การยืมตัวนักเตะจากสโมสรอื่นมาใช้งาน ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการลูกหนังลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นทีมระดับยักษ์ใหญ่ หรือทีมระดับกลาง ไปจนถึงทีมในโซนหนีตกชั้น ต่างก็เคยทำธุรกิจลักษณะนี้มาแล้วทั้งสิ้น

       ผู้เล่นที่ถูกยืมตัวมานั้น ทุกคนต่างมีเหตุผลแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ไม่มีโอกาสลงสนามกับต้นสังกัดจริง, ย้ายมาเพื่อกรณีฉุกเฉิน และหาประสบการณ์ในการมาค้าแข้งต่างแดน แต่มันก็ใช่ว่าทั้งนักเตะ และสโมสรที่ยืมตัวพวกเขามาใช้งานจะประสบความสำเร็จเสมอไป

        นี่คือ 7 ดีลการยืมตัวในพรีเมียร์ลีกที่น่าผิดหวังที่สุด ซึ่งผลงานของแข้งเหล่านี้กับการเล่นในสัญญายืมตัวเข้า หากเราพิจารณาจากสถิติต่างๆ และฟอร์มของพวกเขานั้น เข้าขั้นนแย่เลยก็ว่าได้

7. สตีเว่น คอลเกอร์ (ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ไปยัง ลิเวอร์พูล ปี 2016)

สิ่งมหัศจรรย์สำหรับ คอลเกอร์ คือ ทำประตูได้ในนัดเปิดตัวกับทีมชาติอังกฤษ จากนั้นเขาไม่ได้โอกาสรับใช้ทัพ “สิงโตคำราม” อีกเลย รวมถึงการลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล 3 นัด ในตำแหน่งกองหน้า หลังย้ายไปเล่นกับ “หงส์แดง” ด้วยสัญญายืมตัวในเดือนมกราคม ปี 2016

ก่อนหน้านั้น คอลเกอร์ เล่นอยู่กับ เซาแธมป์ตัน ด้วยการยืมตัวเช่นเดียวกัน แต่ เยอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล รู้สึกประทับใจกับความแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศของเขา จึงรับช่วงต่อในการพา กองหลังชาวอังกฤษ ไปเล่นในถิ่นแอนฟิลด์

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ไม่ได้ส่ง คอลเกอร์ ลงสนามในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตามที่ถนัด แต่โค้ชชาวเยอรมัน กลับเลือกที่จะใช้เขาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าในยามคับขัน สุดท้ายเขาก็ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาเป็นการถาวรกับ “หงส์แดง”

6. แอนดี้ โกแรม (มาเธอร์เวลล์ ไปยัง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ปี 2001)

ในปี 2001 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากยูฟ่าให้ซื้อผู้รักษาประตูเข้ามาเฝ้าเสาเพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หลังปิดตลาดนักเตะไปแล้ว เนื่องจาก ฟาเบียง บาร์กเตซ กับ ไรมอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว  2 นายทวาร “ปีศาจแดง” ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯยูไนเต็ด จัดการยืมตัว โกแรม นายด่านจอมเก๋าชาวสก็อตแลนด์ จาก มาเธอร์เวลล์ ไปร่วมทีม ซึ่งในเวลานั้น โกล์วัย 36 ปี ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่แฟนบอลเมืองผู้ดีมากนัก

โกแรม ได้มีโอกาสอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียงแค่ 2 เดือน และได้ลงเฝ้าเสาให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ไป 2 นัด แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ เขามีเรื่องบาดหมางกับ รอย คีน และ ยาป สตัม 2 ขาใหญ่ในทัพ “ปีศาจแดง”

5. เดนิส ซัวเรซ (บาร์เซโลน่า ไปยัง อาร์เซน่อล ปี 2019)

ไม่ต้องย้อนเวลาไปไกลมาก มิดฟิลด์ชาวสเปน ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาเล่นกับ อาร์เซน่อล ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามคำชักชวนของ อูไน เอเมรี่ เทรนเนอร์เพื่อนร่วมชาติ ซึ่งกำลังคุมทัพ “ไอ้ปืนใหญ่”

สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” คาดหวังในตัว ซัวเรซ อย่างมาก ว่า เขาจะเข้ามายกระดับแนวรุกของทีม และช่วยแบ่งเบาภาระผู้เล่นในแดนหน้าอย่าง เมซุต โอซิล จอมทัพชาวเยอรมัน, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าทีมชาติกาบอง และอเลซองดร์ ลากาแซตต์ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม ภาพของ ซัวเรซ ในซุ้มมานั่งสำรองกลายเป็นเรื่องชินตาของแฟนบอล อาร์เซน่อล โดยดาวเตะสแปนิช ไม่ได้รับโอกาสจาก เอเมรี่ อย่างที่คาดการณ์เอาไว้ เขาลงสนามให้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” เพียง 67 นาทีเท่านั้น จาก 4 เกม ก่อนจะถูกส่งตัวกลับไปยัง บาร์เซโลน่า

4. คิม คัลล์สตอร์ม (สปาร์ตัค มอสโกว์ ไปยัง อาร์เซน่อล ปี 2014)

ห้องเครื่องชาวสวีเดน ลงสนามให้กับ อาร์เซน่อล รวมทุกรายการแข่งขันเพียง 3 นัดเท่านั้น หลังย้ายมากจาก สปาร์ตัค มอสโกว์ ด้วยสัญญายืมตัวในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส

การตัดสินใจของ เวนเกอร์ ในการยืมตัว คัลล์สตอร์ม มาเสริมทัพในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2014 นั้น หลายคนมองว่า เป็นหนึ่งในความล้มเหลวของ โค้ชเฟรนช์แมน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กองกลางวัย 31 ปี มีอาการบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังติดตัวมาตั้งแต่ช่วงที่เขาเล่นให้กับ สปาร์ตัค และกว่าจะได้ลงประเดิมสนามให้กับ อาร์เซน่อล เป็นนัดแรกนั้น คัลล์สตอร์ม ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกาย และเรียกความฟิตนานถึง 8 สัปดาห์ เลยทีเดียว

3. อเล็กซานเดอร์ ปาโต (โครินเธียนส์ ไปยัง เชลซี ปี 2016)

เชลซี เข้ามาช่วยเติมเต็มความปรารถนาของ ปาโต ในการกลับมาเล่นฟุตบอลในยุโรปอีกครั้ง หลังจากที่เขาย้ายจาก เอซี มิลาน กลับไปค้าแข้งที่บ้านเกิดกับ โครินเธียนส์ แต่ความฝันของ ดาวยิงชาวบราซิล มันไม่สวยหรูอย่างที่คิดไว้

หลังจากที่ ปาโต ย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสัญญายืมตัวในเดือนมกราคมปี 2016 ความล้มเหลวระหว่างเขากับ เชลซี เกิดขึ้นอย่างชัดเจน โดยหัวหอกแซมบ้า มีอาการบาดเจ็บกำเริบอีกครั้ง หลังประเดิมสนามให้กับ “สิงห์บลูส์” เพียง 26 นาที เท่านั้น

ปาโต ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการฟื้นฟูร่างกายก่อนจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง และตลอดเวลาที่ยืมตัวกับ เชลซี เขาได้ลงสนามเพียง 2 นัดเท่านั้น

2. แอนดี้ บูธ (เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ไปยัง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ปี 2001)

ไม่มีแฟนบอล สเปอร์ส คนใดดีใจที่พวกเขาได้ตัว บูธ ไปล่าตาข่าย และการเซ็นสัญญายืมตัวในเดือนมกราคมปี 2001 ของ กองหน้าจาก เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ซึ่งไม่ยิงประตูมานานถึง 6 เดือนรายนี้ หลายคนคิดว่า ไม่เป็นการสร้างประโยชน์ใดๆให้กับสโมสร

อย่างไรก็ตาม มันเป็นสถานการณ์บังคับของ สเปอร์ส ที่ต้องยืมตัว บูธ ไปร่วมทีม เนื่องจาก เลส เฟอร์ดินานด์ หัวหอกตัวหลักได้รับบาดเจ็บ และ ดาวยิงจาก เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เซอร์ไพรส์นัก

บูธ อยู่กับ สเปอร์ส 2 เดือน ลงสนาม 4 นัดรวมทุกรายการ และไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ก่อนที่ถูกส่งตัวกลับทัพ “นกเค้าแมว” ในเดือนมีนาคมปีดังกล่าว

1. ดาวิด ปิซาร์โร่ (โรม่า ไปยัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2012)

ปิซาร์โร่ จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายในทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้หรือไม่? บรรดาสื่อเมืองผู้ดีต่างพากันพาดหัวข่าวใหญ่ หลังจากที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” ยืมตัว มิดฟิลด์ชาวชิลี มาจาก โรม่า เมื่อเดือนมกราคมปี 2012

ปิซาร์โร่ ได้รับการวางบทบาทให้เป็นตัวแทนของ ยาย่า ตูเร่ ดาวเตะทีมชาติไอโวรี่ โคสต์ ซึ่งกำลังช่วยบ้านเกิดทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ แต่ เขาไม่ได้รับโอกาสจาก มันชินี่ มากนัก และยังต้องตกไปเป็นตัวสำรองในทัพ “เรือใบสีฟ้า” อีกด้วย

ความล้มเหลวของ ปิซาร์โร่ กับ แมนฯซิตี้ เกิดจากการที่เขามีร่างกายที่เล็ก และไม่สามารถปรับตัวกับความเร็วของฟุตบอลอังกฤษได้ โดยเจ้าตัวมีโอกาสลงสนามให้กับ “เรือใบสีฟ้า” เพียง 5 นัด และยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว

ภาพประกอบ : planetfootball.com, fourfourtwo.com, en.as.com, espn.com.br, examinerlive.co.uk, skysports.com