ช่วงปิดฤดูกาล อาจจะเงียบเหงาไปหน่อยบนแผ่นดินยุโรป แต่ถ้ามองไปที่ทวีปอื่น มีรายการแข่งขันชิงแชมป์ทวีปกันแน่นเลยล่ะ!

นอกเหนือฝั่งบอลหญิงเค้ามีชิงแชมป์โลกที่ฝรั่งเศส ส่วนฝั่งบอลชาย ก็มีไล่ตั้งแต่ “โคปา อเมริกา” ศึกชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ที่ประเทศบราซิล โดยเริ่มทัวร์นาเมนท์ไปแล้วตั้งแต่ 15 มิ.ย. มี 10 ทีมในทวีปอเมริกาใต้ และ 2 ทีมรับเชิญจากเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น และกาตาร์

ทางทวีปอเมริกาเหนือ ก็มีศึก “คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ” ซึ่งจะเตะกันใน 3 ประเทศ อเมริกา, คอสตาริก้า และจาเมก้า โดยรอบสุดท้ายมีกันทั้งหมด 12 ทีม แน่นอนว่าอเมริกา กับเม็กซิโก เป็นมหาอำนาจที่เป็นตัวเต็งชัดเจน

อีกหนึ่งศึกสำคัญ ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้คือ “แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์” หรือศึกชิงความเป็นเลิศบน “กาฬทวีป” ซึ่งปีนี้จัดการแข่งขันกันที่อิยิปต์ ตั้งแต่คืนวันที่ 21 มิ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) ก่อนจะไปรู้แชมป์เอาในวันที่ 19 ก.ค. นู่น

เพื่อเป็นการทำความรู้จักศึกชิงแชมป์ทวีปแอฟริกากันให้มากขึ้นอีกหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีนักเตะแอฟริกันมาเล่นในลีกยุโรปมากมาย เราจะพาไปรู้จักครบทั้งเรืองราวการแข่งครั้งนี้ รวมถึงนักเตะที่น่าสนใจ กันเลย

คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2019 ที่แดนมัมมี่

การแข่งขัน “แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์” ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 32 แล้ว หลังเริ่มแข่งครั้งแรก (ที่มีการบันทึกไว้) ตั้งแต่ปี 1957 การแข่งขันส่วนใหญ่ จะจัดกัน 2 ปีครั้ง ปกติจะจัดกันในเดือน ม.ค. แต่ครั้งล่าสุดปี 2019 นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่พิจารณาเลื่อนมาจัดเดือน มิ.ย. เพื่อหลีกเลี่ยงไปชนกับลีกยุโรป แต่ก็เขยิบออกไปเลยกลางเดือน มิ.ย. เพื่อไม่ให้กระทบกับช่วงรอมฎอน ของชาวมุสลิม

เดิมที การแข่งขันปี 2019 นั้น มี “แคเมอรูน” แชมป์เก่า เป็นชาติที่รับหน้าสื่อเป็นเจ้าภาพ แต่ก็ดันประสบปัญหาเรื่องความพร้อม งานไม่คืบหน้าหลายส่วน จนโดนริบสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ และเปิดให้มีการเสนอชื่อกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งสุดท้ายเป็น “อียิปต์” ที่ชนะโหวต “แอฟริกาใต้” แบบขาดลอย กลายเป็นครั้งที่ 5 ที่รายการนี้ จัดขึ้นบนแผ่นดินแดนมัมมี่

นอกเหนือจากกำหนดการแข่งขันที่เลื่อนมาจัดกลางปี การแข่งขันคราวนี้ ยังเป็นหนแรกที่มีทีมแข่งรอบสุดท้ายถึง 24 ทีม รอบแบ่งกลุ่มมี 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เอาแชมป์-รองแชมป์กลุ่มเข้ารอบน็อคเอาท์ ไปพร้อมกับอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม รวมเป็น 16 ทีม แล้วก็เตะกันจนได้แชมป์

อียิปต์ ใช้เมืองในการเป็นเจ้าภาพ 4 เมือง ได้แก่ ไคโร เมืองหลวงที่จัดทั้งนัดเปิดสนาม และนัดชิงชนะเลิศที่สนาม “ไคโร อินเตอร์แนชชันแนล สเตเดี้ยม” ความจุ 74,100 ที่นั่ง, อเล็กซานเดรีย, อิสไมเลีย และซูเอซ

มัสค็อตประจำการแข่งขัน ก็มีเหมือนฟุตบอลรายการอื่นเช่นกัน เป็นเด็กผู้ชายสวมหัวฟาโรห์ที่ชื่อ “ตุต” (Tut) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากฟาโรต์ที่ใครก็รู้จักอย่าง “ตุตันคามิน”

แชมป์ของรายการนี้ จะได้เงินรางวัลอยู่ที่ 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองแชมป์ได้ 2.5 ล้านฯ ส่วนสองทีมที่พ่ายในรอบรองชนะเลิศ จะได้ทีมละ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

24 ชาติที่เข้ามาร่วมโม่แข่งในรอบสุดท้าย มีอียิปต์ ที่ครองแชมป์มามากที่สุด 7 สมัย,​ แคเมอรูน (แชมป์เก่า) และเคนยา เคยได้แชมป์มาแล้ว 5 สมัย, รองลงมาก็เป็นพวกกาน่า 4 สมัย และหลายทีมที่ได้ 3 สมัย ทั้งไนจีเรีย, ซิมบับเว และเบนิน

การขยายจำนวนทีมรอบสุดท้าย ทำให้มีน้องใหม่เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายครั้งแรกอีกด้วย ประกอบด้วย มาดากัสการ์, เมาริเทเนีย และบุรุนดี

พูดเรื่องอัตราต่อรองนิสนึง อียิปต์เจ้าภาพ ถือเป็นเต็ง 1 ในหนนี้ ตามมาด้วยเต็ง 2 อย่างเซเนกัล ซึ่งยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้เลย ส่วนพวก กาน่า, ไนจีเรีย, ไอวอรี โคสต์ ก็จะเป็นทีมเต็งรองลงไป ขณะที่แชมป์เก่าแคเมอรูน ถูกมองเป็นเพียงม้ามืด ประมาณเต็ง 7-8 เป็นรองโมร็อกโค หรืออัลจีเรีย เสียอีก

นักเตะดังที่ต้องจับตามอง

แน่นอนว่าเหล่าซูเปอร์สตาร์ในลีกดังของยุโรปจะต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นความหวังของประชาชนในแต่ละประเทศ ซึ่งชาวแอฟริกัน ได้รับการการันตีว่า “บ้าบอล” และมีหลายคนมองว่าฟุตบอลเปรียบเสมือนเป็นสิ่งจรรโลงชีวิต ท่ามกลางความเป็นอยู่อันยากลำบาก

นักเตะล็อตแรกของพวกมีชื่อเสียง ก็ต้องมองไปที่กลุ่มนักเตะที่กำลังเนื้อหอม และน่าจะได้ย้ายทีมหลังเสร็จศึกครั้งนี้ อย่าง “คาลิลู คูลิบาลี่” เซ็นเตอร์แบ็คจอมแกร่งของเซเนกัล จากนาโปลี, “ฮาคิม ซิเย็ค” เพลย์เมกเกอร์คนเก่งของโมร็อกโค จากอาแหยกซ์ หรือ “นิโคลัส เปเป้” ปีกเนื้อหอมของไอวอรี่ โคสต์ ที่ระเบิดฟอร์มกับลีลล์ ในลีกเองซีซั่นที่ผ่านมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ

เหล่าซุป’ตาร์ จากพรีเมียร์ลีก ก็แน่นอนว่าต้องเป็นที่สนใจ ทั้ง 3 นักเตะของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” ความหวังสูงสุดของเจ้าภาพ, “ซาดิโอ มาเน่” แนวรุกฟอร์มฮ็อตของเซเนกัล และ “นาบี เกอิต้า” ห้องเครื่องคนสำคัญของกินี

คนอื่นจากลีกแดนผู้ดี ก็ต้องมีชื่อของ “ริยาด มาห์เรซ” ปีกคนเก่งของอัลจีเรีย, “วิลฟรีด ซาฮา” ตัวรุกความเร็วสูงของไอวอรี่ โคสต์, “วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้” กลางรับฟอร์มดีจากเลสเตอร์ ซิตี้ ของไนจีเรีย

นักเตะอื่นที่เริ่มเป็นที่จับตาขึ้นมา ก็อย่าง “อังเดร โอนาน่า” ผู้รักษาประตูมือ 1 ของอาแหยกซ์ และแคเมอรูน ที่อายุแค่ 23, “อาร์ชาฟ ฮาคิมี่” แบ็คจอมบุกโมร็อกโค ที่เรอัล มาดริด ปล่อยให้ดอร์ทมุนด์ยืมตัว หรือ “โธมัส ปาเตย์” กลางพันธุ์ดุของกาน่า ซึ่งเริ่มได้รับโอกาสสม่ำเสมอที่แอต.มาดริด

นักเตะลับที่โดนมองข้าม

นอกเหนือจากเหล่านักเตะที่น่าจับตามอง ยังมี “นักเตะลับ” ที่คุณอาจจะคิดไม่ถึงว่ามาร่วมดวลแข้งที่อียิปต์หนนี้ด้วย

คนแรกขอพูดถึง “คริสเตียน บาสโซโกก์” นักเตะจากเหอหนาน เจียนยี่ ในลีกจีน เพราะแม้ชื่อเขาจะไม่คุ้น แถมยังค้าแข้งอยู่ในเมืองจีน แต่จริงๆ แล้ว บาสโซโกก์นั้นเป็นถึงนักเตะยอดเยี่ยมของคัพ ออฟ เนชั่นส์ ครั้งที่แล้วเมื่อปี 2017 เลยทีเดียว

คนต่อไปขอพูดถึงนักเตะจาก “ไทยลีก” กันบ้าง ไทยลีกจริงๆ ครับ… เขาคือ “เอ็นจีว่า มาร์ติน” ปีกตัวเก่งชาวมาดากัสการ์ ซึ่งปีที่แล้วโชว์ฟอร์มเด่นให้กับ “ค้างคาวไฟ”​ สุโขทัย เอฟซี ในไทยลีก ยิงเกิน 10 ประตู แต่ปีนี้ย้ายไปลุยไทยลีก 2 กับ “สำเภาผยอง” ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร

ต่อกันที่ “ไซโด เบราฮิโน่” แนวรุกของทีมชาติบุรุนดีกันบ้าง ซึ่งถ้าใครติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสม่ำเสมอ น่าจะเคยคุ้นชื่อบ้าง เพราะเบราฮิโน่ เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองของวงการ ติดทีมชาติอังกฤษในระดับเยาวชนทุกระดับ เคยถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แต่ไม่ได้ลงสนาม ในยุคของ “รอย ฮ็อดจ์สัน” ประมาณปี 2014

เส้นทางของเบราฮิโน่ เริ่มดิ่งลงเหวก่อนซีซั่น 2015/16 จะเริ่ม หลังงอแงจากการถูกขวางให้ย้ายจากเวสต์บรอมวิช ไปสเปอร์ เขาถูกดร็อปเพราะทัศนคิตในการซ้อมแย่ แถมออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงสโมสร การย้ายไปสโต๊กหลังจากนั้น ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนล่าสุดมาโดนเรื่องเมาแล้วขับ จนถูกสโมสรแบน และยกเลิกสัญญาไปเรียบร้อย หลังจบซีซั่นที่ผ่านมา

ปิดท้ายด้วย “แบกแดด บูเนดเจห์” กองหน้าความหวังของอัลจีเรีย ซึ่งว่ากันว่าเขาควรจะได้โอกาสย้ายไปเล่นในยุโรปเสียที หลังค้าแข้งอยู่แค่ในอัลจีเรีย, ตูนิเซีย และกาตาร์ โดยบูเนดเจห์ในวัย 27 ปี อยู่กับอัล ซาดด์ ทีมชั้นนำของลีกกาตาร์มาตั้งแต่ปี 2015 ยิงประตูถล่มทลายถึง 112 ลูก จากการลงเล่นแค่ 88 นัด

คาดกันว่าศึก “แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์” หนนี้ น่าจะเป็นเวทีสำคัญที่อาจส่งให้บูเนดเจห์ ได้โชว์ฟอร์มเตะตาทีมในยุโรป เช่นเดียวกับนักเตะอีกมากมาย ซึ่งอาจจะเป็นเพชรล้ำค่า ที่แมวมองอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้

Picture : Sports Illustrated, beIN SPORTS, ESPN, 90Min, Soccer Laduma, Conmebol, Komonews, Sky Sports, KingFut, Diario AS, nilefm, The National, Liverpool FC, Newsweek, ขอบสนาม, YouTube, Yahoo Finance