7 นักเตะที่ไม่เก่งเหมือนเดิมหลังรีเทิร์นสโมสรเก่า - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
7 นักเตะที่ไม่เก่งเหมือนเดิมหลังรีเทิร์นสโมสรเก่า

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ยอดดาวยิง เชลซี, เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้าชาวฝรั่งเศส ของ อาร์เซน่อล และ พอล สโคลส์ อดีตกองกลางตัวเก่ง ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างเคยเป็นขวัญใจแฟนบอลในสโมสรของพวกเขา ซึ่งพาทีมประสบความสำเร็จอย่างมากมาย และกลับมาช่วยต้นสังกัดเดิมอีกครั้งในฐานะฮีโร่

        มีนักเตะอีกจำนวนไม่น้อยที่ในอดีตพวกเขาเคยเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล และฝากผลงานที่ยอดเยี่ยมไว้จนไม่มีใครลืม ก่อนจะมีเหตุต้องย้ายออกจากสโมสร และสุดท้ายโชคชะตาทำให้พวกเขารีเทีร์นสู่ถิ่นเดิมเดิมอีกครั้ง 

        อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่นักเตะทุกคนที่กลับมาค้าแข้งกับสโมสรเก่า และจะทำได้ดีเหมือนเดิม โดยบรรดาแข้งชื่อดัง 7 รายต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ในวงการลูกหนังบางทีเมื่อคุณเดินจากไปแล้วก็ไม่ควรย้อนกลับมาอีก

7. ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (ยูเวนตุส ปี 2009)

อดีตกองหลังกัปตันทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ กลับมาเล่นกับ ยูเวนตุส อีกครั้งในปี 2009 หลังย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด เมื่อ 3 ปีก่อน

หลังหมดสัญญากับ มาดริด คันนาวาโร่ พยายามอย่างหนักเพื่อหาทางกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดอีกครั้ง ด้วยการติดต่อไปยังอดีตทีมเก่าของเขา อาทิ ปาร์ม่า, นาโปลี และอินเตอร์ มิลาน ก่อนที่เจ้าตัวจะมาลงเอยกับ ยูเวนตุส ในที่สุด

การรีเทิร์นสู่ทัพ “เจ้าม้าลาย” หนนี้ คันนาวาโร่ ในวัย 36 ปี ร่างกายไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม เขาได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้ฟอร์มการเล่นตกลงอย่างน่าใจหาย โดยปราการหลัง “อัซซูรี่” ค้าแข้งกับ ยูเว่ ได้เพียงปีเดียว ก่อนจะหมดสัญญา และย้ายไปเล่นกับ อัล อาห์ลี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

6. ดิเอโก้ คอสต้า (แอตเลติโก มาดริด ปี 2017)

บรรดากองหลังในพรีเมียร์ลีก คงมีความยินดีไม่น้อยที่ได้เห็น คอสต้า ย้ายกลับไปเล่นในสเปนกับ แอตเลติโก มาดริด หลังหัวหอกจอมเถื่อน ค้าแข้งกับ เชลซี มานานถึง 3 ปี และสร้างวีรกรรมไว้มากมายบนเมืองผู้ดี

เชลซี เซ็นสัญญากับ คอสต้า ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2014 หลังจากที่ เขาโชว์ฟอร์มเก่งช่วยให้ แอตเลติโก ภายใต้การคุมทีมของ ดิเอโก ซิเมโอเน่ กุนซือชาวอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ลา ลีกา ได้อย่างยิ่งใหญ่ ในปี 2013

คอสต้า พา เชลซี ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ โค้ชชาวอิตาลี คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ในฤดูกาล 2016-17 ก่อนที่ทั้งคู่จะมีปัญหาไม่ลงรอยกัน และดาวเตะวัย 30 ปี ถูกปล่อยกลับไปเล่นกับ แอตเลติโก อีกครั้งในช่วงซัมเมอร์

อย่างไรก็ตาม คอสต้า ต้องรอถึงเดือนมกราคมปี 2018 ถึงจะสามารถลงเล่นให้กับ แอตเลติโก ได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการย้ายทีม จากนั้น ศูนย์หน้าทัพ “กระทิงดุ” ปืนฝืดอย่างต่อเนื่องทำประตูไม่ได้หลายนัด และไฮไลท์สำคัญคือ เขาโดนแบนยาว 8 นัด หลังไปใช้คำหยาบคายกับผู้ตัดสิน

5. เจอร์เมน เดโฟ (บอร์นมัธ ปี 2017)

เดโฟ เริ่มอาชีพของเขาในฐานะกองหน้าดาวรุ่งอนาคตไกลที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และถูกปล่อยยืมไปหาประสบการณ์ที่ บอร์นมัธ ในปี 2000 โดยอดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง หลังจากซัดไป 18 ประตู จาก 29 เกม ให้กับ “เดอะ เชอร์รี่ส์”  

อดีตดาวยิง เวสต์แฮม ตระเวนค้าแข้งในแดนผู้ดีไปกับหลายสโมสร อาทิ พอร์ตสมัธ, ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ และซันเดอร์แลนด์ ซึ่งตกชั้นในปี 2017 จากนั้น เดโฟ ในวัย 34 ปี จึงตัดสินใจกลับไปเล่นกับ บอร์นมัธ อีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว

เดโฟ ได้โอกาสลงสนามให้กับ บอร์นมัธ 28 เกม แต่เกินครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นเขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง และยิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น

4. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2017)

ยอดศูนย์หน้าชาวสวีเดน ย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกในปี 2016 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมายใน อิตาลี, สเปน และฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานระดับสุดยอดด้วยการซัดไป 156 ประตู ในระยะเวลา 4 ปี กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

อิบราฮิโมวิช เข้ามาเติมเต็มแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุค โจเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกส ได้อย่างลงตัว เขาซัดไป 28 ประตูในทุกการแข่งขัน รวมถึงพา “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ลีก คัพ ได้สำเร็จ ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่า

“อิบรา” ที่ประกาศตัวเป็นอิสระจาก แมนฯยูไนเต็ด ในเดือนมิถุนายน ปี 2017 ก่อนที่ 2 เดือนต่อมา เขาจะหวนกลับไปเซ็นสัญญากับ “ปีศาจแดง” อีกครั้ง หลังจากร่างกายฟิตสมบูรณ์ แต่ หัวหอกวัย 37 ปี ลงเล่นได้เพียงนัดเดียว ก่อนจะย้ายไป แอลเอ กาแล็คซี จนถึงปัจจุบัน

3. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล ปี 2006)

อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ เจ้าของฉายา “เดอะ ก็อด” ผู้เป็นตำนานแห่งถิ่นแอนฟิลด์ ทำผลงานสุดยอดด้วยการซัดไป 171 ประตู ในช่วงเวลา 9 ฤดูกาล กับ ลิเวอร์พูล ไม่มีใครหยุดเขาได้ในช่วงเวลารุ่งเรืองกับ “หงส์แดง”

 ฟาวเลอร์ เป็นส่วนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ชุดทริปเปิ้ลแชมป์ ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า คัพ ในปี 2001 ภายใต้การคุมทีมของ เชราร์ด อุลลิเย่ร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส แต่ในซีซั่นถัดมา เขาต้องตกเป็นตัวสำรองของคู่หู เอมิล เฮสกีย์ และ ไมเคิล โอเว่น จนต้องย้ายออกจาก “หงส์แดง”

ฟาวเลอร์ ใช้เวลา 3 ปี กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และอีก 3 ปี กับ แมนเชสสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะกลับสู่ ลิเวอร์พูล ในปี 2006 ในยุค ราฟาเอล เบนิเตซ โค้ชชาวสเปน แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น เขาไม่คมเหมือนเดิมอีกแล้ว เห็นได้ชัดจากผลงาน 8 ประตู จาก 30 เกม

2. โจ โคล (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ปี 2013)

โคล เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล เวสต์แฮม อย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่เขาเป็นดาวรุ่งก้าวขึ้นมาสู่ทัพ “ขุนค้อน” โดยอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ เป็นนักเตะมากพรสวรรค์ และมีเทคนิคการเล่นที่แพรวราว จนได้รับการยกย่องว่า เป็นแข้งที่มีฝีเท้าน่าตื่นเต้นที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี

โคล ใช้เวลา 5 ปี ในทีม เวสต์แฮม ภายใต้การคุมทัพของผู้จัดการทีม เกล็น โรเดอร์ ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นกับ เชลซี ในปี 2003 และประสบความสำเร็จมากมาย จากนั้น อดีตเด็กปั้น “ขุนค้อน” พเนจรไปค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล และ ลีลล์ ในฝรั่งเศส

ในปี 2013 โคล กลับสู่ เวสต์แฮม อีกครั้ง ในวัย 32 ปี ที่ร่างกายไม่เหมือนเดิม น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บเรื้อรังจากอาการเอ็นร้อยหวายฉีกขาด ทำให้มีโอกาสลงสนามช่วย “ขุนค้อน” ไม่มากนัก และส่วนใหญ่ต้องเป็นตัวสำรอง ก่อนจะถูกปล่อยตัวในปีต่อมา

1. โจอี้ บาร์ตัน (เบิร์นลีย์ ปี 2017)

หนึ่งในนักฟุตบอลที่มีสีสันมากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ บาร์ตัน กลับมาเล่นกับ เบิร์นลีย์ อีกครั้งในปี 2017 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในฤดูกาล 2015–2016 กองกลางพันธุ์โหด เคยค้าแข้งอยู่ในถิ่น เทิร์ฟมัวร์ มาแล้ว

บาร์ตัน เคยย้ายไปเล่นกับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในสก็อตแลนด์ เป็นเวลา 4 เดือน แต่เขาถูกสโมสรแบนเนื่องจากทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีมในสนามซ้อม จากนั้น เบิร์นลีย์ ให้โอกาสเขากลับมาอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมปี 2017

อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของ เบิร์นลีย์ ไม่คุ้มค่า เนื่องจาก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ มีคำสั่งลงโทษห้าม บาร์ตัน ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง พร้อมปรับเงินอีก 30,000 ปอนด์ หลังพบว่า ดาวเตะจอมเก๋า แอบเล่นพนันผลบอลตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ภาพประกอบ : ilbianconero.com, beinsports.com, skysports.com, manchestereveningnews.co.uk, fourfourtwo.com, mirror.co.uk

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save