นักฟุตบอลทุกคนอยากลิ้มรสกับความรุ่งโรจน์แห่งชัยชนะ ความสุขของการยกถ้วยรางวัลเหนือศรีษะเป็นสิ่งที่พวกเขาคาดหวังเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแห่งความยากลำบาก และอาการบาดเจ็บที่ต้องเผชิญ แต่มีผู้เล่นที่โดดเด่นบางคนที่ไม่ได้รับโอกาสนั้น ไม่ว่าจะกับเป็นสโมสรหรือทีมชาติก็ตาม

        แฟนบอลหลายคนคงจดจำชื่ออดีตนักเตะฝีเท้าดี 8 รายต่อไปนี้ ได้อย่างแน่นอน ซึ่งพวกเขากลายเป็นพระรองตลอดกาลในโลกลูกหนังจนถึงทุกวันนี้ และบางคนถึงขั้นกลายเป็นตำนานสโมสรไปแล้ว

1.อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดิ นาตาเล่ ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่โดดเด่นที่สุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เขาขึ้นแท่นเป็นตำนานของ อูดิเนเซ่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังรับใช้สโมสรมายาวนาน 12 ปี จนกระทั่งแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2016

ดิ นาตาเล่ เคยเป็นดาวซัลโวของเซเรีย อา ถึง 2 ครั้ง และเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีในปี 2010 โชคไม่ดีที่เขาเล่นให้กับ อูดิเนเซ่ และไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดร่วมกับทีมเลย

2.ยิลดิราย บาสเติร์ก

กองกลางชาวตุรกี ซึ่งเกิดในเยอรมนี เคยใกล้เคียงกับการคว้าเหรียญรางวัลเต็มที หลังจากที่ต้นสังกัด ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เกือบคว้าแชมป์ในทุกรายการแข่งขันในปี 2001/02 โดยที่ บาสเติร์ก เป็นส่วนสำคัญของ “ห้างขายยา” ในยุคนั้น

ในศึกฟุตบอลโลก 2002 บาสเติร์ก ไปทำศึกร่วมกับทีมชาติตุรกี บ้านเกิด แต่ก็ต้องถูก บราซิล เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศฯ ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เขาก็ได้รางวัลอันดับที่ 3 ปลอบใจร่วมกับพลพรรค “ไก่งวง”

3.แมตธิว เลอ ทิสซิเอร์

        ตำนานจอมทัพ เซาแธมป์ตัน เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีสไตล์การเล่นน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ในช่วงยุค 90 ทักษะการเอาตัวรอด, วิสัยทัศน์ รวมถึงเทคนิคที่สุดยอด ทำให้ เลอ ทิสซิเอร์ มักได้รับเสียงปรบมือจากแฟนบอลอยู่เสมอ

        ดาวเตะเจ้าของฉายา “เลอ ก็อด” ค้าแข้งกับ เซาแธมป์ตัน ยาวนานถึง 16 ปี และทำได้ดีที่สุดคือการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน จากลูกยิงไกลสวยๆของเขาเท่านั้น

4.แบรนด์ ชไนเดอร์

ชไนเดอร์ เป็นนักเตะของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อีกคนที่โด่งดังในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่เขาค้าแข้งสโมสร ปีกชาวเยอรมัน เป็นตัวหลักที่พาทัพ “ห้างขายยา” เข้าสู่รอบชิงฯในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2001/02 หลังทำสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในรายการดังกล่าว

หลังจากคว้ารองแชมป์ 3 รายการร่วมกับ เลเวอร์คูเซ่น ในปี 2001/02 ชไนเดอร์ ยังต้องช้ำใจร่วมกับทีมชาติเยอรมันด้วยเช่นกัน หลังพรพรรค “อินทรีเหล็ก” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน พ่าย บราซิล 2-0 ในนัดชิงฯการแข่งขันฟุตบอลโลกปีดังกล่าว

5.เจอร์เมน เดโฟ

เดโฟ ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าชั้นนำในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อย่างเต็มตัว หลังแจ้งเกิดกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปี 1999 เขามักมีชื่อลุ้นดาวซัลโวของลีกเกือบทุกซีซั่น

ตลอดเวลาที่ค้าแข้งในแดนผู้ดีกับ เวสต์แฮม, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ และปอร์ทสมัธ น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดได้เลย และปัจจุบัน หัวหอกชาวอังกฤษ ย้ายไปล่าตาข่ายกับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในสก็อตติชพรีเมียร์ ลีก ในช่วงปลายชีวิตนักฟุตบอล

6.สแตน คอลลีมอร์

คอลลี่มอร์ เป็นกองหน้าที่ฝีเท้าดี แต่อาชีพของเขานั้นไม่สามารถเติมเต็มศักยภาพที่แท้จริงได้ เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดกับทั้ง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และ ลิเวอร์พูล แต่กลับทีมชาติอังกฤษ เขามีโอกาสรับใช้ทัพ “สิงโตคำราม” เพียง 3 นัดเท่านั้น ท่ามกลางปัญหาส่วนตัวมากมาย และยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว

สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดที่ของ คอลลี่มอร์ คือ รองแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1996 กับ ลิเวอร์พูล ซึ่งพลพรรค “หงส์แดง” แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริตลอดกาลในนัดชิงฯ

7.เลห์ตัน เบนส์

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ เบนส์ ถูกยกย่องว่า เป็นแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ เขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเปิดบอลที่แม่นยำ และการยิงฟรีคิกที่ยอดเยี่ยม

ในช่วงที่ เบนส์ ตัดสินใจย้ายออกจาก วีแกน แอธเลติก มีข่าวว่า  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม แต่เจ้าตัวตัวเลือกจะย้ายไป เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะคว้าตำแหน่งรองแชมป์เอฟเอ คัพ ร่วมกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ในปี 2009 หลังพ่าย เชลซี ในนัดชิงฯ

8.ไคลฟ์ อัลเลน

ในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 อัลเลน ถือเป็นแข้งคนสำคัญของสโมสรในลอนดอนอย่าง ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ และเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ใกล้จะคว้าเอฟเอ คัพ สำเร็จ แต่ต้องผิดหวังอย่างเจ็บปวด ในปี 1982 หลังพา ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส พ่าย สเปอร์ส ในนัดชิงฯ

ในปี 1984-1988 อัลเลน ย้ายมาเล่นกับ สเปอร์ส และซัดรวมทั้งสิ้น 50 ประตู และทำได้ดีที่สุดด้วยการพาพลพรรค “ไก่เดือยทอง” คว้าอันดับ 3 ในลีก

Picture – gazzetta.it, tr.eurosport.com, punditfeed.com, tr.redsearch.org, dhakatribune.com, premierleague25years.wordpress.com, planetfootball.com, eveningtelegraph.co.uk