ถ้าใครเคยนั่งเรือหางยาวไปตามเกาะเล็กเกาะน้อยจะรู้เลยว่าฟิลลิ่งที่ได้มันดีกว่าการเดินเล่นริมชายหาดพัทยาหรือหัวหินเป็นไหนๆ แม้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันคอยบริการเป็นอย่างดี แต่คุณจะไม่ได้สัมผัสบรรยากาศร้อนระอุ มีลมเย็นๆปะทะผิวหน้า กลิ่นน้ำทะเลที่เชยมาเตะจมูก ท้องฟ้าสีครามและผืนมหาสมุทรที่ไกล้สุดลูกหูลูกตา
สิ่งนั้นแหละตัวชาร์จพลังอย่างดีที่หาไม่ได้จากในโรงแรมแต่ต้องออกไปเหมาเรือหรือซื้อทัวร์เพื่อเติมวิตามิน Sea ให้กับตัวเองบ้าง และวันนี้เราก็มี 7 เกาะที่ธรรมชาติยังสมบูรณ์ ผู้คนไม่พลุกพล่านมาฝากกัน ฟังชื่ออาจจะไม่คุ้นหูแต่บอกไว้เลยว่าความสวยไม่เป็นสองรองเกาะดังแน่นอน
1.เกาะกุฎี จังหวัดระยอง
เกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะเสม็ดมากนัก และถูกจัดว่าเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว ทะเลใส ทั้งยังมีแนวประการังรอบเกาะสวยงามไม่แพ้ทะเลใต้เลย ถึงเกาะกุฎีจะเป็นเกาะเล็กๆ มีไม่กี่หาด แต่ทุกๆ หาดมีความสวยเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองเหมาะแก่การเล่นน้ำ แคมป์ปิ้งริมชายหาด และดำน้ำชมปะการังใต้ท้องทะเลอันอดุมสมบูรณ์
นอกจากความงดงามทางธรรมชาติ สถานที่แห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในเกาะที่อยู่ในวรรณกรรมเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ด้วย คุณสามารถเดินลัดเลาะไปตามชายหาดเพื่อชมความงามรอบเกาะในเส้นทางชมธรรมชาติและแวะไปยังจุดชมวิว ‘ผานิลมังกร’ ที่อยู่ทางทิศใต้ของเกาะเพื่อชมความสวยงามของผืนทรายท้องฟ้าและมหาสมุทรจากมุมสูง
นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมมาเที่ยวเกาะกุฎิแบบ One day trip โดยเหมาเรือจากบ้านเพ หาดสวนสนเพื่อมาลงที่เกาะ น้อยคนนักที่จะมาแวะพักแต่คนที่อยากพักค้างแรมบนเกาะก็สามารถติดต่อจองบ้านพักล่วงหน้ากับทางอุทยานแห่งชาติหรือจะนำเต็นท์ไปกางในบริเวณอุทยานก็ได้เช่นกัน
2. เกาะหวาย จังหวัดตราด
เป็นเกาะเล็ก ๆ มีพื้นที่ไม่มากนักตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ใครไปก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนมาติดเกาะ เพราะไม่มีร้านค้า ไม่มีแสงสีเสียง ไม่มีไฟฟ้า 24 ชม. ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากแนวปะการังหน้าชายหาดที่ตื่นมาก็หยิบแว่นตาดำน้ำชื่นชมความงามใต้ท้องทะเลได้เลยกับความเงียบสงบประหนึ่งกับพักอยู่บนเกาะส่วนตัว
และถึงแม้ว่าเกาะจะเล็ก เงียบสงบแต่ไม่สงัดเลยทีเดียวเพราะก็ยังมีกิจกรรมให้ทำได้ตลอดการพักผ่อน คุณสามารถเดินลัดเลาะไปรอบๆ เกาะตามริมชายหาดเพื่อชมความงามของหาดทรายขาวและธรรมชาติดิบๆ ที่ยังไม่ถูกทำลาย เหมาะแก่การมาเล่นน้ำ นอนอาบแดด อ่านหนังสือ ที่สำคัญยังขึ้นชื่อว่ามีแนวปะการังสวย ๆ อยู่รอบเกาะด้วย
ใครอยากออกกำลังกายหน่อย บางที่พักมีเรือคายักให้เช่าพายรอบ ๆ เกาะ นอกจากจะได้ชมความสวยงามของท้องทะเลรอบเกาะหวายแล้ว ก็ยังสามารถไปเยือนชายหาดต่าง ๆ ของเกาะหวายได้อย่างง่ายดายด้วย
แต่จุดที่นักท่องเที่ยวต่างบอกกันว่าสวยที่สุดคือ ‘อ่าวโรแมนติก’ บริเวณนั้นหาดทรายจะขาวสะอาดมากกว่าหาดอื่น ๆ และอุดมไปด้วยปะการังน้ำตื้น ฉะนั้นจึงสามารถดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลรอบเกาะเพื่อไปชมความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลได้ด้วย
3. เกาะวัวตาหลับ จังหวัดสุราษฎานี
เป็นเกาะศูนย์กลางของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม และเป็นที่ตั้งของ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง สาเหตุที่เราแนะนำเกาะนี้ทั้งๆ ที่ในหมู่เกาะอ่างทองเต็มไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยสวยๆ มากมายเพราะที่นี่น่าจะเหมาะกับสายลุย ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์เพราะบริเวณ
หาดหน้าที่ทำการอุทยานฯ อันปกคลุมไปด้วยหาดทรายขาวละเอียดสามารถเล่นน้ำ พายเรือคายัคเล่นได้ตลอดแนว ทั้งยังสามารถดำน้ำชมความสวยงามของปะการังน้ำตื้นได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีถ้ำบัวโบกที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยาโดยเฉพาะหินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงามดูคล้ายดอกบัวบาน ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดว่าเป็นไฉไลท์เด็ดของที่นี่ คือการขึ้นไปชมวิวยัง ‘จุดชมวิวผาจันทร์จรัส’
แต่เส้นทางไปสู่ทัศนียภาพงดงามราวภาพถ่ายนั้นก็ไม่ง่ายเพราะต้องเดินขึ้นผาประมาณ 500 เมตร ตามด้วยปีนป่ายทางเดินหินปูนขึ้นไปประมาณ 230 เมตร ใครจะขึ้นไปควรเตรียมรองเท้าที่เหมาะสำหรับการปีนป่ายและใช้ความระมัดระวังในการปีน แต่เมื่อไปถึงจุดสูงสุดจะรู้เลยว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเพราะคุณจะได้เห็นทัศนียภาพของหมู่เกาะอ่างทองแบบพาโนรามา ภาพป่าไม้อันเขียวขจีของเกาะเล็กเกาะน้อยบริเวณใกล้เคียง น้ำทะลสีฟ้าใสตัดกับท้องฟ้าสีครามยาวสุดลูกหูลูกตาจัดว่าเป็นความสวยงามที่ครั้งหนึ่งควรไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
4. เกาะกระดาน จังหวัดตรัง
เกาะที่สวยที่สุดในท้องทะเลตรังมีเนื้อที่ประมาณ 600 ไร่อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ในทุกปีช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ เกาะกระดานจะเป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรซึ่งจัดขึ้นทุกปีและโด่งดังไปทั่วโลก
จุดเด่นของที่นี่คือชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดเหมือนแป้ง แต่มีโขดหินสีน้ำตาลเกลื่อนกลาดเต็มหาดและมีน้ำใสจนเห็นแนวปะการังน้ำตื้นที่ทอดตัวเป็นแนวยาวกว่า 2 กิโลเมตร ใสจนหลายคนยกให้เทียบเท่ามัลดีฟส์กันเลย
ส่วนบริเวณหน้าหาดนอกจากจะสามารถดำนำชมปะการังได้แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามมากๆ ทั้งยังสามารถมองเห็นเกาะมุก เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะม้า เรียงไปจนถึงเกาะไหงจากเส้นทางเดินชมธรรมชาติบนเกาะได้อีกด้วย
หากคุณต้องการหาเกาะสวยๆ หาดขาวๆ น้ำใส มีกิจกรรมพายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง แต่ยังคงความสงบไว้ได้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเลย
5. เกาะไหง จังหวัดกระบี่
เกาะเพื่อนบ้านเรือนเคียงกับเกาะกระดานจึงมีหาดทรายสีขาวดุจแป้งยาวตลอดแนวฝั่ง ทั้งยังมีน้ำใสจนเห็นปะการังและฝูงปลาหลากหลายสายพันธุ์ไม่ต่างจากเกาะกระดานเลย แต่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดตรังอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดเพราะจริงๆ แล้วเกาะไหงอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เพียงแต่เดินทางจากท่าเรือปากเมงในจังหวัดตรังสะดวกกว่า
และนอกจากแนวปะการังทางปลายเกาะ ทางตะวันออกเฉียงใต้เกาะก็มีอ่าวเล็กๆ ที่เป็นแหล่งดำน้ำตื้นชั้นเยี่ยมอยู่ด้วย ส่วนใครอยากทำกิจกรรมอื่นก็สามารถพายเรือคายัคชมวิวหมู่เกาะใกล้เคียง ว่ายน้ำเล่นริมหาด หรือเดินป่าศึกษาธรรมชาติชมนกเงือกบริเวณด้านหลังเกาะแทนก็ได้
และถึงแม้จะอยู่ใกล้เกาะลันตาแต่ก็ยังคงความดิบของธรรมชาติเอาไว้ อาจจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากเท่ากับฝั่งเกาะลันตาเพราะเป็นเกาะเล็กๆ แต่รับประกันความเงียบสงบ ไม่มีใครมารบกวน เกาะไหงจึงน่าจะเหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติต้องการเสพบรรยากาศความสวยงามของท้องทะเลอันดามันอย่างแท้จริง
6. เกาะจานและเกาะท้ายทรีย์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สองเกาะนี้อยู่ติดกันจัดว่าเป็นเกาะลึกลับบนอ่าวไทยที่ไม่ค่อยมีใครได้ไปสัมผัสเพราะเพิ่งเปิดเกาะได้ไม่นานแต่ความสวยงามไม่เป็นรองใครอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดนวกร อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เกาะจานลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็กมีหุบเขาห้อมล้อมเต็มไปด้วยป่าไม้พืชพรรณอุดมสมบูรณ์และมีหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวออกไปไกลเกือบ 100 เมตร ส่วนบริเวณท้ายเกาะเรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบดำน้ำเลยก็ว่าได้มีเพราะภายใต้ทะเลสีฟ้าครามมีแนวปะการังกระจายอยู่รอบๆ ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังเห็ด ปะการังสมอง ทุ่งดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ รวมถึงฝูงปลาชนิดต่างๆ มากมาย
ถัดจากเกาะจานประมาณ 300 เมตร เป็นที่ตั้งของเกาะท้ายทรีย์ มีเนื้อที่ราวๆ 20 ไร่ ซึ่งธรรมชาติบนฝั่งและทรัพยากรใต้ท้องทะเลมีความสวยงามไม่แพ้กัน นอกจากนี้ทั้งสองเกาะยังมีถ้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่นซึ่งเป็นที่ทำสัมปทานรังนก ไม่อนุญาตให้เข้าไปเที่ยว
แต่เตือนไว้ก่อนว่าต้องจองคิวกับทางอุทยานฯ ล่วงหน้านานหน่อยเพราะที่นี่มีช่วงเวลาเปิด-ปิดเกาะ ไม่สามารถเข้าท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แค่เห็นปะการังผ่านรูปแล้วจองคิวนานขนาดไหนก็ยอม
7. เกาะร้านเป็ดและเกาะร้านไก่ จังหวัดชุมพร
เกาะร้านเป็ดและเกาะร้านไก่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน10 จุดดำน้ำที่สวยที่สุดในทะเลฝั่งอ่าวไทยแต่น้อยคนนักจะรู้จัก สองเกาะนี้เป็นเกาะหินปูนขนาดเล็กที่อยู่ไม่ห่างกันมาก ไม่มีคนอาศัยอยู่มีเพียงนกนางแอ่นและนกนางนวลอาศัยอยู่เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ระบบนิเวศน์ใต้น้ำจึงสมบูรณ์มาก อุดมไปด้วยปะการังและดอกไม้ทะเลหลากหลายสี มีแนวดอกไม้ทะเลอยู่แน่นเป็นแพเปรียบเสมือนทุ่งดอกไม้ทะเลขนาดใหญ่
อีกทั้งยังมีปลาหลากชนิดทั้งฝูงเล็กฝูงใหญ่เช่น ปลากล้วยแถบเหลือง ปลาข้างเหลือง ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาการ์ตูน และบางครั้งยังพบฉลามวาฬกับกระเบนราหูออกมาว่ายน้ำอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวชมด้วย
ส่วนใครเป็นสายดำน้ำลึกถ้าดำลงไปจะพบกับกำแพงหินใต้ทะเล กัลปังหารูปพัดเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีถ้ำรูปหัวใจ หรือ The heart of the sea เป็นไฮไลท์หลักของที่นี่อีกด้วย
