ถึงห้องของคุณจะมีเครื่องปรับอากาศก็คงสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่ปะทุขึ้นมาช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี แต่ที่สัมผัสได้แบบใกล้ชิดก็คนที่อยู่โดยไม่มีเครื่องปรับอากาศนี่แหละ เรียกว่าเปิดพัดลมทีไอร้อนพุ่งเข้าหน้าอย่างกะไออุ่นจากนรกเลย
แน่นอนว่าเรื่องสภาพอากาศเราไม่สามารถไปกำหนดอะไรมันได้หรอก แต่พวกเราทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนการตกแต่งห้องของตัวเองนิด ๆ หน่อย ๆ เช่น การเก็บผ้านวมเข้าตู้ หรือเลือกใช้สีโทนเย็นในห้อง เพียงแค่นี้ก็ช่วยทำให้ห้องของคุณรู้สึกสดชื่นโดยไม่ต้องกดปรับลดอุณหภูมิลงแล้ว
วันนี้เราเลยนำเคล็ดไม่ลับในการเปลี่ยนห้องอบซาวหน้าของคุณกลายมาเป็นห้องคลู ๆ เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขมาฝากกัน
1. ลดความเยอะไปสู่ความเรียบง่าย
ร้อน ๆ แบบนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอ้าแขนรับความมินิมัล นำสีขาวมาใช้กับการตกแต่งห้องแม้การตกแต่งแบบเรียบ ๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์และพื้นผนังสีขาวจะทำให้รู้สึกเย็นแถมจืดชืดเกินไปในหน้าหนาว แต่กลับเป็นข้อดีที่จะนำมาใช้ช่วงหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่งเพราะสีขาวจะช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แถมช่วยเสริมความรู้สึกให้บ้านดูสะอาดขึ้นด้วย
ส่วนทางด้านการออกแบบนั้นสีขาวจัดเป็นสีที่ช่วยให้การแต่งบ้านง่ายขึ้น ทั้งการแมชท์กับเฟอร์นิเจอร์ได้หลากสไตล์ หรือการตกแต่งห้องด้วยผลงานศิลปะต่าง ๆ ก็เข้ากันได้ดี แต่สิ่งสำคัญไม่ว่าผนังห้องคุณจะสีอะไร ควรลดความยุ่งเหยิงต่างๆ ภายในห้องโดยการจัดเก็บสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไปให้พ้นสายตาด้วยเพื่อให้บ้านโปร่งช่วยระบายความร้อนออกจากบ้านได้ดี ไม่เช่นนั้นต่อให้ทาผนังสีขาวแต่ห้องรกไปหมดแบบนี้ก็ไม่ช่วยอะไรแน่ฃ
2. ผ่อนคลายไปกับสีโทนเย็น
เพิ่มความมีชีวิตชีวาภายในบ้านด้วยการแมทช์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านต่าง ๆ ด้วยสีโทนเย็น เช่น สีฟ้า สีน้ำเงิน สีเขียว กระทั่งสีลาเวนเดอร์ เฉดสีเหล่านี้มีช่วยให้ให้พื้นที่บริเวณนั้นให้ความรู้สึกเย็นสบายขึ้น ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการผ่อนคลายได้ดีเยี่ยม
3. ทิ้งหน้าหนาวไว้ข้างหลัง
เก็บของทุกสิ่งทุกอย่างที่ช่วยให้คุณอุ่นตอนช่วงหน้าหนาวเข้าตู้ไปให้หมด ไม่ว่าจะเป็นผ้านวม ผ้าห่มขนนุ่ม ๆ พรมขนเทียม หรือพรมกำมะหยี่ทั้งหลายเก็บให้หมด ถึงแม้ว่าคุณจะแค่วางไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้มันอยู่ก็ตามเพราะภาพสิ่งของเหล่านั้นจะหลอกให้เรารู้สึกว่าห้องมันร้อน พร้อมจะให้ความอบอุ่นมากกว่าเย็นสบาย
4. เปลี่ยนหลอดไฟ
แค่การเพียงเปลี่ยนหลอดไฟจะทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันทีเลยว่า ห้องมันดูเปลี่ยนไปทันตาเห็น เพราะประโยชน์ของหลอดไฟไม่เพียงแค่มอบความสว่างให้ แต่สีของแสงไฟยังมีหลายโทนสีและสามารถวัดเป็นค่าอุณหภูมิได้ โดยจะไล่ระดับเริ่มต้นจากแสงโทนส้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปจนถึงระดับค่าอุณหภูมิสูงที่มักจะเป็นโทนสีฟ้าที่ให้ความรู้สึกสดใส ช่วยปลุกร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า ฉะนั้นควรเลือกหลอดไฟ Cool White มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 4,000 เคลวิน ให้แสงขาวสว่างสดใสในโทนอุ่น ไม่ก็หลอดไฟ Daylight White มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 6,000-6,500 เคลวิน ที่ให้แสงสว่างโทนเย็น
5. ม่านกันร้อน
ประโยชน์ของม่านนอกจากบังสายตาและเพื่อความสวยงามแล้ว ยังสามารถกันแสงหรือความร้อนได้ดี หากเลือกชนิดของม่านให้เหมาะสม เช่น ห้องที่มีแสงแดดส่องตลอดเวลาควรเลือกใช้ม่านที่เป็นวัสดุสังเคราะห์อย่างผ้าเคลือบสารไฟเบอร์ โพลีเอสเตอร์ไม่ก็เลือกใช้ม่านแบบผสมของสารป้องกันแสงแดดและความร้อนที่ตัวม่านสามารถกรองแสงได้ตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด แต่สามารถกันความร้อน หรือแสง UV ได้ถึง 100% ข้อดีของม่านชนิดนี้ช่วยประหยัดค่าไฟได้ แถมช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ควรเลือกผ้าม่านสีโทนอ่อน จะช่วยให้ห้องดูโปร่ง สบายมากขึ้น
6. เน้นปูพื้นให้ห้องเย็น
lookboxliving
หากคุณเคยเดินเท้าเปล่าบนพื้นหินอ่อนหรือหินแกรนิตจะสัมผัสได้ถึงความเย็นบนที่แพร่เข้ามาบนฝ่าเท้ามากกว่าพื้นปูนซึ่งเป็นตัวนำความร้อนเพราะหินธรรมชาติช่วยกักเก็บความเย็นได้ และยังระบายความร้อนได้เร็วด้วย ทำให้อยู่ในห้องรู้สึกเย็นสบาย โดยแทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเลย แม้ราคาอาจจะสูงไปสักหน่อยแต่คงทนใช้ได้ยาว ๆ และไม่ได้ดูแลยากอย่างที่คิด แถมยังช่วยให้ห้องคุณดูหรูหราขึ้นอีกด้วย
7. เพิ่มพื้นที่สีเขียว
นอกจากต้นไม้จะดูสวยงาม และให้ความรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ต้นไม้ยังช่วยลดอุณหภูมิความร้อน ทำให้บรรยากาศภายในห้องเย็นลง โดยต้นไม้ที่เลือกควรเป็นไม้กระถางที่สามารถดูแลและเคลื่อนย้ายได้ง่าย รวมทั้งควรเลือกตที่คายออกซิเจนในตอนกลางคืน แม้จะเลือกปลูกต้นไม้ไว้ในห้องนอนก็ไม่ดูดเอาออกซิเจนเข้าไปและคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา อย่าง ต้นเดหลี ต้นลิ้นมังกร ต้นเศรษฐีเรือนใน เป็นต้น ที่สำคัญถ้าคุณเอาต้นไม้ไว้ในห้องแล้วเปืดแอร์ต้องมั่นลดน้ำบ่อย ๆ ด้วยเพราะดินจะมีความแห้งเร็วกว่าสภาพอากาศปกติ
