9 การเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดในวันเดดไลน์ของศึกพรีมียร์ลีก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
9 การเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดในวันเดดไลน์ของศึกพรีมียร์ลีก

       เมื่อประสบความสำเร็จ ในทางตรงกันข้ามก็ต้องมีความล้มเหลว และสำหรับวงการฟุตบอลก็เช่นเดียวกัน การซื้อตัวนักเตะใหม่มาร่วมทีมก็เปรียบเหมือนกับการเสี่ยงโชค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงวันสุดท้ายของเส้นตายการย้ายทีมที่ต้องเร่งรีบในการดำเนินการเรื่องต่างๆ

        ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ก็เช่นกัน บางสโมสรคว้าตัวนักเตะใหม่ในวัน “เดดไลน์” ได้แบบกระทันหัน ผู้เล่นบางคนก็โชว์ฟอร์มตอบแทนได้คุ้มค่าตัว แต่แข้งอีกส่วนใหญ่ กลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ จนถึงเข้าขั้นหมดอนาคตเลยก็มี

        9 การเซ็นสัญญาที่ต่อไปนี้ หากเอ่ยชื่อพวกเขาออกมาเชื่อได้ว่า แฟนบอลหลายคนคงรู้สึกว่า ผิดหวังไม่น้อยที่นักเตะเหล่านั้น ไม่สามารถช่วยทีมได้อย่างคิดเอาไว้

9. เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยัง แอสตัน วิลล่า ปี 2005 ค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์)  

เฌมบ้า-เฌมบ้า ไม่ประสบความสำเร็จกับ แมนฯยูไนเต็ด และกองกลางชาวแคเมอรูน ถูกนับว่าเป็นหนึ่งในสัญญาณที่แย่ที่สุดของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดตำนานกุนซือ “ปีศาจแดง” เลยก็ว่าได้

ฟอร์มของ เฌมบ้า-เฌมบ้า ตกลงอย่างน่าใจหาย เขาลงเล่นให้กับ แมนฯยูไนเต็ด เพียง 20 เกม ในรอบ 18 เดือน แต่นั่นไม่ได้ทำให้ วิลล่า ลังเลที่จะคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2005

เดวิด โอเลียรี่ อดีตโค้ช วิลล่า หวังว่า ดาวเตะทัพ “หมอผี” จะสามารถพัฒนาได้ภายใต้การดูแลของเขา แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เฌมบ้า-เฌมบ้า ได้ลงเล่นให้ “สิงห์ผยอง” เพียง 11 นัด ก่อนจะถูกส่งไปให้ เบิร์นลีย์ ยืมตัว และโดนยกเลิกสัญญาในปี 2007

8. เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ (แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไปยัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ปี 2010 ไม่เปิดเผยค่าตัว)

       แม็คคาร์ธี่ กระหน่ำไป 52 ลูก จาก 140 นัดที่ แบล็คเบิร์น ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาก็เคยคว้าถ้วยยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก กับ ปอร์โต มาแล้ว เวสต์แฮม คิดว่า พวกเขาได้ตัวกองหน้าที่สมบูรณ์แบบไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2010

        แต่ เวสต์แฮม ตัดสินใจแยกทางกับ หัวหอกชาวแอฟริกาใต้ หลังร่วมงานกันได้เพียง 14 เดือน ในสัญญา 2 ปีครึ่ง และยอมจ่ายเงิน 1.5 ล้านปอนด์ เพื่อยกเลิกสัญญา เพราะมีปัญหาส่วนตัวขัดแย้งกันอย่างหนัก ซึ่งแฟนบอล “ขุนค้อน” มองว่า นี่เป็นการทำธุรกิจที่ผิดพลาดอย่างยิ่งของสโมสร

7. อังเดร ซานโต๊ส (เฟเนร์บาห์เช ไปยัง อาร์เซอล ปี 2011 ค่าตัว 6.2 ล้านปอนด์)

ฟูลแบ็คชาวบราซิลหลายคน มีประวัติศาสตร์ที่โด่งดังว่า มีทักษะสุดยอดในการเล่นเกมรุก อาทิ คาฟู, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, ไมค่อน และดานี อัลเวส ซึ่งเป็นเหตุผลให้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล คว้าตัว ซานโต๊ส มาร่วมทีม

อย่างไรก็ตาม แบ็คซ้ายแซมบ้า ต้องดิ้นรนอย่างหนักในการปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ เขาลงสนามเพียง 23 เกม ใน 18 เดือน และสร้างวีรกรรมด้วยการแลกเสื้อกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ อดีตดาวยิง อาร์เซนอล ที่ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างพักครึ่ง ทำให้แฟนบอล “ไอ้ปืนใหญ่” ไม่พอใจอย่างมาก

อาร์เซนอล ตัดสินใจที่จะลดความสูญเสียของพวกเขา และส่ง ซานโต๊ส ไปเล่นกับ เกรมิโอ ในบราซิล ก่อนจะปล่อยให้สัญญาหมดอายุ และแยกทางกันในที่สุด

6. พอล คอนเชสกี้ (ฟูแล่ม ไปยัง ลิเวอร์พูล ปี 2010 ค่าตัว 3 ล้านปอนด์)

โดยรวมแล้วในช่วงฤดูร้อนปี 2010 เป็นการทำธุรกิจที่น่ากลัวสำหรับ รอย ฮอดจ์สัน อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล และท้ายที่สุดการนำ คอนเชสกี้ มายังถิ่นแอนฟิลด์ เป็นความล้มเหลวอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม แทนที่จะยกระดับอาชีพของตัวเองไปอีกขั้นกับ ลิเวอร์พูล แต่ คอนเชสกี้ ก็ไม่สามารถทำได้ เขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อตำแหน่งตัวจริง และได้ลงเล่นเพียง 18 เกม ในรอบ 4 เดือน ก่อนจะถูกปล่อยให้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ยืมตัว และไม่ได้กลับมาเล่นให้ “หงส์แดง” อีกเลย

5. ชิสโก (เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ไปยัง นิวคาสเซิล ปี 2008 ค่าตัว 5.7 ล้านปอนด์)

หลังจากประทับใจในฟอร์มของเขาในลาลีกา และทีมชาติสเปนชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี นิวคาสเซิล จัดการคว้าตัว ซิสโก มายังถิ่นเซนต์ เจมส์ ปาร์ค แม้จะมีกองหน้าอย่าง ไมเคิล โอเวน และมาร์ค วิดูก้า อยู่ในทีมก็ตาม

หลังจากย้ายมา นิวคาสเซิล เพียงปีเดียว หัวหอกชาวสเปน ถูกปล่อยตัวให้กับ ราซิง ซานทานแดร์ ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนจะกลับมายังทัพ “สาลิกาดง” แต่ก็ยังไม่มีโอกาสในทีมชุดแรก จนต้องถูกปล่อยตัวกลับไปยัง เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ด้วยสัญญายืมตัวอีกครั้ง

ซิสโก ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันกับ นิวคาสเซิล เขาลงเล่นไปเพียง 9 นัด และยิงได้ลูกเดียว

4. อัลฟองโซ่ อัลเวส (ฮีเรนวีน ไปยัง มิดเดิ้ลสโบรห์ ปี 2008 ค่าตัว 12.7 ล้านปอนด์)

มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่ต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกปี 2007/08 พวกเขาจึงหันไปหา อัลเวส ซึ่งมีค่าเฉลี่ยการยิงประตูมากกว่า 1 ลูกต่อเกม ในช่วงเวลาที่เขาเล่นกับ ฮีเรนวีน ในฮอลแลนด์

สถิติของ หัวหอกชาวบราซิล นั้นดูดี อย่างไรก็ตาม ในสนามมันกลายเป็นฝันร้าย อัลเวส พยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับความยากลำบากของฟุตบอลอังกฤษ แต่ก็ไม่สำเร็จ มิดเดิ้ลสโบรห์ ตกชั้น และเขายิงได้เพียง 6 ลูก จาก 14 เกม

มิดเดิ้ลสโบรช์ ตัดสินใจที่จะภาระของสโมสร ในเดือนกันยายน 2009 อัลเวส ถูกส่งไปให้ อัล ซาดด์ ในลีกการ์ตา ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนที่ดาวยิงแซมบ้าจะแชวนสตั๊ดในปี 2013

3. ราดาเมล ฟัลเกา (โมนาโก ไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2014 ค่าตัว 6 ล้านปอนด์)

แฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้สึกตื่นเต้นหลังจากที่ หลุยส์ ฟาล กัล โค้ชชาวดัตช์ ยืมตัว ฟัลเกา มาล่าตาข่ายในถิ่นโอลด์ แทรฟอร์ด โดยศูนย์หน้าโคลอมเบีย สร้างชื่ออย่างโด่งดังกับทั้ง โมนาโก และแอตเลติโก มาดริด

อย่างไรก็ตาม ฟัลเกา เพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่เข่า ซึ่งทำให้เขาต้องดิ้นรนตลอดฤดูกาลเพื่อลงสนาม และผลงานที่น่าผิดหวังก็ตามมา เขายิงได้เพียง 4 ลูก จากการลงเล่น 26 เกม

ฟัลเกา อยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด ได้เพียงปีเดียว ซึ่ง “ปีศาจแดง” ไม่ได้ใช้ออฟชั่นในการซื้อตัวเขาเป็นการถาวร หลังจากผลงานไม่เข้าตา

2. แอนดี้ แคร์โรลล์ (นิวคาสเซิล ไปยัง ลิเวอร์พูล ปี 2011 ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)

หลังจาก ทำผลงานได้น่าประทับใจกับ นิวคาสเซิล ลิเวอร์พูล ก็ซื้อตัว แคร์โรลล์ ไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2011 พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 9 ให้เขาแทนที่ เฟอร์นันโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน ที่ตัดสินใจย้ายไป เชลซี

อย่างไรก็ตาม แคร์โรลล์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บติดตัวมา ทำให้ต้องเลื่อนการลงสนามนัดแรกกับ ลิเวอร์พูล ออกไปหลายสัปดาห์ และดูเหมือนว่า เจ้าตัวจะมีปัญหาในการปรับจังหวะการเล่นพอสมควร

ในปีแรกกับ ลิเวอร์พูล แคร์โรลล์ ลงเล่นไปเพียงแค่ 9 เกม ยิงไป 2 ประตู และในซีซั่นต่อมา เขายิงได้แค่ 11 ประตู จาก 58 นัด ก่อนจะถูกปล่อยให้ เวสต์แฮม ยืมตัวไปใช้งาน และ “หงส์แดง” ขายเขาให้กับ “ขุนค้อน” เป็นการถาวรในปี 2013

1. เฟอร์นันโด ตอร์เรส (ลิเวอร์พูล ไปยัง เชลซี ปี 2011 ค่าตัว 51.5 ล้านปอนด์)

ตอร์เรส ต้องทรมานจากปัญหาการบาดเจ็บ และความมั่นใจในช่วงหลังของเวลาที่น่าประทับใจครั้งหนึ่งที่ แอนฟิลด์ โดยดาวยิงชาวสเปน ก็ยิ่งแย่ลงไปอีกหลังจากย้ายไปที่ เชลซี

“เอล นินโญ” ต้องใช้เวลานานถึง 903 นาที ซึ่งกินเวลานานถึง 2 เดือน ในการทำประตูแรกกับ เชลซี และผลงานโดยรวมของเขาตลอดเวลาในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ไม่น่าประทับใจแต่อย่างใด

ความตกต่ำของ ตอร์เรส ถึงขีดสุดในปี 2014 เมื่อ เชลซี พยายามหาสโมสรใหม่ให้กับเขา ก่อนที่เขาจะย้ายไปยัง เอซี มิลาน, แอตเลติโก มาดริด อดีตทีมเก่า และซางัน โตสุ ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอล

ภาพประกอบ : buzz.ie, itv.com, telegraph.co.uk, mirror.co.uk, football365.com, planetfootball.com, strettynews.com, bleacherreport.com, givemesport.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save