และแล้วในที่สุด เกมสุดท้ายของ อุไน เอมเมอรี่ กับ อาร์เซน่อล ก็มาถึง

ในวันที่ อุไน ก้าวเข้ามาแทนที่ของบรมกุนซือผู้เป็นตำนาน อย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ ประธานสโมสร สแตน โครเอนเก้ เคยกล่าวยกย่องเขาไว้ว่า “อุไนคือผู้ที่พิสูจน์ตัวเองแล้ว”

ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่า มิเกล อาร์เตต้า ผู้ช่วยโค้ชของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และผลงานที่เคยสร้างไว้ จึงทำให้ไอ้ปืนใหญ่ชิงตัดหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเตด เอา อุไน เข้ามาคุมทีมต่อจาก เวนเกอร์ ผู้ที่ตัดสินใจลงจากบังเหียนด้วยตัวเอง

หลังจากนั้น ผู้จัดการทีมชาวสเปนรายนี้ก็ได้พาทีม อาร์เซน่อล เข้าไปเล่นในศึกยูโรป้าลีกได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ จึงทำให้เขายังไม่หลุดออกจากตำแหน่งในเวลานั้น จนกระทั่งเขาได้พา อาร์เซน่อล มาพ่ายคาบ้านต่อ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต

และเกมนี้เป็นเกมที่ 7 ติดต่อกันทีเขาไม่สามารถทำให้ทีมเก็บชัยชนะได้ เอ็มเมอรี่ จึงต้องจากไป และผู้ที่ได้ตำแหน่งผู้จัดการทีมแบบรักษาการจึงตกเป็นของ เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก นับตั้งแต่บัดนี้จนกว่าทีมจะได้เซ็นสัญญากับผู้จัดการทีมคนใหม่

ซึ่งในตอนนี้ ผู้จัดการทีมที่มีเคยมีผลงานดีพร้อมพอที่จะเข้ามาคุมทีม ถือว่ามีน้อยมากๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเลย และต่อไปนี้คือการวิเคราะห์เหล่าผู้จัดการทีมที่มีโอกาสได้เข้ามาคุมทีม ว่าถ้าพวกเขาได้คุมทีม อาร์เซน่อล แล้วทีมจะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร

1.นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้

เขาผู้นี้สามารถเข้ามาเติมเต็มเรื่องของการขาดความเด็ดขาด และความเข้าใจในเรื่องของการวางตำแหน่งนักเตะ แต่ในเรื่องอื่นยังคงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นไปในทิศทางไหน

เอสปิริโต้ คือคนที่ทาง BBC Sport รายงานว่าเป็นคนที่ น่าจะได้เข้ามาแทนที่ของ อุไน เอมเมอรี่ มากที่สุด ด้วยผลงานที่ทำให้ทีม วูล์ฟแฮมตัน มีความคงเส้นคงวา จนกลายเป็นทีมที่น่าจับตามองในยุโรป และด้วยการที่เขาถนัดใช้แท็กติก กองหลัง 3 คน ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ อุไน เอ็มเมอรี่ แฟนๆของไอ้ปืนใหญ่จึงหวังให้ เอสปิริโต้ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่แก้ไม่หายนี้ โดยจุดอ่อนในการเล่นหลัง 3 ของ อุไน เห็นได้ชัดเจนจากในเกมที่เจอกับ เซาท์แธมตัน ที่ไอ้ปืนใหญ่มักจะโดนเจาะจากเกมสวนกลับอย่างไม่ขาดสาย

ใช่แล้ว สิ่งที่คุณคาดหวังว่า เอสปิริโต้ จะเข้ามาแก้ไขกับทีม อาร์เซน่อล ก็คือ ความมีเอกลักษณ์ในการทำทีม และความชัดเจนในการสั่งการ เมื่อสิ่งเหล่านั้นถูกถ่ายทอดมายังนักเตะ ก็จะทำให้นักเตะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น

หากดูจากรายชื่อนักเตะของทีม อาร์เซน่อล เอสปิริโต้ มีโอกาสที่จะใช้แผน 3-5-2 มากกว่า 3-4-3 ที่ใช้อยู่กับ วูล์ฟแฮมตัน ในปัจจุบัน กองหน้าทั้ง 2 คน จากที่เคยใช้เป็น ดิโอโก้ โจต้า กับ ราอูล ฆิเมเนส อาจเปลี่ยนเป็น ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กับ อเล็กซานเดอร์ ลากาแซต หรืออาจจะเป็นนักเตะคนอื่นๆที่คล้ายๆกัน

ส่วนกองกลางตัวกลางตั้ง 3 คน มีโอกาสเป็น มัตเตโอ เกนดูซี่ ที่เขามาเล่นบทบาทเดียวกับ รูเบน เนเวส ซึ่งทั้งคู่มีทักษะในการคุมจังหวะเกมคล้ายๆกัน ในขณะเดียวกัน ดานี่ เซบายอส คงจะได้เล่นเป็นเพลเมคเกร์แบบเต็มตัว ส่วน ลูคัส ตอร์เรร่า ขาโหด แน่นอนว่าเขาต้องได้เล่นบทบาทเดียวกับ เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์

สำหรับในตำแหน่งฟูลแบ็คทางด้านขวาที่สามารถเล่นได้คล้ายคลึงกับ อดาม่า ตราโอเล่ คงหนีไม่พ้น นิโคลัส เปเป้ ส่วนทางด้านซ้าย ถ้าไม่ใช่ เฮคเตอร์ เบเยลิน คงจะเป็น คีแรน เทียร์นี่ย์

สุดท้าย ตำแหน่งกองหลัง  หากดูตามความเป็นไปได้มากที่สุด คงจะเป็น โซคราติส, ดาวิด ลุยซ์ และ แคลัม แชมเบอร์ส 3 คน ที่จะคอยประสานงานกับผู้รักษาประตูอย่าง แบรนด์ เลโน่

2.แม็ก อัลเลกรี

เอมเมอรี่ ไม่ใช่คนเดียวในตอนนั้นที่ถูกเสนอชื่อให้แทนที่ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ถ้าหากคุณติดตามข่าวในช่วงนั้นจะเห็นได้ว่า อัลเลกรี มีโอกาสสูงมากในบรรดา 8 คนที่ถูกเสนอชื่อ แต่เขากลับไม่ได้รับโอกาสการคุมทีมไปซะอย่างนั้น

กุนซือชาวอิตาลีรายนี้ เพิ่งจะลาออกจากที่ ยูเวนตุส เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และผลงานที่เขาสร้างกับไอ้ม้าลายคือการได้แชมป์ลีกทุกฤดูกาล และพาทีมเข้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 2 ครั้ง เหลือเชื่อที่กุนซือมากผลงานรายนี้กำลังว่างงานอยู่ จึงทำให้มีโอกาสที่เขาจะได้มาร่วมงานกับทีม อาร์เซน่อล ตั้งแต่ต้นปี

สำหรับ อัลเลกรี บางคนอาจตั้งคำถามว่า เขาไม่เคยคุมทีมนอกประเทศบ้านเกิดเลย แต่อย่าลิมว่า การที่เขาคุมทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเว่ และ เอซี มิลาน ได้อย่างอยู่หมัดได้ ก็คงไม่มีงานไหนที่หนักเกินไปสำหรับเขา

แล้วถ้าหาก อัลเลกรี ได้คุมทีม อาร์เซน่อล เขาจะใส่อะไรลงไปในทีมนี้บ้าง? เป็นไปได้ว่า เขาอาจจะจัดทีมลงไปเล่นแบบเน้นเกมรับ อ้างอิงจาก 5 ฤดูกาลที่เขาอยู่กับไอ้ม้าลาย ส่วนใหญ่แผนการเล่นที่เขาใช้จะเป็น 3-5-2 โดยใช้นักเตะที่เก่งในด้านเกมรับเป็นส่วนใหญ่

ที่ตูริน อัลเลกรี ประสบความสำเร็จอย่างมากในการใช้แผนหลัง 3 โดยใช้ อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลอันโร โบนุชชี่ และจอร์โจ้ คิเอลินี่ 3 ภูผาหินผู้พาทีมเข้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกนักชิงชนะเลิศ

ด้วยแผน 3-5-2 ทำให้ ยูเวนตุส กลายเป็นทีมที่มีกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ซึ่งหวังว่าเขาสร้างจุดแข็งแบบเดียวกันนั้นได้ที่ อาร์เซน่อล ด้วยนักเตะอย่าง โซคราติส, ดาวิด ลุยซ์ และ ร๊อบ โฮลดิ้ง 3 กองหลังที่ถนัดการเล่นเกมรับมากที่สุด ส่วนตำแหน่ง วิงแบ็ค มีโอกาสสูงที่จะเป็น เฮคเตอร์ เบเยลิน และ คีแรน เทียร์นี่ย์

ลูคัส ตอร์เรร่า, มัตเตโอ เกนดูซี่ และ ดานี่ เซบายอส คือ 3 นักเตะที่สามารถคุมเกมกลางสนามได้ดีที่สุดในทีม และในแดนหน้า อเล็กซานเดอร์ ลากาแซต และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เราคงได้เห็น ลากาแซต ได้รับบทเป็นนักถล่มประตูมากขึ้นในตำแหน่งหน้าเป้า จากการจับคู่กับคู่หูชาวกาบอง ในการทำเกมรุกแบบสวนกลับ แบบเดียวกับที่ ดีบาล่า และ โรนัลโด้ เคยทำให้เห็น

สิ่งที่ อัลเลกรี ทำได้ คือสิ่งที่แฟนบอลชาวกูนเนอร์ส ต้องการที่จะให้แก้ไขโยด่วนที่สุด เพื่อที่จะได้เห็นทีมกลับขึ้นไปยังกลุ่มหัวตารางอีกครั้ง

3.เมาริซิโอ โปเชตติโน่

หากย้อนไปไม่กี่เดือนก่อน คงไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ชายผู้ที่พาไก่บินไปจิกมหาทีมทั้งหลายในยุโรป แต่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหรือ ที่ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ จะได้เข้ามานั่งบังเหียนให้กับอาร์เซน่อล?

ใช่แล้ว กุนซือชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ถูก ท๊อตแน่ม ฮ๊อตสเปอร์ส ไล่ออกอย่างไร้เยื่อใย และเขาก็ได้คนที่เข้ามาแทนที่ทันที นั่นก็คือ โจเซ่ มูริญโย่ ผูจัดการทีมระดับโลกผู้มากความสามารถ

สิ่งที่ทำให้ โปเชตติโน่ สมควรได้รับการแต่งตั้ง นั่นก็คือ เขาอาจทำให้ อาร์เซน่อล มีมิติในการเล่นมากขึ้น และอาจดึงให้ ซงเฮือง มิน มาร่วมทีมได้ เพื่อมาแทนที่ของ นิโคลัส เปเป้ นักเตะค่าตัวระดับสถิติสโมสร

จากผลงานที่ ท๊อตแน่ม มีประตูเสียน้อยสุดเป็นอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2016/17 อาจเปลี่ยนความคิดของชาวเดอะกูนเนอร์สได้ว่า การได้กุนซือที่เคยทำทีมให้กับทีมคู่อริคงไม่เสียหายอะไร ถ้าคนๆนั้นสามารถแก้ปัญหาของทีมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งในตอนนี้ กระแสของแฟนบอลทีม อาร์เซน่อล ส่วนใหญ่ก็มีปฏิกิริยาที่ค่อนข้างเห็นด้วยถ้า โปเชตติโน่ จะเข้ามาคุมทีมเป็นคนต่อไป

4.มิเกล อาร์เตต้า

เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมมากสำหรับตำแหน่งผู้สืบทอดของ เวนเกอร์ และกัปตันทีมของ เวนเกอร์ ในวันนั้น ตอนนี้กลายเป็นมือขวาของ เป๊ป กวาดิโอล่า ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแน่นอนว่า ที่นั่น อาร์เตต้า จะได้รับความรู้ในการเป็นโค้ชมาอย่างล้นหลาม

นอกจากนี้ อาร์เตต้า แทบจะเรียกได้ว่า เขาได้รับอารยธรรมจาก ไรนุส มิเชล และ โยฮัน ครัฟฟ์ มาแบบเต็มๆ จากการเคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ยุคนักเตะ เนเธอร์แลนด์ เต็มทีม เมื่อเขาได้โอกาสคุมทีม คุณอาจได้เห็นสไตล์การเล่นฟุตบอลอันสุดประทับใจของทีม อาร์เซน่อล ก็เป็นได้

ซึ่งตัวเลือกนักเตะที่มีอยู่ทีมตอนนี้ก็ค่อนข้างเหมาะสมที่จะเล่นบอลในสไตล์นั้น ดังนั้น อาร์เซน่อล จึงมีโอกาสที่จะเล่นฟุตบอลในทางนี้ได้

และแผนการเล่นที่น่าจะเกิดขึ้นภายใต้ อาร์เตต้า ก็คือ 4-3-3 หรือแผนอื่นที่คล้ายคลึงกัน แน่นอนว่า ตอร์เรร่า จะถูกจับเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวที่อยู่หลังสุด ส่วน เกนดูซี่ กับ เซบายอส จะได้ยืนคู่กัน ในบทบาทนักเตะหมายเลข 6 กับ 8 ตามลำดับ ส่วน โอบาเมยอง อาจจะได้เล่นในตำแหน่งเบอร์ 9 เคียงข้างนักเตะที่มีความเร็ว และมีพิษรอบตัว ที่รับหน้าที่เป็นปีกอย่าง เปเป้ และ บูกาโย ซากา

ซึ่ง กวาดิโอล่า ก็ใช่ระบบที่ใกล้เคียงกับที่กล่าวมาข้างต้นนี้กับซิตี้ ทำให้มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า อาร์เตต้า ก็จะใช้แผนแบบเดียวกันที่ อาร์เซน่อล แม้ว่าก่อนหน้านี้ อาร์เตต้าจะเคยปฏิเสธการคุมทีม อาร์เซน่อล แต่ในตอนนั้น เขาคงทำไปเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของตัวเอง มาในตอนนี้ อาร์เตต้า คงได้ความรู้ที่สำคัญๆมาจาก กวาดิโอล่า แล้ว และคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะแยกออกมาสร้างความสำเร็จด้วยตัวเอง

5.ปาทริค วิเอร่า

เกือบ 400 เกมที่ลงเล่นกับ อาร์เซน่อล เขาได้มาทั้ง 3 ถ้วยพรีเมียร์ลีก กับอีก 3 เอฟเอคัพ น้อยคนที่จะทำได้อย่างชายที่มีชื่อว่า ปาทริค วิเอร่า

อดีตกัปตันทีมชาวฝรั่งเศสรายนี้ หลังจากที่แขวนสตั๊ดไป เขาก็ได้ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้จัดการทีมอย่างเต็มตัวกับทีม นิวยอร์ค ซิตี้ เอฟซี แห่งเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ แล้วก็กลับมาคุมทีมในประเทศอย่าง นีซ รวมทั้ง 2 ทีม มีเปอร์เซ็นต์การคุมทีมชนะ 41.78% ถึงแม้ว่าตอนแรกเขาจะทำได้ไม่ดีเพราะมักจะวางแผนเน้นเกมบุกมากไป แต่ในช่วงหลังเขาปรับแผนใหม่ แล้วมันก็ดูดีขึ้น

สถิติการทำประตูของทีม นิวยอร์ค ซิตี้ เอฟซี แม้ว่าจะสูงถึง 151 ลูก จาก 90 เกม แต่มันเป็นที่รู้กันดีว่าลีกนี้มีการทำประตูกันเยอะในระดับนี้อยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ทีมของเขาจะยิงได้เยอะขนาดนี้ หลายคนคงคิดว่านักเตะที่เก่งในเกมรับอย่างเก่งอย่างเขา คงมีวิธีที่จะสอนให้ทีมเล่นเกมรับได้ดี แต่ผลปรากฏคือ นิวยอร์ค ซิตี้ เอฟซี มีการเสียประตูถึง 137 ลูกในเวลานั้น และนีซ ภายใต้การคุมทีมของ วิเอร่า พวกเขาทำประตูได้ 53 ลูก เสียประตู 65 ลูก จาก 56 เกม

หากมองในแง่ดี ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะพิสูจน์ตัวเองได้กับการคุมทีม อาร์เซน่อล แต่ อาร์เซน่อล มีรูปแบบการเล่นในเกมรุกที่ดีอยู่แล้ว ถ้าอดีตกัปตันรายนี้จะเข้ามาคุมทีม เขาควรพิสูจน์ตัวเองในด้านเกมรับให้ได้เสียก่อน และเมื่อถึงเวลานั้น ชายผู้เป็นตำนานของเดอะกูนเนอร์ส อาจได้กลับมาอีกครั้ง

6.ราฟาเอล เบนิเตซ

ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชม์ลีกกับ บาเลนเซีย ถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกกับ ลิเวอร์พูล หรือการช่วยให้ นิวคาสเซิล ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก ด้วยงบที่จำกัด ราฟาเอล เบนิเตซ แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาคือผู้ที่ประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอลทุกระดับ

เช่นเดียวกับ อาร์เตต้า เขาคือชาวสเปนที่มีฟุตบอลสไตล์แบบสเปนไหลอยู่ในกระแสเลือด ผนวกกับการทำทีมที่เน้นความเหนียวแน่นในเกมรับ ซึ่งเหมาะกับการเข้ามาคุมทีม อาร์เซน่อล เหลือเกิน และการทำทีมในสไตล์ของเขา เราอาจได้เห็น โอบาเมยอง, ลากาแซต และ เปเป้ ได้แสดงแสงยานุภาพมากขึ้น เหมือนในช่วงที่พวกเขาท๊อปฟอร์ม

เมื่อย้อนไปดูผลงานที่เคยคุมทีม ลิเวอร์พูล กับ เชลซี แทบไม่มีข้อกังขาใดๆสำหรับชายผู้นี้เลย ปัญหาเดียวสำหรับทีม อาร์เซน่อล ที่จะได้ตัว เบนิเตซ มาคุมทีมก็คือ ต้าเหลียน อาเออร์บิน จ่ายค่าจ้างให้เขาสูงมาก แต่ เบนิเตซ เป็นเพียงไม่กี่คนที่สามารถแก้ไขปัญหาของ อาร์เซน่อล ที่มีอยู่ในตอนนี้ได้

Text – Aekkung