7 แข้งแห่งพรีเมียร์ลีก ที่เปิดตัวไม่สวยแต่สุดท้ายระเบิดฟอร์มเก่ง - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
7 แข้งแห่งพรีเมียร์ลีก ที่เปิดตัวไม่สวยแต่สุดท้ายระเบิดฟอร์มเก่ง

        ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขึ้นชื่อได้ว่า เป็นลีกที่ค่อนข้างยากสำหรับนักฟุตบอลที่ย้ายมาใหม่ เพราะลีกแห่งนี้เต็มไปด้วยความโหด ดุดัน หนักหน่วง รวมถึงมีสปีดฟุตบอลเร็วกว่าลีกอื่นๆ อยู่พอสมควร และผู้เล่นหลายรายก็ต้องย้ายมาดับแบบไม่น่าเชื่อ 

        แต่ก็ยังมีนักเตะอีกจำนวนหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า พวกเขาสามารถรับมือกับการย้ายมาในค้าแข้งในเมืองผู้ดีได้อย่างสบาย แม้ในช่วงแรกจะต้องดิ้นรนอย่างหนักก็ตาม โดยบรรดายอดแข้งเหล่านี้ พิสูจน์แล้วว่า เมื่อพวกเขาได้เวลาในการปรับตัวอย่างเหมาะสม ฟอร์มการเล่นที่สุดยอดก็จะตามมา

Source : cloudfront

1. โรแบร์ ปิแรส (อาร์เซนอล)

ปิแรส เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของผู้เล่นชาวต่างชาติที่ต้องการเวลาอย่างน้อย 1 ฤดูกาลเพื่อปรับตัวกับสไตล์การเล่นของพรีเมียร์ลีก โดยปีกชาวฝรั่งเศส ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาร่วมทีม อาร์เซนอล ในปี 2000 และในปีแรกกับ “เดอะ กันเนอร์ส” เขายิงได้เพียง 4 ลูก กับทำ 7 แอสซิสต์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลต่อมานั้น อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล ยังคงเชื่อมั่นในตัว ปิแรส เต็มเปี่ยม และเขาก็ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวังด้วยการทำผลงานได้ดีขึ้น หลังจากที่ซัดไป 9 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ พร้อมช่วยให้ “ไอ้ปืนใหญ่” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

ตลอดเวลาเวลา 6 ซีซั่นที่ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล นั้น ปิแรส กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกมาตลอด และคว้าแชมป์ร่วมกับทีมมากมาย อาทิ แชมป์ลีก 2 สมัย และแชมป์ฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพ อีก 2 สมัย

Source : fourfourtwo

2. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล)

อาจเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ ซัวเรซ ถูกจัดอันดับอยู่ในหมวดหมู่นี้ด้วย แต่ก็ยากที่จะลืมว่า หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ไม่ได้โชว์ฟอร์มเปรี้ยงป้างนักในปีแรกของเขากับ ลิเวอร์พูล หลังย้ายมาจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อเดือนมกราคมปี 2011

แม้จะยิงประตูใส่ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี้ ได้ในเกมแรกที่ลงประเดิมสนามต่อหน้าแฟนบอล “หงส์แดง” ในถิ่นแอนฟิลด์ แต่หลังจากนั้น 44 เกมในลีก ซัวเรซ ยิงได้เพียง 15 ประตูเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2012/13 ดาวยิงทัพ “จอมโหด” แสดงให้เห็นถึงคุณภาพการเป็นผู้เล่นระดับโลกอย่างแท้จริง เขากระหน่ำไป 23 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ ในเกมลีก 33 นัดให้กับ ลิเวอร์พูล

ซัวเรซ ยังโชว์ผลงานที่น่าทึ่งอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ซัดไปอีก 31 ประตู กับ 17 แอสซิสต์ ในปี 2013/14 พร้อมพา “หงส์แดง” จบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ก่อนจะย้ายไปยังบาร์เซโลน่า ในปีต่อมา

Source : cloudfront

3. เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซนอล)

       หนึ่งในสุดยอดการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดตลอดกาลของ อาร์เซนอล อองรี ย้ายจาก ยูเวนตุส มาเล่นในถิ่นไฮบิวรี่ ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ในปี 1999 ซึ่งในเวลานั้นยังไม่มีใครรู้จักเขามากนัก และผลงานของเขาก็ค่อนข้างฝืดหลังยิงไปเพียงลูกเดียวจากการลงสนาม 8 เกมแรก

       ในช่วงแรก อองรี ถูก อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล จับไปเล่นเป็นปีกซ้าย และยังไม่ได้รับบทบาทกองหน้าที่สร้างชื่อให้เขาจนถึงทุกวันนี้ โดยหัวหอกเฟรนช์แมนพยามยามปรับตัวกับบทบาทใหม่ และลีกใหม่อย่างเต็มที่

        อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนคริสมาสต์ เวนเกอร์ ขยับ อองรี ไปเล่นเป็นกองหน้า จากนั้น ตำนานแห่งทัพ “เดอะ กันเนอร์ส” ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดด้วยการซัดไป 17 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ ในซีซั่นแรก พร้อมฝากผลงาน 7 ปีกับสโมสรด้วยการซัดไป 174 จาก 254 เกม และกวาดแชมป์อีกนับไม่ถ้วน

Source : cloudfront

4.เดนนิส เบิร์กแคมป์ (Arsenal)

ยอดดาวยิงจอมคลาสิค ก็เป็นอีกคนที่ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการปรับตัวกับลีกสูงสุดเมืองผู้ดี หลังจากที่เขาย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาร่วมทีม อาร์เซนอล ในปี 1995 โดยดาวเตะดัตช์ ต้องรอนานถึง 7 เกม ในการประเดิมประตูแรกให้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” ด้วยการยิง เซาธ์แฮมป์ตัน 

อย่างไรก็ตามในปี 1997/98 ซึ่งเป็นการคุมทีม อาร์เซนอล เต็มซีซั่นครั้งแรก ของ อาร์แซน เวนเกอร์ นั้น เบิร์กแคมป์ ระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอด ด้วยการซัดไป 16 ประตู กับ 11 แอสซิสต์ จากนั้น เขาก็เป็นกองหน้าตัวหลักของทีมมาตลอด 10 ปี

เบิร์กแคมป์ ประสบความสำเร็จกับ “ไอ้ปืนใหญ่” อย่างมากมาย ประกอบด้วย แขมป์ลีก 3 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย และแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์ 3 สมัย

Source : 365dm

5. ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

       ผลงานโดยรวมของ เด เคอา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของศึกพรีเมียร์ลีกที่ แต่ในช่วงแรกของ นายทวารชาวสเปน นั้น เขาก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเช่นกัน

เด เคอา ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาเฝ้าเสาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 18.3 ล้านปอนด์ ในปี 2011 และเขาก็ก่อความผิดพลาดบนสนามอยู่หลายครั้ง ขณะเดียวกันหลายคนเริ่มสงสัยว่า ร่างกายที่บอบบางของเขานั้น จะรับมือกับเกมหนักของพรีเมียร์ลีกได้อย่างไร

จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงในเกมที่ แมนยูไนเต็ด เสมอกับ เชลซี 3-3 โดย โกล์ “กระทิงดุ” เซฟลูกยิงฟรีคิกของ ฆวน มาต้า ได้อย่างเหลือเชื่อ จากนั้น เด เคอา ก็โชว์ฟอร์มหนึบตลอดมาจนถึงตอนนี้ และถือเป็นหัวใจในแนวรับของ “ปีศาจแดง” อย่างแท้จริง

Source : cloudfront

6. ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ซิตี้)

เช่นเดียวกับ ดาบิด เด เคอา ร่างกายของ ซิลบา ก็ถูกตั้งข่อสงสัยเช่นกัน หลังจากที่เขาย้ายจาก บาเลนเซีย มาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์ในปี 2010 และได้ลงสนามเพียงเกมเดียวเท่านั้น จาก 4 นัดแรก

หลังจากนั้น เพลย์เมคเกอร์ชาวสเปน ออกมายืนยันว่า เขาจะโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นเมื่อเขาปรับตัวเขากับลีกอังกฤษได้  และเขาก็พูดถูก เมื่อดูจากผลงาน 4 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ ในซีซั่นแรกของเขากับ แมนฯซิตี้

ในฤดูกาล 2011/12 ซิลบา กลายเป็นจอมทัพของ แมนฯซิตี้ อย่างเต็มตัว เขาระเบิดฟอร์มเก่งด้วยการซัดไป 6 ประตู กับ 17 แอสซิสต์ พร้อมกับพาพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสรได้สำเร็จ

ในเวลานี้ ซิลบา อยู่ในสัญญาปีสุดท้ายของเขาในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม โดยก่อนหน้านี้ เขาคว้าแชมป์ลีกร่วมกับทีมไปแล้ว 3 สมัย และแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศอีก 6 รายการ จึงไม่น่าแปลกใจหาก ดาวเตะ สแปนิช จะถูกยกย่องให้เป็นตำนานแห่งทัพ “เรือใบสีฟ้า”

Source : 365dm

7. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (เชลซี)

ดร็อกบา ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาเล่นกับ เชลซี ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ ในปี 2004 แต่เขาทำประตูได้เพียง 2 ลูก จาก 8 เกมแรก ก่อนจะได้รับบาดเจ็บ และต้องพักยาวไปถึง 6 เกม

ศูนย์หน้าชาวไอโวรี่ โคสต์ ประเดิมซีซั่นแรกกับ เชลซี ด้วยการยิงไป 10 ประตู จากการลงสนาม 26 เกม ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมา ดร็อกบา จะซัดเพิ่มได้เป็น 12 ประตู และในปี 2006/07 นับเป็นปีทองของเขา หลังกระหน่ำไปถึง 20 ประตู

ตำนานดาวยิง “สิงห์บลูส์” ไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาคว้ารางวัลดาวซัลโวได้ในซีซั่น 2009/10 หลังซัดไปถึง 29 ประตู โดยตลอดเวลา 8 ปี ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้น ดร็อกบา กวาดแชมป์มากมาย อาทิ แชมป์ลีก 4 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

ภาพประกอบ : planetfootball.com, fourfourtwo.com, football365.com, skysports.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save