : brightspotcdn

4. บ๊อบ แบรดลี่ย์(สวอนซี)

แบรดลี่ย์ จะถูกจดจำในฐานะโค้ชชาวอเมริกันคนแรกที่ได้คุมทีมในพรีเมียร์ลีก แต่น่าเสียดายที่เขาทำงานได้ไม่นานนักกับ สวอนซี หลังจากที่คุมทัพ “หงส์ขาว” ได้เพียง 11 เกมเท่านั้น ก่อนที่จะโดนปลดออกจากตำแหน่ง

ขณะเดียกัน ดูเหมือนว่า แบรดลี่ย์ ไม่สามารถถ่ายทอดคำแนะนำทางแท็คติคที่ซับซ้อนเกินไปให้กับผู้เล่นของ สวอนซี เข้าใจได้ ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วที่จะเห็นว่า “หงส์ขาว” ตัดสินใจไม่ให้โอกาสเขาคุมทีมต่อไป

Source : bluemix

5.แฟรงค์ เดอ บัวร์ (คริสตัล พาเลซ)

อดีตยอดกองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ผู้เคยนำ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้าแชมป์เอริวิซี่ 4 สมัย ได้ย้ายไปคุม อินเตอร์ มิลาน ในปี 2016 และ เดอ บัวร์ คุมทัพ “งูใหญ่” ได้เพียง 85 วันเท่านั้น ก่อนจะย้ายมากุมบังเหียน คริสตัล พาเลซ

เดอ บัวร์ คงไม่คาดคิดว่า งานกับ พาเลซ จะเลวร้ายไปมากกว่าที่ อินเตอร์ อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาคิดผิดมหันต์ โดยโค้ชชาวดัตช์ พาทีมแพ้ 5 นัดรวด จาก 5 เกมที่ลงสนาม ก่อนจะโดนไล่ออกหลังอยู่กับ “เดอะ อีเกิ้ลส์” ได้เพียง 77 วันเท่านั้น

Source : mylondon.news

6.ลอว์รี่ ซานเชซ (ฟูแล่ม) ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ

หลังจากที่ ฟูแล่ม ตัดสินใจปลด คริส โคล โค้ชชาวเวลส์ ออกจากตำแหน่ง ซานเชซ ได้เข้ามาทำหน้าที่แทน จากนั้นเจ้าตัวเซ็นสัญญากับนักเตะชาวไอร์แลนด์เหนือชาติเดียวกับเขามาร่วมทีมหลายราย ประกอบด้วย เดวิด ฮีลี่ย์, สตีเฟ่น เดวิส, อารอน ฮิวจ์ส และคริส เบียร์ด

อย่างไรก็ตาม นักเตะบ้านเดียวกันที่ ซานเชซ คว้าตัวมาร่วมทีมต่างพร้อมใจพากันฟอร์มตก โดย ฟูแล่ม เก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 เกม ก่อนวันคริสต์มาสปี 2007 และต้องลงไปอยู่ในโซนตกชั้น ซึ่งทาง “เจ้าสัวน้อย” ก็ไม่รอช้าที่จะเด้ง โค้ชชาวไอร์แลนด์เหนือ ออกจากตำแหน่งทันที

ภาพประกอบ : telegraph.co.uk, express.co.uk, latimes.com, fulhamish.co.uk,

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save