COBRA การ์ตูนแอ็คชันไซไฟ สลัดอวกาศผู้มีแขนซ้ายเป็นปืนไซโคกัน (Psycho-gun) ที่สามารถควบคุมทิศทางกระสุนได้ด้วยพลังจิตของผู้ยิง ผู้ถูกไล่ล่าโดยองค์กรเหล่าร้ายในอวกาศ และเป็นที่ต้องการตัวของทางการอีกด้วย เก่งกาจทั้งเรื่องการยิงปืน ฉลาดปราดเปรื่องในการไขปริศนาต่างๆ แถมห้อมล้อมด้วยสาวๆ ในชุดสุดเซ็กซี่ บิกินี่ ทีแบคอวกาศ

การดีไซน์ตัวละครที่สุดแฟนตาซีไซไฟ ล้ำแบบ STAR WARS ลายเส้นความโดดเด่นของงานอาร์ตที่ผู้วาด อ.บูอิจิ เทราซาวะ ใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์วาดแทนมือซึ่งแตกต่างจากการ์ตูนในยุคนั้นทั้งหมด จึงถือว่าเป็นผลงานมาสเตอร์พีชระดับขึ้นหิ้งของอาจารย์เลยก็ว่าได้

COBRA มีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า スペースコブラ ,ชื่อภาษาอังกฤษคือ “Space Adventure Cobra” และมีชื่อภาษาไทยตอนที่ถูกนำมาตีพิมพ์ว่า “คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า” และเคยออกอากาศทางทีวีประเทศไทยด้วย โดยถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ประเทศญี่ปุ่น พ.ศ. 2521 – พ.ศ. 2527 มีจำนวน 20 เล่ม

โดยแต่เดิม คอบบร้า เป็นโจรสลัดรูปหล่อค่าหัวเป็นอันดับหนึ่งในจักรวาล ถึงจะปล้นไปทั่วจักรวาลแต่ไม่เคยฆ่าคนบริสุทธิ์ มีอาวุธเป็นปืนสั้นลูกโม่ 6 นัด (โคลท์ ไพธ่อน .77 แม็กนั่ม) และปืนสั้นเลเซอร์ธรรมดาอีก 1 กระบอก มียานเตอร์เติลเป็นพาหนะประจำตัว (ยานมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม มีขนาดเล็กแต่ทรงอานุภาพมากที่สุดในกลุ่มยานที่เดินทางไกลในจักรวาลด้วยกัน) และมีคู่หูชื่อ “เลดี้” เป็นอาเมอร์รอย(หุ่นยนต์ที่ดัดแปลงจากคนจริง ซึ่งในตอน Time Drive ได้เฉลยว่าเลดี้เป็นแฟนเก่าของคอบบร้าที่จำเป็นต้องถูกดัดแปลงมาเป็นอาเมอร์รอย ด้วยวิทยาการไบโอชีวะซึ่งมีเพียงตัวเดียวในจักรวาลเท่านั้น)

เรื่องย่อ

“จอน กินเลียน” พนักงานบริษัทที่ใช้ชีวิตที่ราบเรียบธรรมดา มีเงินเดือนอันน้อยนิดไม่พอที่จะพาตัวเองไปเที่ยวที่ไหนในอวกาศได้ ในวันหยุดที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายเขาได้ถูกหู่นรับใช้ตกรุ่นหน้าตากระป๋องๆ ปลุกแต่เช้า

ทำให้เขาหาทางไปผ่อนคลายด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดที่ร้านแห่งความฝันหรือดรีมเมคเกอร์ (คล้ายร้าน VR ในยุคนี้) ซึ่งในร้านลูกค้าสามารถเลือกให้ตัวเองเข้าไปสวมบทพระเอกในเครื่องกระตุ้นฝันทำงานได้ โดยจอน กินเลียน มีความต้องการหลายอย่าง อยากเป็นคาวบอย ,อยากท่องอวกาศ ,อยากมีฮาเล็มที่มีสาวสวยอยู่เยอะๆ ทางร้านจึงตัดสินใจนำม้วนบันทึกบทหลายๆ เรื่องมาผสมกัน และจอนได้ฝันไปว่าเขาเป็นสุดยอดสลัดอวกาศที่มีแขนซ้ายเป็นปืนไซโคกัน และได้เกิดต่อสู้กับตัวร้ายกัปตันไบเคนซึ่งเป็นสลัดสมุนขององค์กรวายร้ายกิลโด้ถูกเขายิงตาซ้ายบอด

หลังจากออกจากเครื่องกลายเป็นว่าจอนฟื้นความทรงจำของตัวเองที่เขาปกปิดเอาไว้ด้วยความเบื่อหน่ายในตอนที่เขาเป็นสลัดอวกาศโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว และกลับออกจากร้านมาด้วยความสบายใจหลังจากนั้น เขาไปเจอกับ “กัปตันไบเคน” ตัวจริงจึงได้เอ่ยปากทักไปอย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งทำเอาคนที่เขาทักตกใจเพราะว่าไม่น่าจะมีใครรู้จักเขานอกจาก คอบร้าผู้ที่มีมือซ้ายเป็นปืนไซโคกัน กัปตันไบเคนจึงต้องการที่จะฆ่าปิดปากจอนเสีย แต่ด้วยสัญชาตญาณการต่อสู้ของคอบร้าที่ยังอยู่ในตัว จอน ทำให้เขารอดมาได้แบบที่ตัวเองยังทึ่ง

หลังจากจอน โดนกัปตันไบเคนพยายามฆ่าอีกรอบทำให้เขาพบว่าแขนซ้ายของเขาที่แท้จริงมันคือ ไซโคกันที่ยิงออกมาด้วยความไม่ตั้งใจ จอน จึงหนีกลับอพาร์ทเมนของเขาอย่างรวดเร็วแต่ทว่าเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกส่งไปที่กองกำลังของกิลล์เดอร์แล้ว ซึ่งขณะนี่คริสตัลบอย ตัวร้ายคู่ปรับอันดับ 1 ของคอบร้าที่ร่างกายเป็นคริสตัสโปร่งแสง ปืนเลเซอร์ที่ทุกคนในอวกาศใช้กันไม่สามารถทำร้ายคริสตัลบอยได้ ก็เตรียมมากำจัดคอบร้า หลังจากที่คอบร้าหายสาบสูญไปหลายปี

จอน กินเลียน ที่กำลังสับสนเรื่องของตัวเองค่อยๆ นึกเรื่องของเขาเองทีละน้อย จากการที่คอบร้ารู้สึกเบื่อหน่ายต่อการต่อสู้ จึงได้ตัดสินใจผ่าตัดเปลี่ยนแปลงใบหน้าและลบความทรงจำ หลบไปใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาในดวงดาวสุดขอบจักรวาล ในขณะเดียวกันที่กองกำลังของกิลเดอร์ก็มาปิดล้อมที่พักและกระหน่ำยิงใส่เขา แต่หุ่นรับใช้กระป๋องของเขาเอาตัวไปขวางรับลูกกระสุนแทนเจ้านายจึงทำให้รู้ว่าในหุ่นกระป๋องนี่มีอาเมอร์รอยชื่อ “เลดี้” ที่เป็นคู่หูของเขาตอนเป็นสลัดอวกาศคอบร้าซ่อนอยู่ข้างใน เรื่องราววุ่นวายทั้งหมดทำให้จอน ต้องกลับไปเป็นคอบร้าอีกครั้ง…

เพิ่มเติมโปรเจคภาพยนตร์คอบร้า Live Action คนแสดง

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “อเล็กซานเดร อจา” ผู้กำกับหนังเรื่อง Piranha 3D ได้ลิขสิทธิ์มังงะ Cobra: The Space Pirate ของ บูอิจิ เทระซะวะ มาอยู่ในมือซึ่งเขาก็เป็นแฟนการ์ตูนคอบร้าชนิดเข้าเส้นเลย และมีแผนสร้างเป็นหนังไซไฟมหากาพย์เรื่องนี้ ซึ่งเขาอยากที่จะอำนวยการสร้างถ่ายทำออกมาเป็นหนังสามมิติด้วย

และเนื่องจากเป็นโครงการหนังส่วนตัว อจาต้องหาทุนสร้างเอง จึงได้ทำใบปิดออกมาเพื่อหาทุนจากนายทุนในเทศกาลหนังเมืองคานส์ และใบปิดข้างบนคือที่ใช้หาทุน แม้มันจะไม่ใช่ใบปิดอย่างเป็นทางการ แต่แน่นอนถ้าใครสังเกตุปีดีๆ 2013 คือระยะเวลามันเลยมาแล้วลิขสิทธิ์ที่อจาได้มาก็หมดไปเรียบร้อยแล้ว เราได้แต่หวังว่าจะมีสตูดิโอไหนในฮอลิวู้ดสักที่หันมาสนใจทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ผู้กำกับที่เข้าใจมันเป็นอย่างดีเอาไปปั้นต่อ

ที่มา – Wikipedia ,สำนักพิมพ์นิวไทป์ พับลิชชิ่ง ,Pantip ,metalbridges

การ์ตูนติดเรทในตำนาน EP.1 “คุจากุ เทพฤทธิ์พิชิตมาร”

การ์ตูนติดเรทในตำนาน EP.2 “มังกรซ่อนลาย”

การ์ตูนติดเรทในตำนาน EP.3 “15หยกๆ16ไม่หย่อน”