7 อดีตแข้งดังที่พรีเมียร์ลีก ที่ย้ายมาเพียงปีเดียว และโดนขายทิ้ง - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
7 อดีตแข้งดังที่พรีเมียร์ลีก ที่ย้ายมาเพียงปีเดียว และโดนขายทิ้ง

ตลาดนักเตะของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในทุกยุคสมัยที่ผ่านมา ทุกสโมสรต่างทุ่มเงินซื้อผู้เล่นชื่อดังมาร่วมทีม และสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ แข้งบางรายโชว์ฟอร์มได้อย่างคุ้มค่าตัว และบางคนก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า 

นักเตะชื่อดังต่อไปนี้ ย้ายสังกัดมาด้วยความคาดหวังอย่างสูง ทั้งจากชื่อเสียง ฝีเท้า และฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นกับทีมเก่า แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ในเมื่อผลงานไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้ สโมสรก็พร้อมจะขายพวกเขาทิ้งโดยไม่ลังเล

Source : Theguardian

1. ดาวี คลาสเซ่น (เอฟเวอร์ตัน)

คลาสเซ่น ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มายัง เอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2017 ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ และเขาเป็นเหมือนการซื้อตัวอย่างฟุ่มเฟือยของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เพลย์เมกเกอร์ชาวดัตช์ มีความสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแดนกลาง รวมถึงขัยบขึ้นไปเป็นตัวรุก แต่เขาฟอร์มตกอย่างไม่น่าเชื่อ 

มิดฟิลด์วัย 26 ปี ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ เอฟเวอร์ตัน ไปเพียง 3 เกมเท่านั้น และไม่สามารถทำประตู หรือแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เลยแม้แต่ลูกเดียว จากนั้น คลาสเซ่น ถูกขายให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน ในซัมเมอร์ปี 2018 ค่าตัวเพียง 12 ล้านปอนด์

Source : steemitimages

2. คริส ซัตตัน (เชลซี)

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ซีซั่นที่ 5 ของ ซัตตัน กับ “กุหลาบไฟ” ต้องจบลงด้วยการตกชั้น และเขาก็ย้ายไปยัง เชลซี ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ ในปี 1999 ซึ่งถือเป็นสถิติของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ในเวลานั้น

อย่างไรก็ตาม ซัตตัน ดิ้นรนอย่างหนักในการทำประตูกับ เชลซี โดยหัวหอกชาวอังกฤษ ยิงไปได้เพียงลูกเดียว จากการลงสนาม 28 เกมในลีก และสไตล์การเล่นของเขาก็ดูจะไม่ประทับใจ จิอันลูก้า วิเอรี่ อดีตกุนซือ “สิงห์บลูส์” มากนัก

เมื่อจบฤดูกาล ซัตตัน ถูกขายให้กับ กลาสโกว์ เซลติก ในราคา 6 ล้านปอนด์ ก่อนที่ เชลซี จะคว้า จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ ดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์ เข้ามาแทนที่เขา

Source : fourfourtwo

3. โรลันโด้ เบียงคี่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

ด้วยข้อยกเว้นที่น่าทึ่งบางประการสำหรับฟอร์มของ จานฟรังโก โซล่า และเปาโล ดิ คานิโอ 2 ตำนานกองหน้าชาวอิตาเลี่ยนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก นักเตะจากแดนมะกะโรนีหลายคนเดินทางมายังเมืองผู้ดีด้วยค่าตัวมหาศาล และพิสูจน์แล้วว่า เป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ เบียงคี่ ก็คือหนึ่งในนั้น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซ็นสัญญากับ เบียงคี่ มาจาก โตริโน่ ในราคา 8.8 ล้านปอนด์ ในเดือนกรกฎาคมปี 2007 เขาได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในภายใต้การคุมทีมของ สเวน โกรัน อิริคสัน อดีตกุนซือ “เรือใบสีฟ้า” แต่ยิงได้เพียง 4 ประตู จาก 19 เกม

ดูเหมือนว่า เบียงคี่ จะปรับตัวเข้ากับประเทศอังกฤษได้ไม่ดีนัก และเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องการดื่มอย่างหนัก เขาจึงถูกปล่อยให้ ลาซิโอ ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนจะย้ายกลับไปยัง โตริโน่ เป็นการถาวรด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์

Source : cloudfront

4. อังเคล ดิ มาเรีย (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

คุณภาพฝีเท้าของ ดิ มาเรีย ไม่น่าสงสัย แต่นอกเหนือจากการเปิดตัวนัดแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วนั้น เขาแทบไม่สามารถสร้างความประทับใจใดให้กับแฟนบอล “ปีศาจแดง” ได้เลย

ปีกอาร์เจนไตน์ คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เรอัล มาดริด และไปถึงรอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลกปี 2014 กับพลพรรค “ฟ้า-ขาว” แต่เขาทำผลงานกับ แมนฯยูไนเต็ด ได้ไม่ถึงมาตรฐานที่หลายคนคาดหวังเอาไว้

ดิ มาเรีย ย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัวถึง 59.7 ล้านปอนด์ และทำได้เพียง 4 ประตู จากการลงเล่นไป 32 เกม ในยุค หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชชาวดัตช์ จากนั้นในช่วงซัมเมอร์ เขาถูกขายให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

Source : cloudfront

5. ร็อบบี่ คีน (ลิเวอร์พูล)

ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล มีความกระตือรือร้นที่จะจับคู่ คีน กับ เฟอร์นันโด ตอร์เรส หัวหอกชาวสเปน ในปี 2008 โดยหวังว่า การเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด และความเฉียบคมของทั้งคู่จะช่วยให้ “หงส์แดง” ประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม มันเป็นแนวคิดที่ดีในทางทฤษฎี แต่กลับล้มเหลวในทางปฏิบัติ เนื่องจากทั้งคู่เล่นไม่เข้าขากัน รวมถึงไม่ปรับตัวเขาหากัน และ คีน ก็โชว์ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานด้วยการยิงไปเพียง 5 ประตู จาก 19 เกมในพรีเมียร์ลีก

เบนิเตซ จึงได้พยายามลดความสูญเสียของเขาด้วยการปล่อยตัว คีน กลับไปยัง ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ ซึ่ง “หงส์แดง” ขาดทุนไปถึง 7 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว

Source : Mirror

6.โนลิโต้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

ในปี 2016 ตัวรุกชาวสเปน ปฏิเสธโอกาสที่จะกลับไปยัง บาร์เซโลนา อดีตทีมเก่าของเขา เพื่อย้ายมาร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งเป็นกุนซือที่ให้โอกาสเขาลงสนามเปิดตัวครั้งแรกในศึกลา ลีกา ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แทน

โนลิโต้ ทำประตูได้ทันทีที่ลงสนามนัดแรกกับ แมนฯซิตี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็แทบไม่มีบทบาทใดกับทีม เนื่องจาก กวาร์ดิโอล่า ปรับเปลี่ยนแท็คติคเกือบทุกเกมเพื่อหาทีมที่ลงตัว

เมื่อจบซีซั่น กองกลาง “กระทิงดุ” ถูกขายให้กับ เซบีย่า ด้วยค่าตัว 7.9 ล้านปอนด์ ซึ่งหลังจากย้ายออกจาก “เรือใบสีฟ้า” เสร็จสิ้น โนลิโต้ ยังออกมาโจมตีการทำงานของ กวาร์ดิโอล่า ที่ไม่ให้โอกาสเขาลงสนามอีกด้วย

Source : manchestereveningnews

7. มัสซิโม่ ตาอิบี้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

หากย้อนกลับไปในปี 1999 การจ่ายเงิน 4.5 ล้านปอนด์ ซื้อตัวผู้รักษาประตู ถือเป็นการลงทุนที่มหาศาลมาก และ แมนฯยูไนเต็ด ก็ยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวคว้าตัว ตาอิบี้ มาเฝ้าเสาเพื่อเป็นตัวแทนของ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล โกล์ชาวเดนมาร์ก ที่ย้ายทีม

อย่างไรก็ตาม ตาอิบี้ โชว์ฟอร์มเหวออย่างหนัก โดนเฉพาะอย่างยิ่ง เขาโดน แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ จอมทัพ เซาแธมป์ตัน ยิงลอดหว่างขาเข้าไปอย่างไม่เชื่อ ส่งผลให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ “ปีศาจแดง” ไม่พอใจกับความผิดพลาดง่ายๆของเขา

ในช่วงปิดซีซั่น นายทวารชาวอิตาลี ถูกปล่อยตัวออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ทันที ด้วยการย้ายไปเล่นในบ้านเกิดกับ เรจจิน่า ด้วยสัญญายืมตัว

ภาพประกอบ : theguardian.com,steemit.com, fourfourtwo.com, planetfootball.com mirror.co.uk, manchestereveningnews.co.uk

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save