Shelby GT500 ใหม่ล่าสุดเป็นมัสแตงที่ล้ำหน้าที่สุดสำหรับถนน
พร้อมกับการกลับมาอย่างมีชัยชนะของ Shelby Mustang GT500

Shelby GT500 เดินทางมาถึงฤดูใบไม้ร่วงปี 2019 เพื่อร่วมเป็นเพื่อนคู่หูของ GT350 ได้รับการออกแบบให้เป็นรถที่ดีที่สุด พร้อมที่จะจู่โจมในทุกมุมมองบนท้องถนน ที่ให้กำลังมากกว่า 700 แรงม้า

ผ่านคลัทช์คู่ การส่งกำลังด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนในสนามแข่งด้วยตัวถังยางพันธุ์แข่งสมรรถนะของมิชลินฟอร์ด ข้อมูลจำเพาะมิชลินไพล็อตเบรก Brembo เบรกขนาดใหญ่ และอากาศพลศาสตร์สมรรถนะและบนถนน

หลายคนกล่าวว่า ฟอร์ด และเชลบี ที่ไปด้วยกันเหมือนขนมปังกับเนย กล่าวคือพวกเขาจัดการสร้างผลลัพธ์ที่เยี่ยมยอด และพวกเขาได้กลับมาอย่างมีชัยชนะของ Shelby Mustang GT500

Powertrain

การผลิตที่ทรงพลังที่สุดของฟอร์ดเลยทีเดียว

หัวใจสำคัญของประสิทธิภาพของ Shelby GT500 เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ V8 ซุปเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร ที่มีกำลัง 700 แรงม้า มาพร้อมกับการส่งผ่านคลัทช์คู่ความเร็วสูงพิเศษ TREMEC 7 และปรับเทียบโดยสมรรถนะของฟอร์ดด้วยเทคโนโลยีโหมดไดรฟ์ที่ล้ำสมัย ในฐานะที่เป็นการผลิตมัสแตงที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาระบบส่งกำลังของ Shelby GT500 เป็นตัวเปิดใช้งานหลักสำหรับประสิทธิภาพขั้นสูงสุดที่ตามมา

เครื่องยนต์ double-overhead-cam ที่สร้างขึ้นด้วยมือนั้นใช้บล็อกอลูมิเนียม และสโตรกของ Shelby GT350’s เพิ่มโครงสร้างบล็อก และหัวเพิ่มน้ำมัน และความเย็นที่ดีขึ้น รวมทั้งข้อเหวี่ยงข้ามเครื่องบินเพื่อรองรับแรงม้าที่สูงขึ้น

Chassis

การผลิตที่แม่นยำที่สุดในมัสแตง

ด้วยพลังของซุปเปอร์คาร์ และการเปลี่ยนเกียร์แบบคลัทช์คู่ ถนนสมรรถนะของแทร็คที่เต็มไปด้วยการปรับแต่งแชสซีที่ทันสมัย เบรกที่เหมาะสมกับพลังงานล้อที่พร้อมใช้งาน และยาง Michelin Pilot Sport Cup ของ Ford Performance

การรักษาพลังทั้งหมดของ Shelby GT500 คือเบรคหน้าที่ใหญ่ที่สุดในมัสแตง และใหญ่ที่สุดในรถสปอร์ตคูเป้ทุกรุ่น SHW ใบพัดสองชิ้นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16.53 นิ้ว ถูกจับคู่กับคาลิปเปอร์แบบลูกสูบ 6 สูบที่แข็งแรงโดย Brembo ซึ่งมีพื้นที่กวาด 147.5 ตารางนิ้ว เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับระบบเบรก Shelby GT350

ช่องระบายอากาศใบพัดเหล็กหล่อหนา 1.73 นิ้วที่ฮับอลูมิเนียมแบบลอยตัวช่วยเพิ่มความทนทานในสภาวะที่รุนแรง และประสิทธิภาพในระยะยาว และสามารถดูดซับพลังงานความร้อนได้มากขึ้น 30% ที่มุมด้านหน้า

ที่ด้านหลังใบพัด SHW แบบสองชิ้นขนาด 14.56 นิ้วเพิ่มพื้นที่กวาดขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับคาลิปเปอร์แบบคงที่ Brembo และรวมถึงคาลิปเปอร์เบรคสวนไฟฟ้าแบบที่สอง

ล้อสมรรถนะสูงที่แข็งแรงและเบากว่า

ล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ขนาด 20×11 นิ้วมาตรฐานของ Shelby GT500 และล้อหน้าเป็นแบบหล่อขึ้นรูป และหลอมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และลดน้ำหนัก ล้อนั้นกว้างกว่าล้อที่ใช้กับ Shelby GT350 เพื่อใช้ประโยชน์จากปะเก็นหน้า สัมผัสที่ปรับปรุงใหม่บนยาง Michelin Pilot Sport 4S สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นฮาร์ดคอร์ล้อหน้าขนาด 20×11 นิ้ว ที่ได้ถูกส่ายใหม่ทั้งหมด และล้อหลังขนาด 20×11.5 นิ้ว นั้นมีน้ำหนักที่ลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ

พร้อมประสิทธิภาพด้านเสียง การสั่นสะเทือน และความกระด้างที่ดีขึ้น คาร์บอนไฟเบอร์สามารถมองเห็นได้ผ่านการเคลือบอีพ็อกซี่ใสที่ปกป้องล้อจากแสง UV มันถูกจับคู่ความกว้างกับแก้มยางใหม่และแพทช์ติดต่อบนยาง Pilot Sport Cup 2 (รวมอยู่ในแพ็คเกจ Carbon Fiber Track)

ยาง Michelin Pilot Sport 4S และ Pilot Sport Cup 2

ยางสมรรถนะของฟอร์ดจากมิชลิน ซึ่งมีให้เลือกสองระดับนั้น มีคุณสมบัติการออกแบบดอกยางใหม่ และสารประกอบเฉพาะสำหรับ Shelby GT500 ยาง 295-305 / 30ZR20 Pilot Sport 4S นำเสนอบนฐาน Shelby GT500 พร้อมยางใหม่ 305-315 / 30ZR20 Pilot Sport Cup 2 ในแพ็คเกจ Carbon Fiber Track เครื่องหมายด้านสมรรถนะของฟอร์ดที่ไม่เหมือนใครด้านข้าง แสดงถึงการกำหนดค่ายางรถ

Functional Design

2020 Shelby GT500 สปอยเลอร์หลังสวิง

เปิดตัวครั้งแรกกับ 2019 Shelby GT350 Track Package สปอยเลอร์สวิงประสิทธิภาพสูง ผสมผสานข้อดีของแทร็กวิงกับอุโมงค์รูปทรงอากาศ ระหว่างฝากระโปรงหลัง และสปอยเลอร์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพแอโรไดนามิก สามารถติดตั้งแผ่นปิด Gurney ที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มแรงกดด้านหลัง

2020 Shelby GT500 ปีกด้านหลัง

มัสแตง GT4 ปีกคาร์บอนไฟเบอร์ติดตาม ด้วยการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์จากฟอร์ด GT เลอม็อง และมัสแตง GT4 โปรแกรมการแข่งขันปีกคาร์บอนไฟเบอร์แบบปรับได้นั้น เป็นทางเลือกพิเศษสำหรับ Shelby GT500 ปีกนี้สร้างแรงกดด้านหลังที่สำคัญด้วยความเร็วสูง

2020 Shelby GT500 front splitter wickers

ตัวแยกสัญญาณด้านหน้า นอกเหนือจากการเสริมสร้างอากาศพลศาสตร์ที่พร้อมใช้ในการติดตามของ Shelby GT500 แล้ว ตัวแยกสัญญาณด้านหน้ายังให้การเบี่ยงเบนของอากาศที่มากขึ้นซึ่งท้ายที่สุดจะลดการยกด้านหน้าในสภาพแวดล้อมความเร็วสูงในท้ายที่สุด (รวมอยู่ในแพ็คเกจติดตามคาร์บอนไฟเบอร์)

นับว่าวิวัฒนาการที่เหมาะสมสำหรับรถม้าสัญลักษณ์ของพวกเขาในรุ่นปี 2020 นี้เป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุด ซึ่งเป็นรถฟอร์ดที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา สำหรับเครื่องยนต์ขนาด 700+ แรงม้า ขนาด 5.2 ลิตร V8 ที่ให้กำลังสูงสุด 0-60 เท่าในเวลาเพียงสามวินาที และเวลาสี่สิบไมล์ต่ำกว่า 11 วินาที

นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันฟอร์ดที่มีเทคโนโลยีสูง โหมดขับเคลื่อนของแชสซีที่ใช้งานอยู่ และการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ช่วยเพิ่มแรงกด และช่วยเพิ่มการจัดการระบายความร้อน และไม่ต้องพูดถึงการตกแต่งภายในที่เชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์แบบ

เหนือสิ่งอื่นใด แม้ยังไม่ได้กำหนดวันวางจำหน่าย และการกำหนดราคา ดังนั้นเราเชื่อว่าหลายๆคน น่าจะรอฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับม้าซูเปอร์คาร์ตัวนี้แบบหัวหัวใจเต้นแรงแน่ๆ เอาเป็นว่า หากมีความคืบหน้าใดๆ เราจะมาอัพเดตให้อย่างแน่นอน ติดตามข่าวสารกันได้ ที่ The Macho นะครับผม