การที่เราอยู่ในประเทศเมืองร้อนแสงแดดเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ยิ่งถ้าในโอกาสไปเล่นน้ำสงกรานต์หรือออกไปทะเลยิ่งควรหากันแดดดี ๆ สักตัวมาไว้ป้องกันผิวหน้าตัวเองจากรังสี UV ที่ไม่เพียงแค่ทำให้ผิวคล้ำขึ้น หน้าลอกแสบ ฝ้าถามหา กระตามมาติด ๆ แต่ยังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ด้วย ยิ่งแดดประเทศไทยด้วยแล้ว อย่าดูถูกไป
การดูแลผิวมักเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ชายพลาดอยู่เสมอ บางคนไม่ได้เลือกครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าตัวเอง หนักกว่านั้นคือใช้ไม่ถูกประเภทหยิบผลิตภัณฑ์เฉพาะทาตัวมาใช้กับผิวหน้า หรือการเข้าใจผิดคิดว่าครีมกันแดดทุกตัวกันน้ำ ทารอบเดียวอยู่ทนทั้งวันก็มี ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วกันแดดที่วางขายตามร้านสะดวกซื้อไม่ได้กันน้ำเสมอไป โดยเฉพาะสำหรับผิวหน้านั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมใช้ครีมกันแดดค่า SPF สูงแล้วแต่คุณถึงยังหน้าไหม้ได้อยู่ดี
วันนี้เราเลยขอถือโอกาสพาหนุ่ม ๆ มาดูวิธีเลือกครีมกันแดด พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ทนน้ำ สู้แดดเหมาะกับพวกคุณแบบไม่ยุ่งยาก ชวนเวียนหัว แถมหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป
ทากันแดดหน้าไม่ได้มันเสมอไป
สาเหตุหนึ่งที่หลายคนไม่อยากใช้ครีมกันแดดเพราะมันมีความเหนียวเนอะหนะ ใช้แล้วหน้ามันเหมือนอยู่หน้าเตาตลอดเวลา แต่โปรดรู้ไว้กันแดดบนใบโลกนี้ไม่ได้มีแค่ประเภทนั้นประเภทเดียว ถ้าไม่อยากหน้ามันทาปุ๊ปซึมปั๊บเลือกแบบสูตรโลชั่นน้ำนมหรือเจลดีกว่า วิธีสังเกตง่าย ๆ คือดูแพคเกจที่ใช้บรรจุ ส่วนใหญ่แบบน้ำนมและจะมาเป็นรูปทรงขวด ถ้าเป็นเนื้อครีมจะมาแบบหลอด แต่ถ้าให้ชัวร์อ่านฉลากด้านหลังดีกว่าเพราะบางแบรนด์ทำแบบหลอดก็มี
เลือกประสิทธิภาพของครีมกันแดด
กันแดดที่ดีต้องปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ซึ่ง PA นั้นใช้ป้องกันรังสี UVA โดยจะมาพร้อมเครื่องหมาย+ ตั้งแต่ PA+ จนถึง PA++++ ยิ่งบวกเยอะก็ยิ่งดี
ส่วน SPF นั้นใช้ป้องกันรังสี UVB ตัวเลขต่อท้ายข้างหลัง หมายถึง จำนวนเท่าของระยะเวลาที่ครีมกันแดดจะอยู่ทนได้ โดยปกติในชีวิตประจำวันผิวของเราจะรับมือกับแสงแดดโดยปราศจากครีมกันแดดได้ประมาณ 15 นาที ถ้าครีมกันแดดระบุไว้ว่า SPF50 ก็จะหมายถึง เราสามารถอยู่กลางแดดได้ประมาณ 50×15 = 750 นาที หรือราว 12.5 ชั่วโมง โดยที่ผิวไม่ไหม้แดง
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือครีมกันแดดที่เขียนว่า Water Resistant ผิวจะอยู่คุณได้ประมาณ 40 นาทีเท่านั้นหลังจากที่คุณกระโจนลงน้ำ ไม่ได้กันแดดยาวนานเท่าค่า SPF ปกติ ดังนั้นให้หมั่นทาซ้ำหรือไม่ก็เลือกชนิด Water Proof ซึ่งจะอยู่ได้นานกว่าเป็นสองเท่าหรือราว 80 นาที แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทาครีมกันแดดทิ้งไว้บนผิวอย่างน้อย 15 นาทีก่อนออกแดด
ลิสต์ครีมกันแดดที่ทนน้ำ สู้แดด
หากใครอ่านคำแนะนำไปก่อนหน้านี้แล้วรู้สึกยุ่งยาก รายละเอียดเยอะไปหมด ไม่เป็นไรเพราะเราอำนวยความสะดวก ลดความวุ่นวายคัดมาไว้ให้แล้วว่าตัวไหนดีพร้อมไฟว์กับแสงแดดและเปียกได้ในคราวเดียว ที่สำคัญราคาไม่เกินพันด้วย
1. Sunplay Super Block SPF50+ PA++++
โลชั่นกันแดดสูตรน้ำนมสำหรับผิวหน้าและผิวกาย ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ด้วยความที่เป็นสูตรน้ำนมจึงให้ความบางเบา สบายผิว ไม่ก่อให้กิดการอุดตันหรือทำให้เกิดการระคายเคืองผิว พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UV ได้สูงและยาวนานกว่า 50 เท่าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากญี่ปุ่น ทั้งยังมี Superior Photo Stability ซึ่งคงทนต่อแดดสูงมากการปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดดได้ยาวนานเป็นพิเศษ แถมยังกันเหงื่อและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ขณะทำกิจกรรมกลางแดดหรือเล่นน้ำทะเลก็รอด
2. Sunplay Sport Lotion SPF50+PA++++
โลชั่นกันแดดสูตรน้ำนมเนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ แห้งทันทีเมื่อทาลงบนผิว ทั้งยังใช้ได้กับผิวหน้าและผิวกาย ด้วยเทคโลโนยี Quick Dry ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Wet Skin ช่วยให้เนื้อสเปรย์สามารถทะลุผ่านน้ำหรือเหงื่อลงสู่ชั้นผิว สามารถทาทับผิวเปียกได้ทันทีเพื่อสร้างเกราะป้องกันแสงแดด โดยไม่ต้องเช็ดให้แห้ง คนที่ต้องออกแบบนาน ๆ หรือ เหมาะสำหรับผู้เล่นกีฬาและออกกำลังกายกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานานหรือมีเหงื่อออกเยอะ
3. Biore UV Perfect Milk SPF50+ PA++++
โลชั่นแดดสูตรน้ำนม ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาวและออกแดดได้ทันทีหลังจากทา Biore รุ่นนี้สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แถมเหมาะยังมาพร้อมคุณสมบัติป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ยาวนานแม้ผิวโดนเหงื่อหรือน้ำ เรียกว่าสนุกกับทุกกิจกรรมกลางแจ้งและเล่นกีฬาได้เต็มที่
4. Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดเนื้อเอสเซ้นส์สูตรน้ำ สำหรับผิวหน้าและลำคอ เนื้อครีมบางเบาเป็นพิเศษ ไม่เป็นคราบ ไม่มันเหนอะหนะและด้วยนวัตกรรมกันแดดอัจฉริยะ UV Aqua Jelly Capsule ที่เก็กกัก SPF50+/PA++++ ไว้ในแคปซูลสามารถช่วยป้องกันรังสี UVA/ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปกป้องไม่ให้ผิวหมองคล้ำได้ต่อเนื่องและยาวนาน แถมยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ และผสานคุณค่าการบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านในตัวเดียวด้วย
ด้วย Hyaluronic Acid และ Royal Jelly Extra
5. Biore UV Aqua Rich Watery Gel SPF50+PA++++
โลชั่นกันแดดตัวนี้มีคุณสมบัติแทบไม่ต่างจากตัวก่อนหน้านี้เลย แต่เขามาพร้อมเนื้อเจลสูตรน้ำ เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ไม่เลอะเสื้อผ้า และที่สำคัญสามารถปกป้องผิวหน้ากับผิวกายได้ในตัวเดียว ซึ่งรุ่นนี้ยังคงปกป้องรังสี UVA / UVB ด้วยเทคโนโลยีกันแดดอัจฉริยะ UV Aqua Jelly Capsule ที่เก็บกัก SPF50+ PA++++ ไว้ในแคปซูลแล้วแปรสภาพเสมือนน้ำ กระจายตัวทั่วผิวทันทีที่ทา พร้อมบำรุงผิวกายให้นุ่มชุ่มชื่นหมือนเติมน้ำให้ผิวเอาไว้ไม่ต่างจากรุ่น Essence เลย
6. MizuMi UV Water Defense SPF50+/PA++++
กันแดดของแบรนด์ MizuMi มีจุดเด่นตรงที่ปราศจากสารกันแดดแบบเคมี 100% ด้วย สูตร 5-FREE (ไม่มีน้ำหอม น้ำมัน พาราเบน แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์) และผ่านการทดสอบความระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง (Dermatologically Tested) คนคนเป็นสิวหรือผิวแพ้ง่ายจึงใช้ได้สบายๆ
โดยรุ่นนี้เป็นโลชั่นกันแดดสูตรน้ำนม เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ คุมมันได้ ไม่เป็นคราบพร้อมปกป้องสูงสุดจาก UVA1, UVA2 และ UVB ขณะทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีเหงื่อมากหรือต้องลงน้ำนาน ๆ สามารถปกป้องผิวคุณได้ถึง 40 นาทีตามสูตร Water Resistant คุณสมบัติครบถ้วนแถมยังสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายยังต่างหาก
7. Anessa Perfect UV Sunscreen A+N SPF 50+ PA++++
ครีมกันแดดตัวยอดนิยมที่ใครๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเริ่ด ถึงจะราคาแรงกว่าตัวอื่นหน่อยแต่แลกมากับคุณภาพที่ดีตามก็ถือว่าคุ้ม ด้วยสูตรโลชั่นน้ำนมมาพร้อมเทคโนโลยี Aqua Booster ทำให้เนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เวลาเหงื่อออกใบหน้าก็ไม่มีคราบ ทั้งสามารถปกป้องผิวจากจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF50+/PA++++ ได้นานขึ้นถึง 8 ชั่วโมง ไม่ว่าจะการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือเล่นน้ำก็ไม่ต้องห่วงเพราะใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย