ยุคนี้เป็นยุคออนไลน์น่ะครับ นอกเหนือจากภาพยนตร์ที่เราเคยชมกันในโรง หรือเอากลับมาชมที่บ้านผ่าน DVD หรือ Blu-Ray อะไรก็แล้วแต่ ก็ยังมี “สตรีมมิ่ง” หรือระบบความบันเทิงออนไลน์ ซึ่งเข้ามาเป็นทางเลือกสำคัญของผู้คนยุคนี้ ตัวอย่างก็ไม่ต้องคิดไปไกล Netflix นั่นแหละ
(Source : SarahTierney.me)
อย่างไรก็ดี ในธุรกิจที่มีชื่อเป็นทางการว่า “SVOD” หรือ “Subscription Video On-demand” หรือแปลเป็นไทยๆ ก็น่าจะเป็น “สตรีมมิ่งคอนเทนท์บันเทิง ที่ต้องชำระค่าบริการ” มันยังมีคู่แข่งรายอื่นในตลาดอีกนอกเหนือจาก Netflix อย่างเช่น HBD Now, Amezon Prime Video, ESPN+ หรือ Hulu รวมถึงคู่แข่งรายบิ๊กรายใหม่ “Disney+” (ดิสนีย์พลัส) ที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้
“Disney+” เป็น SVOD ของ Disney บริษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีคอนเทนท์บันเทิงมากมายอยู่ในมือ โดย Disney+ มีกำหนดเปิดให้บริการในอเมริกา, แคนาดา และฮอลแลนด์ ในวันที่ 12 พ.ย. นี้แล้ว ก่อนจะเปิดให้บริการในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในอีก 7 วันให้หลัง
(Source : TechHive)
สำหรับภูมิภาคอื่นๆ อย่างเช่น เอเชียของเรา มีการคาดการณ์กันว่า Disney+ จะเปิดให้บริการกันประมาณเดือน ก.ย. ปี 2021 หรืออีกเกือบ 2 ปีนู่นเลย
แต่แม้ Disney+ จะยังไม่เข้ามาเปิดให้บริการบ้านเรา แต่คอนเทนท์อันมากมายภายใต้ร่มใบใหญ่อย่าง Disney ก็มีหลายอันที่น่าสนใจ ดังนั้นแล้ว เราจึงไม่พลาดที่จะหยิบบางอันที่ดูหรูหราหมาเห่า มาพรีวิวกันดูหน่อย
กลุ่ม Marvel
เริ่มต้นจาก “Marvel” หนึ่งในสตูดิโอลูกภายใต้ Disney ที่กลายเป็นอภิมหาแบรนด์ระดับโลกไปเรียบร้อย ซึ่งใน Disney+ เอง นอกเหนือจากหนัง และอนิเมชั่นของ Marvel เก่า จะมีให้ชมกันครบถ้วนแล้ว ยังมีคอนเทนท์สร้างใหม่ หรือ “ออริจินอล” มาให้ชมกันด้วย
The Falcon and the Winter Soldier
(Source : Film Goblin)
การกลับมาอีกครั้งของคู่หูที่หนัง Marvel พยายามสร้างเคมีปูเผื่อไว้ ระหว่าง “Falcon” และ “Winter Soldier” ซึ่งแน่นอนว่า “แอนโธนี่ แม็คกีย์” และ “เซบาสเตียน สแตน” จะกลับมารับบทเดิมในซีรีส์เรื่องนี้อีกครั้ง
ซีรีส์ความยาวเพียง 6 EP จะเล่าเรื่องการรับบทบาทกัปตันอเมริกาคนใหม่ของ Falcon หลังพี่แคปปลดระวางไป โดยมี Bucky หรือ Winter Soldier เป็นคู่หูสำคัญ ในการรับมือกับเหล่าร้ายที่จะมาป่วนความสงบอีกครั้ง
(Source : The Telegraph)
มีการยืนยันว่า “แดเนี่ยล บรูลห์” จะกลับมารับบท “Baron Zemo” อีกครั้ง เช่นเดียวกับสาวที่ใครหลายคนคิดถึง “เอมิลี่ แวนแคมป์” ที่จะกลับมารับบท “ชารอน คาร์เตอร์”
ซีรีส์เรื่องนี้ มีกำหนดออกฉายทาง Disney+ ประมาณเดือน ส.ค. ปีหน้า (2020)
WandaVision
(Source : Screen Rant)
อีกหนึ่งซีรีส์ Spin-off จาก MCU ความยาว 6 EP ที่จะขยายเล่าเรื่องราวของตัวละคร “วานด้า แม็กซิมอฟ” หรือ “Scarlet Witch” กับ “Vision” โดยแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องราวที่ชัดเจน แต่คาดว่าจะเป็นการอธิบายถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และจะมีภาพในมโนความคิดของวานด้า เข้ามามีบทบาทด้วย
(Source : Uproxx)
“อลิซาเบ็ธ โอลเซ่น” และ “พอล เบทตานี่” จะกลับมารับบทเดิมกันทั้งคู่ ร่วมด้วย “แคท แดนนิ่งส์” เจ้าของบท “ดาร์ซี่” เพื่อนของ “เจน ฟอสเตอร์” ที่เคยปรากฏตัวใน Thor รวมทั้งยังมี “เอมิลี่ แวนแคมป์” ในบทชารอน ร่วมแจมอีกราย
“WandaVision” มีกำหนดฉายใน Disney+ ยาวๆ ปี 2021 นู่น
Loki
(Source : The Disinsider)
ซีรีส์ Spin-off ที่คาดว่าจะเล่าเรื่องราวของเทพเจ้าเล่ห์ “โลกิ” ในเส้นเรื่องที่เขาขโมย “Space Stone” ไปได้ ในช่วงการย้อนเวลาใน “Avengers: Endgame” โดย “ทอม ฮิดเดิลสตัน” จะกลับมารบบทเดิม ที่เขาเคยสร้างความประทับใจไว้
(Source : Slashfilm)
ตัวละครอื่นๆ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาเลย ว่าจะมีใครโผล่มาร่วมแจมบ้าง โดย “Loki” มีความยาว 6 EP เช่นกัน และมีกำหนดเข้าฉายราวต้นปี 2021
Hawkeye
(Source : JoBlo)
ต่อเนื่องกันอีกเรื่อง กับซีรีส์ที่จะขยายความต่อถึงผู้รับบท “Hawkeye” ในยุคใหม่ ซึ่งคาดกันว่าจะเป็น “เคท บิช็อป” ซึ่งจะมารับตำแหน่งฮีโร่มือธนูต่อจาก “คลินท์ บาร์ตัน” เจ้าของบทบาทเดิมที่เราคุ้นเคย
คาดกันว่า Marvel น่าจะมีการปูทางสู่ “Young Avenger” หรือทีมฮีโร่รุ่นใหม่ ซึ่งตามโลกออนไลน์จับโยงลูกคนนั้นคนนี้กันไปยกใหญ่ เคทน่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกบุกเบิก ซึ่งมีความสำคัญเริ่มต้นจากซีรีส์ความยาว 8 EP นี้
“เจเรมี่ เรนเนอร์” จะกลับมารับบทคลินท์อีกครั้ง โดยซีรีส์มีกำหนดฉายปลายปี 2021
คอนเทนท์อื่นๆ ของกลุ่ม Marvel
นอกเหนือจาก 4 เรื่องที่หยิบเอาตัวละครที่เราคุ้นเคยมาทำ Spin-off ตามที่เล่าไปแล้ว ยังมีคอนเทนท์อื่นอีกที่น่าสนใจ
Marvel’s Hero Project
[Source : YouTube (Marvel Entertainment)]
เป็นสารคดี หรือ Documentary ที่เล่าเรื่องราวจริงของเด็กๆ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เปรียบดั่งเป็นฮีโร่ที่มีตัวตนจริง โดยจะออกฉายพร้อมวันเปิดให้บริการเลย
Marvel’s What If…
อนิเมชั่นของ Marvel ที่จะลองเล่าเรื่องราวตอนต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับ MCU แบบแตกต่างออกไป คาดว่าจะออกฉายในปี 2021
She-Hulk
ซีรีส์ที่ยังไม่เปิดเผยเรื่องราว และวันออกฉาย แต่คาดว่าจะเล่าเรื่องราวของ “Hulk” อีกคนที่เป็นผู้หญิง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Hulk ไม่ได้มีแค่ “บรูซ แบนเนอร์” คนเดียว
กลุ่ม Star Wars
เฟรนไชส์ที่คลาสสิก และแข็งแกร่งอีกอันของ Disney ที่ไม่พลาดขนคอนเทนท์น่าสนใจมากมายออกมาเพิ่มความตื่นเต้นบน Disney+
The Mandalorian
(Source : ComingSoon)
ซีรีส์ทุนสร้างยังกะหนังฟอร์มใหญ่ ซึ่งถือเป็นเรือธงลำดับแรก ที่จะเปิดตัวฉายพร้อมกับการเปิด Disney+ ในอเมริกา
ซีรีส์ความยาว 9 EP เรื่องนี้ จะมี “จอห์น พาฟลู” ผู้กำกับ “Iron Man” 2 ภาคแรก (แถมยังรับบท “แฮปปี้ โฮแกน” ใน MCU จนถึงปัจจุบัน), “Jungle Book” และ “Lion King” เวอร์ชั่นคนแสดง มารับหน้าที่เขียนบทให้
“The Mandalorian” จะเล่าเรื่องราวของนักล่าค่าหัว ที่แฟนๆ Star Wars จดจำภาพลักษณ์ได้ดีจากตัวละคร “โบบ้า เฟตต์” ซึ่งแม้ “The Mandolorian” จะไม่ใช่โบบ้าโดยตรง แต่รับรองว่ากระตุ้นความอยากรู้เรื่องราวของแฟนๆ เต็มที่แน่นอน หลังค้างคาอยากให้ Lucas Film ทำมานาน
ผู้มารับบทนำของซีรีส์ ก็น่าสนใจ เพราะคือ “เปโดร ปาสคาล” หรือเจ้าชาย “โอเบอริน” จาก “Game of Thrones” นั่นเอง
Rogue One Prequel Series (ยังไม่มีชื่อทางการ)
(Source : TVweb)
หลังได้รับคำชมไม่น้อย จากการทำ Spin-off ที่จบในตัวอย่าง “Rogue One” ในที่สุดก็มีเรื่องราวหลังจากนั้น ทำออกมาเป็นซีรีส์ให้แฟนๆ ได้ติดตามดูกันต่อ
เรื่องราวจะกลับมาโฟกัสที่ “คาสเซี่ยน อันดอร์” หนึ่งในตัวละครเด่นจาก Rouge One ซึ่งจะได้ “ดิเอโก้ ลูน่า” กลับมารับบทเดิม แต่รายละเอียดอื่นยังไม่มีการเปิดเผย มีแค่กำหนดการฉาย ที่คาดว่าจะเป็นปี 2021
Obi-Wan Kenobi Series (ยังไม่มีชื่อทางการ)
(Source : Hollywood Reporter)
อีกหนึ่งเรื่องราว ที่มีคนเรียกร้องอยากชมมากที่สุด กับเรื่องราวโฟกัสไปที่ “โอบีวัน เคโนบี้” เจไดผู้มากความสามารถ ซึ่งเป็นอาจารย์ของ “ลุค สกายวอร์คเกอร์”
คาดกันว่าซีรีส์ จะมีความยาวประมาณ 6 EP ยังไม่มีกำหนดเวลาออกฉายแน่นอน แต่มีการยืนยันว่า “ยอน แม็คเกรเกอร์” จะกลับมารับบทโอบีวัน อย่างแน่นอน
กลุ่ม Pixar
พูดถึงเฟรนไชส์ใหญ่ที่เน้นไปทางหนังคนแสดงไปแล้ว จะไม่พูดถึง “Pixar” สตูดิโออนิเมชั่นคุณภาพ ที่โกยออสการ์มาแล้วเป็นว่าเล่น ก็คงจะไม่ได้
Forky Asks a Question
(Source : Film)
ใครที่ไปชม “Toy Story 4” มาแล้ว คงจะจำเจ้าส้อมตัวน้อย “Forky” กันได้ดี และเพื่อต้อนรับ Disney+ ทั้งที Pixar เลยผลิตอนิเมชั่นซีรีส์ขนาดสั้น มีทั้งหมด 10 EP บอกเล่าเรื่องราวของตัวขโมยซีนตัวนี้กันต่อ
“Forky Asks a Question” มีเนื้อหาที่น่าสนใจ และน่าจะแฝงไปด้วยแง่คิดตามแบบฉบับของ Pixar เมื่อเจ้าส้อมขี้สงสัย Forky พยายามจะหาความหมายของสิ่งต่างๆ และความเป็นไปของโลก
อนิเมชั่นซีรีส์เรื่องนี้ ได้ “โทนี่ เฮล” กลับมาให้เสียง Forky เหมือนเดิม และมีกำหนดออกฉายพร้อมกับการเปิดตัว Disney+ เลย
Monster at Work
(Source : TVLine)
อีกหนึ่งการขยายความต่อของอนิเมชั่นสุดประทับใจ “Monster Inc.” ในรูปแบบซีรีส์ ที่คาดว่าจะออกฉายภายในปี 2020 นี้
“Monster at Work” จะบอกเล่าเรื่องราวหลังเกิดเหตุการณ์ใน Monster Inc. 6 เดือน ซึ่งเหล่าสัตว์ประหลาดรู้ว่า พลังงานที่สำคัญนั้นมาจากเสียงหัวเราะของเด็กๆ ไม่ใช่เสียงกรี๊ด ด้วยความหวาดกลัว
(Source : BuzzFeed)
“บิลลี่ คริสตัล” และ “จอห์น กู้ดแมน” จะกลับมาให้เสียง “ไมค์” และ “ซัลลี่” ให้เราหายคิดถึง ร่วมด้วยตัวละครมอนสเตอร์ตัวป่วนอีกมากมาย
Lamp Life
(Source : What’s On Disney Plus)
แวะกลับมายัง “Toy Story” กันอีกรอบ เพราะ “Lamp Life” นั้นเป็นอนิเมชั่น Spin-off บอกเล่าเรื่องราวของสาว “Bo Peep” ซึ่งจะทำให้คุณรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างกับเธอ ระหว่างภาค 2 ถึงภาค 4
รายละเอียดของเนื้อหายังไม่มีเปิดเผยออกมาชัดเจน แต่คาดว่าจะได้ชมกันภายในปี 2020
กลุ่ม Disney+ Original (Live-Action)
ผ่านเหล่าสตูดิโอที่แข็งแกร่งของ Disney ไปแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีคอนเทนท์มากมายของ Disney เองที่ผลิตขึ้นมาใหม่เพื่อ Disney+ โดยเฉพาะ โดยเราขอเริ่มกันที่ “Live-Action” หรือคอนเทนท์ที่เป็นคนจริงแสดง
Love, Simon Series
(Source : The Hollywood Inquirer)
ใครที่เคยประทับใจกับหนังรอม-คอม “Love, Simon” เมื่อปีที่แล้ว ก็เตรียมฟินกันต่อกับซีรีส์ ที่จะขยายความไปยังตัวละครใหม่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะสร้างป้อน Disney+ แน่นอน ภายใต้ดีลที่ Disney ซื้อ “20th Century Fox” ไปเรียบร้อย
กำหนดการฉาย และเนื้อเรื่องที่แน่ชัด ยังไม่มีการประกาศออกมา แต่เท่าที่ได้ข่าว จะมีตัวละครนำตัวใหม่ที่ชื่อ “วิคเตอร์” โดยเจ้าของบท “ไซม่อน” เดิมอย่าง “นิค โรบินสัน” จะเข้ามาร่วมเป็นโปรดิวเซอร์ และให้เสียงบรรยายประกอบซีรีส์เรื่องนี้ด้วย
Noelle
[Source : YouTube (Walt Disney Studios)]
หนังคอมเมดี้แบบครอบครัว ที่จะออกฉายพร้อมการเปิดตัว Disney+ เรื่องนี้ มี “แอนนา เคนดริกส์” รับบท “โนเอล คริงเกิ้ล” ลูกสาวของซานต้า ผู้ต้องออกแรงดูแลธุรกิจการผู้ส่งมอบความสุขของครอบครัว แบบที่ไม่คาคคิด
นอกเหนือจากนักแสดงที่น่าสนใจ หนังยังได้ “มาร์ก ลอว์เรนซ์” ผู้กำกับมือดี ที่เคยมีผลงานกำกับ “Music and Lyrics” และ “Two Weeks Notice” มารับหน้าที่ทั้งกำกับ และเขียนบท
กลุ่ม Disney+ Original (Disney Channel)
กับบ้านเราอาจจะไม่ถึงกับคุ้นเคยนัก แต่ Disney เขาก็มี “Disney Channel” หรือช่องทีวีของ Disney เองมาช้านาน พอมี Disney+ เขาก็ไม่พลาดจะมีคอนเทนท์น่าสนใจออกมาเช่นกัน
High School Musical: The Musical – The Series
[Source : YouTube (Disney)]
หนึ่งในหนังทีวีระดับตำนานของ Disney Channel ที่จะถูกหยิบเอามาทำเวอร์ชั่นใหม่ ในรูปแบบของซีรีส์ความยาว 10 EP โดยจะออกฉายพร้อมกับการเปิดตัว Disney+ เลย
เวอร์ชั่น The Series นี้ ยังคงความเป็น Musical และเรื่องราวของไฮสกูลเหมือนเคย พร้อมด้วยกลุ่มนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่เพียบ
กลุ่ม Disney+ Original (Disney Animation)
นอกจาก Pixar แล้ว Disney เขาก็มีสตูดิโออนิเมชั่นของเขาเองอยู่ด้วย เราขอหยิบมาพูดสั้นๆ ถึงอนิเมชั่นใหม่ ที่เขาจะผลิตสำหรับ Disney+ เช่นกัน
Chip’n Dale
(Source : Variety)
สองชิปมังค์พี่น้องที่คุ้นเคยกับบ้านเราเป็นอย่างดี จะมีการหยิบเอามาทำ EP ใหม่ๆ ทั้งแบบคลาสสิกไม่มีบทพูด และแบบเวอร์ชั่นสมัยใหม่
Into the Unknown: Making Frozen 2
ต่อเนื่องจากความสำเร็จของ “Frozen” ทางสตูดิโอเขาก็ทำ Documentary มาให้ดูกันจริงจัง ว่ากว่าจะผลิต Frozen 2 ออกมาได้ มีขั้นตอน และรายละเอียดพิถีพิถันยังไงบ้าง
กลุ่มสารคดี และเรียลลิตี้
ขอปิดฉากด้วยอีกหนึ่งแนวที่น่าสนใจ นั่นคือสารคดี และเรียลลิตี้ ซึ่งรับรองว่ามีหลากหลาย เพราะ Disney เขามี National Geographic อยู่ เช่นเดียวกับตัว Disney เอง ซึ่งมีการผลิตคอนเทนท์สายนี้ออกมารับ Disney+ เยอะไม่แพ้กัน
One Day at Disney
[Source : YouTube (Disney)]
สารคดีที่คนรัก Disney ต้องดู เพราะสารคดีจะพาไปรู้จักพนักงาน และทีมงานของ Disney ที่สร้างความสุขอันแสนพิเศษให้ผู้คน โดยแต่ละ EP จะมีความยาวประมาณ 4-7 นาที และมีมากถึง 52 EP เลยทีเดียว
The World According to Jeff Goldblum
[Source : YouTube (National Geographic)]
สารคดี National Geographic ที่จะฉายพร้อมการเปิดตัว ซึ่งมี “เจฟฟ์ โกลด์บลัม” ดารามากประสบการณ์จาก “Jurassic Park” รับอาสาพาคุณไปเจอสิ่งที่น่าสนใจบนโลกใบนี้ ในมุมมองที่อาจจะไม่เคยเห็น
ที่ไล่เรียงมาทั้งหมด อยากจะบอกว่าเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ที่ Disney+ ขนคอนเทนท์มาลงสตรีมมิ่งของตัวเอง เพื่อสู้กับตลาด SVOD อันดุเดือด สนใจสายไหนก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดู เพราะเอามาเขียนทั้งหมดคงยาวเป็นหางว่าวแน่
ใครสนใจจะเข้าไปเรียบๆ เคียงๆ ดู แม้บ้านเราจะต้องรออีกนานกว่าจะเปิดให้บริการ ก็ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของเขา >> https://preview.disneyplus.com/th/
แล้วถ้าเขาเปิดตัวกัน 12 พ.ย. นี้เป็นต้นไป แล้วเราเจอคอนเทนท์อะไรน่าสนใจ เราจะหามารีวิวกันเพิ่มเติมแน่นอน รออ่านกันนะครับ
Picture : Engadget, SarahTierney.me, TechHive, NME, Film Goblin, The Telegraph, Screen Rant, Uproxx, The Disinsider, Slashfilm, JoBlo, Wikipedia, ComingSoon, TVweb, Hollywood Reporter, Medium, Film, TVLine, BuzzFeed, What’s On Disney Plus, The Hollywood Inquirer, Variety, The Mary Sue
Trailer : YouTube (National Geographic, Disney, Walt Disney Studios, Pixar, Star Wars, Marvel Entertainment)
