แนวทางการจับคู่โทนสีเสื้อผ้า มิกซ์แอนด์แมทช์สีสันยังไงให้รอด!!

Sid Mashburn นักออกแบบเสื้อผ้า และเจ้าของร้านเคยกล่าวไว้ว่า “ผู้ชายไม่ต้องการตัวเลือกมากมาย พวกเขาแค่ต้องการตัวเลือกที่ถูกต้อง” และส่วนใหญ่เรามักจะเห็นด้วย

ด้วยความเชื่อในเรื่องความเรียบง่าย และมีสไตล์นั้นทำให้คุณโดดเด่น นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ถึงมีตู้เสื้อผ้าไว้เก็บของเพียงไม่กี่ชิ้น แต่บางครั้งทฤษฎีความเรียบง่ายนั้นไม่ได้สร้างความโดดเด่นตลอดกาล เมื่อต้องนำมาใช้กับแฟชั่นในยุคปัจจุบัน

เราจะเห็นได้ว่าเทรนด์แฟชั่นนั้นจะมีสีสันคัลเลอร์ฟูลมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันผู้ชายส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยถนัดกับการจับคู่สีเท่าไหร่ จึงขาดความมั่นใจในการแต่งตัว

ทุกคนอาจจะรู้ว่ามันง่ายเพียงใดที่จะดึงลุคที่เป็นกลางออกมาจากโทนสีดำ สีขาว สีกรมท่า และสีเทา ธีมสีที่เหล่าผู้ชายคุ้นเคย แต่ถ้าคุณต้องการโดดเด่นจากกลุ่มจริงๆ มันก็ถึงเวลาที่คุณจะเริ่มยอมรับเฉดสีอื่นๆที่โดดเด่น และสีสันจัดจ้านยิ่งขึ้น

ดังนั้นหากคุณยังคงหลงทางอยู่ในความมืด ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เราขอแนะนำ 6 เฉดสีที่ใช้กันทั่วไป และวิธีสวมใส่ตลอดทั้งปี งั้นมาเริ่มจับคู่สีกันเลยดีกว่า เชื่อเถอว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด

1. วิธีการสวมใส่สีชมพู

ยังคงมีความเชื่อฝังหัวกันอยู่ว่า สีชมพูควรจะเป็นสำหรับผู้หญิง! จนกระทั่งใช่วงนศตวรรษที่ 19 ในโลกตะวันตกการเปลี่ยนแปลงทางด้านแฟชั่นสีชมพู ถือว่าเป็นสีของผู้ชาย เพราะมันมีความหมายของความเป็นเด็ก และค่อยๆเป็นที่นิยมมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ผู้ชายเริ่มเปิดรับกับธีมสีชมพูมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเต็มไปด้วยความสดใสสี ชมพูเป็นหนึ่งในโทนสีที่โดดเด่นมาหลายฤดูกาลแล้ว และมันก็ไม่ได้หายไปเร็วๆนี้ โชคดีที่มันเข้ากันได้ดีกับสีมากมาย ที่คุณอาจจะมีอยู่ในตู้เสื้อผ้าของคุณแล้วก็ได้ รวมถึงสีน้ำตาล สีเบจ สีฟ้า สีขาว และสีเขียวมะกอก

การสวมใส่สีชมพูนั้นมา พร้อมกับคำเตือน หากคุณเป็นคนผิวขาวให้ระวังเฉดสีพาสเทล ซึ่งสามารถทำให้ทุกอย่างออกมาดูสีซีดจางๆ ได้ หากเป็นกรณีนี้ให้ลองปรับสมดุลสีผิวของคุณด้วยสีเข้มขึ้น ตัวอย่างเช่น เสื้อเชิ้ตสีชมพู กับกางเกงสีน้ำเงินเข้ม และเนคไทสีน้ำเงิน อีกตัวเลือกหนึ่งคือลองใช้โทนสีชมพูที่เข้มขึ้นแทน

คุณสามารถเลือกใช้สีชมพูกับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ดิบ ไปถึงชุดสูทสีเทา กางเกงหรือกางเกงขาสั้นสีชมพู เป็นอีกหนึ่งส่วนเสริมที่ดีในตู้เสื้อผ้าในช้วงฤดูร้อนของคุณ ในขณะที่ถุงเท้าสีชมพู หรือรองเท้าผ้าใบสามารถเพิ่มป๊อปอัพที่สมบูรณ์แบบให้กับเครื่องแต่งกายแบบที่ไม่ต้องอายใครๆ

แนวทางการจับคู่สี

สีที่คล้ายกัน (ง่ายที่สุดในการจับคู่): สีแดง และม่วง
สีตัดกันสี (ยากที่จะจับคู่): สีม่วง สีฟ้า สีเขียว สีเหลือง
สีเสริม (ยากที่สุดในการจับคู่): สีเขียว สีน้ำเงิน
สีแนะนำ : น้ำตาล สีเบจ สีขาว สีน้ำเงิน

2. วิธีการสวมใส่สีเขียว

สีเขียวเริ่มกลายเป็นหนึ่งในเฉดสีเสื้อผ้าบุรุษที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ทุกคนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกที่โหดร้ายจากวงการแฟชั่น ในขณะที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องแปลก เช่น การเลือกใส่สีกากีกับโทนสีเขียวอื่นๆ ที่สามารถนำไปใช้ด้วยกันได้ และช่วยนำชุดของคุณให้ดูดีไปอีกระดับ

ไม่ว่าคุณจะเลือกเฉดสีแบบใด แต่สีเขียวที่เข้ากับผู้ชายนี้จะดูดีที่สุดเมื่อจับคู่กับสีน้ำเงิน, สีขาว และสีเทา ในขณะที่สายพันธุ์ทหารที่เข้มกว่าจะเติมเต็มเฉดสีที่คล้ายกันเช่นสีน้ำตาล และมัสตาร์ด

สิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อโทนสีเขียวคือโทนสีผิว ผู้ที่มีผิวสีซีด / สีขาวควรเลือกกับเฉดสีเข้ม ในขณะที่คนที่มีผิวเข้ม / กลางจะต้องหลีกเลี่ยงเฉดสีที่อยู่ใกล้กับโทนสีเข้ม เช่น สีเขียวมะกอก คนที่มีผิวคล้ำมีสามารถสวมใส่ สีสดใส เช่น สีเขียวหยก

เมื่อคุณค้นพบเฉดสีที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณแล้ว ลองมองหาชิ้นส่วนที่จะให้บริการคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นแจ๊กเก็ต ชิโน หรือกางเกงคาร์โก้ เสื้อเชิ้ตแขนสั้น และกางเกงขาสั้นในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น

นอกเหนือจากยังสามารถพบได้ในรูปแบบของอุปกรณ์เสริม (ถุงเท้า, ผ้าพันคอที่มีน้ำหนักเบา, กระเป๋า, ฯลฯ ) ซึ่งจะเพิ่มจุดที่น่าสนใจในการมองมากขึ้นทำให้ลุคธรรมดาดูมีอะไรมากขึ้น

แนวทางการจับคู่สี

สีที่คล้ายกัน (ที่ง่ายที่สุดในการจับคู่): สีเขียว สีเหลือง และสีเขียวอมฟ้า
สีตัดกัน (ยากที่จะจับคู่): สีแดง และสีม่วง
สีเสริม (ที่ยากที่สุดในการจับคู่): สีชมพู สีม่วง
ที่แนะนำ: สีฟ้า, สีขาว และสีเทา

3. วิธีการสวมใส่สีน้ำตาล

แม้จะไม่ได้ปรากฏบนวงล้อสี แต่คู่หูที่สมบูรณ์แบบของความคลาสสิคของโทนสีน้ำตาลจะเป็นสีน้ำเงินเสมอ การจับคู่ที่ให้ความลึก และซับซ้อนของสีน้ำเงิน ในขณะที่สีน้ำตาลจะยิ่งสมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยสีเพิ่มเติมที่รวมกันเป็นอย่างดี ได้แก่ สีเอิร์ธโทน เช่น สีส้มไหม้, สีเขียว, สีกากี, มัสตาร์ด และสีเบจ

แม้ว่าจะมีเฉดสีน้ำตาลที่ใช้งานได้ดีกับทุกสีผิว แต่ผู้ที่มีผิวสีคล้ำหรือสีเข้มจะต้องหลีกเลี่ยงเฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวมากเกินไป เพราะสามารถทำให้ดูหมองคล้ำ หรือแย่ลงได้

ไอเทมสีน้ำตาลนั้น เราเชื่อว่าทุกคนจะต้องมีอยู่แล้วในตู้เสื้อผ้าของคุณดังนั้นลองเพิ่มความฉลาดของคุณด้วยกางเกงสีน้ำตาล หรือผ้าชิโน เสื้อแจ็คเก็ตหนัง สีน้ำตาลช็อคโกแลต จัมเปอร์สีเข้ม หรือแม้กระทั่งบรูซ หรือรองเท้าหนังกลับแนววิจเทจสักคู่

แนวทางการจับคู่สี

สีแนะนำ: น้ำเงิน และเอิร์ธโทน

4. วิธีการสวมใส่สีส้ม

การสวมใส่สีส้มอาจทำให้เกิดภาพธีมวันฮาโลวีนในหัว แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องสยองขวัญในช่วง 11 เดือนที่เหลือของปี สีส้มที่สดใสแบบดั้งเดิมนั้น มีลักษณะเฉดสีที่ถูกไฟไหม้มากขึ้นในฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้มันดีมากกว่าธีมฮาโลวีนที่เราคุ้นเคย

ในขณะที่ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการเรียกคืนสีสัน ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง / ฤดูหนาว ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มนำสีส้มออกไปใช้งาน ลดความยุ่งยากด้วยการเพิ่มสีของชุดสูทสีเทา หรือสีกรมท่าด้วยเนคไท หรือพ็อกเก็ตสแควร์ ก่อนที่จะจบที่เสื้อถัก และแจ๊กเก็ต

แน่นอนว่ารูปลักษณ์ที่ทันสมัยนั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน โชคดีที่มีเฉดสีครบชุดตั้งแต่โทนสีน้ำตาลเกือบสนิมสำหรับผิวผู้ที่มีผิวขาวซีดจนถึงปะการังสว่าง และสีส้มเลือดสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำ แต่คุณสวมใส่มันให้แน่ใจว่าจะเพิ่มความสมดุลให้กับรูปลักษณ์ของคุณ โดยการเล่นสีส้มกับสีที่เป็นกลาง เช่นสีเทา, น้ำเงิน และสีดำ

แนวทางการจับคู่สี

สีที่คล้ายกัน (ง่ายที่สุดในการจับคู่): สีแดง และสีเหลือง
สีที่ตัดกัน (ยากต่อการจับคู่): สีม่วง และน้ำเงินสีฟ้า
สีที่เสริม (ยากที่สุดในการจับคู่): สีม่วง สีฟ้า
สีแนะนำ: สีเอิร์ธโทน

5. วิธีการสวมชุดสีม่วง

ความสง่างามที่สุดของเฉดสีทั้งหมดตามโรมันโบราณ และกรีก สีม่วงมักจะเป็นหนึ่งในสีที่คนใช้ในทางที่ผิดมากที่สุด ที่ต้องการขยายจานสีของพวกเขา

วิธีที่ง่ายที่สุดในการดูดีกับธีมสีลาเวนเดอร์ คือการใช้อย่างเบาบาง การสวมมันตั้งแต่หัวจรดเท้านั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง ยิ่งหากคุณลองจินตนาการว่าต้องนั่งตรงจุดนัดพบระหว่างสีแดง และสีน้ำเงิน สีม่วงดูจะเป็นทางเลือกที่ควรเลี่ยง แต่มันเข้ากันได้ดีกับสีเบจ สีเทา และสีฟ้า(ท้องฟ้า) และสีขาว(ไข่เป็ด)

ปฏิบัติตามกฎปกติในการปรับสมดุลผิวของคุณด้วยเฉดสีที่ตัดกัน เลือกจากสีม่วงอ่อนจนถึงม่วงไวน์เข้ม ที่สัมพันธ์และเข้ากันกับกระเป๋าสี่เหลี่ยมสีม่วง ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้น หรือรวมเข้ากับชุดสูทในสีที่เป็นกลางและเสื้อสีอ่อนเพื่อให้ได้ผลสูงสุด

เสื้อสีม่วงนั้นดูดีมากเมื่อจับคู่กับชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม หรือสีน้ำเงิน และสำหรับคนที่ชอบสังสรรหรืออาจจะลองพิจารณาเสื้อเบลเซอร์สีม่วงหรือกางเกงชิโน สำหรับฤดูร้อนก้น่าสนใจไม่แพ้กัน

แนวทางการจับคู่สี

สีที่คล้ายกัน (ง่ายที่สุดในการจับคู่): สีม่วงเข้ม-อ่อน
สีตัดกัน (ยากที่จะจับคู่): สีแดง และสีเขียว
สีที่ไม่เข้ากัน (ยากที่สุดที่จะจับคู่): สีเหลือง
แนะนำ: Navy, สีเทา, สีขาว และสีเบจ

6. วิธีการสวมใส่สีเหลือง

สีเหลืองเป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่ยากต่อการสวมใส่ และส่วนใหญ่ผู้ชายก็มักจะหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกับสีสันอื่นๆ เช่น สีส้ม และสีม่วง แต่ในปัจจุบันการใส่สีเหลืองก็เป็นสีที่เห็นได้บ่อยขึ้น โยยเฉพาะช่วงฤดูร้อน แต่คุณควรควบคุมการใช้เฉดสีโดยรอบด้วยสีขาว สีน้ำเงิน สีเทา สีเบจ และสีถ่าน

อย่างไรก็ตามที่สำคัญกว่านั้นคือการหาเฉดสีที่ไม่ทำให้คุณดูป่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีโทนสีผิวขาวซีด คุณอาจจะลองเฉดสีเข้ม เช่น มัสตาร์ด และทองคำ ซึ่งจะช่วยยกผิวของคุณ ในขณะที่ผิวคล้ำจะสามารถดึงทุกอย่างออกจากสีเหลืองข้าวโพด สีเหลืองขมิ้น ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ใกล้เคียงกับสีผิว

เสื้อโปโลผ้าฝ้าย, เสื้อยืด, จัมเปอร์ และกางเกงขาสั้น ดูดีในสีเหลืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับบลูส์ คุณจะประหลาดใจกับความสามารถที่หลากหลายเมื่อไอเทมสีเหลืองถูกจับคู่กับ กางเกงยีนส์สีเข้ม หรือผ้าสักหลาดสีเทา

แนวทางการจับคู่สี

สีที่คล้ายกัน (ง่ายที่สุดในการจับคู่): สีเขียว และสีส้ม
สีที่ตัดกัน (ยากต่อการจับคู่): สีฟ้า สีชมพู และสีม่วง
สีที่ยากที่สุดในการจับคู่ : สีม่วง
แนะนำ: สีกลาง – โดยเฉพาะสีขาว