24 ทีม ขึ้นชั้นแค่ 3 ความโหดของศึกแชมป์เปียนชิพเมืองผู้ดี - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
24 ทีม ขึ้นชั้นแค่ 3 ความโหดของศึกแชมป์เปียนชิพเมืองผู้ดี

ใครที่ติดตามฟุตบอลลีกยุโรป มักจะมีคำที่ใช้บ่อยๆ สำหรับทีมที่ตกชั้นจากลีกสูงสุดว่า “ตกปีเดียวก็กลับมา” เพราะส่วนใหญ่ในสมัยก่อน มาตรฐานของลีกสูงสุด กับลีกรอง นั้นมีความแตกต่างกันพอสมควร ทีมที่พลาดพลั้งตกชั้นไป หากไม่ทีมแตกไปซะก่อน โอกาสที่จะฝ่าฟันกลับมา ย่อมเป็นไปได้ไม่น้อย

“สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ที่องค์ประกอบพร้อม แต่ก็ต้องลุ้นหนักกว่าจะกลับขึ้นชั้นมา

แต่กับยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในลีกเมืองผู้ดี ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั่วโลก ไอ้การตกไปปีเดียว แล้วกลับมาได้ มันไม่ได้ง่ายดายเหมือนแต่ก่อน เพราะการแข่งขันในลีกลำดับ 2 หรือเรียกเป็นทางการว่าศึก “แชมป์เปียนชิพ” นั้น โหดหินกว่าที่ใครหลายคนคิด

ทำไมอยู่พรีเมียร์ลีกถึงสำคัญ?

นอกเหนือจากเรื่องของชื่อเสียง หรือเกียรติยศ ที่การได้อยู่ในลีกที่เข้มข้นที่สุดลีกนึงในโลกแล้ว เรื่องสำคัญที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของ “เม็ดเงิน” ซึ่งต้องยอมรับเลยว่ายังมีความแตกต่างระหว่าง พรีเมียร์ลีก และ แชมป์เปียนชิพ อยู่มาก

ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก ที่มีมูลค่ามหาศาล

หลายสื่อในอังกฤษ พยายามคำนวณรายรับที่จะตกมาถึงมือของทีมในพรีเมียร์ลีก ในแง่มุมต่างๆ ทั้งเรื่องของเงินค่าตั๋ว, ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รวมถึงค่าสปอนเซอร์ต่างๆ นานา ว่ากันว่า หากคุณขึ้นไปอยู่ในพรีเมียร์ลีก คุณจะได้เงินเข้าทีมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ นอกจากนั้น มันยังจะมากขึ้นๆ หากคุณสามารถคงสถานะอยู่ในลีกสูงสุดได้นานต่อไปเรื่อยๆ

สังเกตง่ายๆ ก็ทีมที่เริ่มยึดหัวหาดในพรีเมียร์ลีก ได้มั่นคงมากขึ้น อย่าง “เบิร์นลี่ย์” ซึ่งแม้จะมีบางซีซั่นที่พวกเขาจะต้องหนีตกชั้นบ้าง แต่ก็อยู่รอดมาได้โดยตลอด การเงินของพวกเขาก็ดีขึ้น แฟนบอลก็สนับสนุนมากขึ้น ทิศทางที่ดี ก็ทำให้ทีมเสริมนักเตะในราคาที่สูงได้มากขึ้นตามไปด้วย

“เอ็ดดี้ ฮาว” กุนซือหนุ่ม ผู้พาบอร์นมัธ ขึ้นมาจากลีก 2 และคงสถานะขาประจำพรีเมียร์ลีก

หรือกับ “บอร์นมัธ” ซึ่งอยู่ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว หลังจากขึ้นชั้นสู่ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในปี 2015/16 โดยไม่เคยตกกลับไปอีกเลย และถ้ามองย้อนไปซักหน่อย ในปี 2009/10 พวกเขายังอยู่ในลีก 2 หรือลีกระดับ 4 และเกือบจะต้องล้มละลายอยู่เลย แต่ตอนนี้ พวกเขาเสริมนักเตะระดับ 20 ล้านปอนด์ ในทุกซีซั่นได้สบาย

ทำไมแชมป์เปียนชิพโหดหินขึ้น?

เรื่องเงินที่เป็นเป้าหมาย และเกียรติยศที่กล่าวไป ย่อมสำคัญแน่ล่ะ แต่สิ่งที่ทำให้การดวลกันของ 24 ทีมจากแชมป์เปียนชิพ นั้นเข้มข้นขึ้นมาก มันมีสาเหตุอื่นมากกว่านั้น

อย่างแรกเลย คือการหันมาให้ความสนใจในการลงทุนกับทีมฟุตบอลในอังกฤษมากขึ้น ของนักธุรกิจ ทั้งใน และต่างประเทศ การเทคโอเวอร์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีบทเรียนที่ดูดีขึ้นกว่าสมัยแรกๆ ที่หลายทีมเกือบจะเป๋ เพราะการยอมให้คนนอกเข้ามาเทคโอเวอร์ แล้วสุดท้ายผลลัพธ์ไม่ได้สวยหรู อย่างคำโฆษณา

นอกจากลืมตาอ้าปากได้ วิลล่ายังมีเงินเสริมทัพระดับเกิน 120 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์นี้

ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ทีมเก่าแก่ และคงสถานะในลีกสูงสุดมานาน ต้องตกม้าตายเมื่อเจ้าของเปลี่ยนมือเป็นของเศรษฐีอเมริกัน อย่าง “แรนดี้ เลอร์เนอร์” จนปัจจุบัน ทีมถูกเทคโอเวอร์ไปแล้ว 2 ต่อ และมีสถานะที่มั่นคงขึ้น นอกจากลืมตาอ้าปากขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ยังทุ่มทุนกว่า 120 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอีกต่างหาก

หรือในทางกลับกัน ก็ลองมองไปที่ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ก็ได้ พวกเขาล้มเหลวสิ้นเชิงในการส่งต่อเทคโอเวอร์โดยเศรษฐีต่างชาติอย่าง “เอลลิส ชอร์ต” การบริหารงานที่ย่ำแย่ และงบประมาณเสริมทัพขัดสน ทำให้ทีมต้องตกชั้นแบบ 2 ต่อใน 2 ปีติดต่อกัน ปัจจุบันต้องดิ้นรนอยู่ในลีก 1 หรือลีกระดับ 3 อยู่เลย

ความล้มเหลวในการบริหารจัดการของซันเดอร์แลนด์ ทำให้ทุกตกฮวบอย่างรวดเร็ว

ประสบการณ์ที่เลวร้ายในการปล่อยให้คนมาเทคโอเวอร์ สร้างบทเรียนมากมาย ทั้งเรื่องของแฟนบอลเอง, กลุ่มหุ้นที่มีสิทธิ์มีเสียง รวมถึงกฎหมายการเงินต่างๆ ทำให้เรื่องเลวร้าย เกิดขึ้นน้อยลง แม้จะยังมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรอย่างโจ๋งครึ่ม เหมือนสมัยก่อนได้

การลงทุนอย่างจริงจัง และมองฟุตบอลอย่างมีวิสัยทัศน์มากขึ้น ทำให้เราเห็นการดึงเอาผู้จัดการทีม และนักเตะ ที่น่าสนใจ เข้ามาเสริมทีมในแชมป์เปียนชิพมากมาย อย่างตัวกุนซือเอง มันก็เซอร์ไพรส์เหมือนกัน ที่เราได้เห็นชื่อของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า, ฟิลิป โคคู, ซาบรี ลามูชี่, ซลาเวน บิลิช มาคุมทีมดวลกันในลีกระดับรอง

“สลาเวน บิลิช” กุนซือขาร็อค กลับมาอังกฤษอีกครั้ง หลังรับงานคุม WBA

อย่างที่ 2 ที่ทำให้การแข่งขันมันเข้มข้นขึ้นอย่างมาก นั่นคือเรื่องของ “ระบบการแข่งขัน” เพราะทีมในแชมป์เปียนชิพ มีมากถึง 24 ทีม แต่ละทีมต้องเตะอย่างน้อย 36 นัด (ถ้าได้เพลย์ออฟ ก็ต้องเตะต่ออีก) สถานการณ์พลิกผัน จึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

นอริช ซิตี้ พลิกสถานการณ์ที่เริ่มต้นไม่ดี กลับกลายมาเป็นแชมป์ในซีซั่น 2018/19

ตัวอย่างที่เห็นชัด ไม่ต้องย้อนไปไกล “เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ ของ “ดาร์เนี่ยล ฟาร์เค่” เมื่อซีซั่นที่แล้วนั่นแหละ เพราะจนถึงนัดที่ 9 ของฤดูกาล นอริชยังอยู่แค่อันดับ 11 อยู่เลย กว่าจะขึ้นนำครั้งแรก ก็ต้องรอถึงนัดที่ 17 และหลังจากนั้น พวกเขาก็รักษาฟอร์มยอดเยี่ยมไว้ต่อเนื่อง จนเข้าป้ายแชมป์ ได้สำเร็จ

การที่ทีมแต่ละทีม ยกระดับกันขึ้นมา ทำให้การแข่งขันที่ยาวนาน สูสีขึ้น จึงไม่แปลก ที่ศึกแชมป์เปียนชิพ จะคาดเดาได้ยาก ว่าใครจะติดอันดับ 1-6 ได้ลุ้นเลื่อนชั้นกันบ้าง เพราะหากนับซีซั่นที่แล้ว ชื่อของนอริช และเชฟฯ ยู แทบไม่มีใครมองเป็นเต็ง 6 อันดับแรกแน่ๆ เมื่อตอนเปิดซีซั่น

การแข่งขันที่ยากจะคาดเดา

นอกเหนิอจากเรื่องของนอริช และซันเดอร์แลนด์ ที่ยกตัวอย่างไปด้านบน ศึกแชมป์เปียนชิพ ยังมีผลลัพธ์ที่ยากจะคาดเดา เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ

“นีล วอร์น็อค” กุนซือจอมเก๋า คุมทีมคาร์ดิฟฟ์ต่อ แม้จะพาทีมตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก

อย่างในซีซั่นปัจจุบันนี้ ซึ่งพึ่งเตะกันไปทีมละ 3 นัด 2 ทีมที่ตกชั้นลงมาอย่างฮัดเดอร์ฟิลด์ และคาร์ดิฟฟ์ ใครจะเชื่อว่าพวกเขาอยู่กันในโซนล่าง โดยเฉพาะฮัดเดอร์ฟิลด์ที่ไปไกลถึงรองบ๊วย

คาร์ดิฟฟ์ ยังคงนักเตะชุดเดิมไว้ได้หลายคน กุนซือยังคงเป็นคนเดิม “นีล วอร์น็อค” ที่มากประสบการณ์ แต่เตะไป 3 นัด พวกเขาชนะ 1 แพ้ 2 ยังต้องหาจุดเปลี่ยนต่อไป

“แยน ซีเวิร์ต” กุนซือหนุ่มเยอรมัน ที่ถูกฮัดเดอร์ฟิลด์ ปลดไปเรียบร้อย หลังผ่านแค่ 3 นัด

ของฮัดเดอร์ฟิลด์ หนักกว่ามาก พวกเขามีนักเตะที่ค่อนข้างโอเค กุนซือหนุ่มอย่าง “แยน ซีเวิร์ต” อดีตกุนซือดอร์ทมุนด์ชุดเล็ก อีกราย ที่เข้ามารับงานท้าทายอังกฤษ (ก่อนนี้ เดวิด ว้ากเนอร์ กับ ดาร์เนียล ฟาร์เค่ ประสบความสำเร็จ) ก็ถูกคาดหวังว่า จะนำความสำเร็จ มาสู่ทีม ในการสานงานต่อจากท้ายซีซั่นที่แล้ว

แต่พอเอาเข้าจริง กลับกลายเป็นพวกเขาทำได้แค่แต้มเดียว จาก 3 นัดในลีก เแถมยังตกรอบบอลถ้วย ด้วยการแพ้ทีมรองบ่อน บอร์ดฮัดเดอร์ฟิลด์ จึงไม่ลังเล สั่งเด้งฟ้าผ่าซีเวิร์ตทันที โดยตลอด 7 เดือนที่เขาทำทีม เขาทำทีมชนะแค่นัดเดียวจาก 19 นัด มีอัตราชนะแค่ 5.3% เลวร้ายสุดๆ

“ลี โบว์เยอร์” กุนซือของชาร์ลตัน ที่ทำทีมขึ้นรองจ่าฝูง แม้จะเป็นน้องใหม่

หรืออย่าง “ดาบอัศวิน” ชาร์ลตัน ของ “ลี โบว์เยอร์” ซึ่งพึ่งเลื่อนชั้นกลับมาจากลีก 1 ด้วยโควต้าเพลย์ออฟ พวกเขาไม่ได้ถูกคาดหวังสูงในซีซั่นนี้ แต่กลับทำผลงานชนะ 2 เสมอ 1 ขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงแบบเซอร์ไพรส์

กุนซือคนไหนน่าสนใจบ้าง?

กุนซือจอมเก๋า “มาร์เซโล่ บิเอลซ่า” ยังคงกุมบังเหียน ลุ้นพาลีดส์ เลื่อนชั้น

จอมเก๋าบ้าคลั่ง อย่าง “มาร์เซโล่ บิเอลซ่า” ยังคงลุยต่อกับลีดส์ หลังซีซั่นที่แล้วพลาดท่าไปในเพลย์ออฟ WBA ที่ปีที่แล้วมาตกม้าตายในเพลย์ออฟเช่นกัน ไปดึง​ “สลาเวน บิลิช” อดีตกุนซือเวสต์แฮม และทีมชาติโครเอเชีย กลับมารับงานในอังกฤษอีกครั้ง

“ฟิลิป โคคู” กุนซือดาร์บี้ กับการเซ็น “เวย์น รูนี่ย์” ล่วงหน้า เพื่อเข้ามาเป็นนักเตะ-โค้ช

“แกะเขาเหล็ก” ดาร์บี้ ที่ต้องเสียง “แฟรงค์ แลมพาร์ด” ให้เชลซีไป สร้างความฮือฮา ด้วยการไปดึง “ฟิลิป โคคู” มารับงาน ส่วน “ซาบรี ลามูชี่” อดีตนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส มารับงานหนักกับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์

มาดกุนซือของ “โจนาธาน วู้ดเกต” กับผู้ช่วย “ร็อบบี้ คีน” ในการทำทีมโบโร่

พูดถึงกุนซือคนหนุ่ม ก็มี “สก็อตต์ ปาร์คเกอร์” คุมทีมฟูแล่ม เต็มตัวต่อ หลังคุมในช่วงปลายซีซั่นที่แล้ว ที่ทีมตกจากพรีเมียร์ลีก “โจนาธาน วู้ดเกต” รับงานคุมทีมครั้งแรก กับทีมเก่าที่ปั้นเขามาอย่างมิดเดิลสโบรซ์ และ “ลี โบว์เยอร์” ที่กำลังไปได้สวยกับชาร์ลตัน

ท้ายที่สุด รายชื่อที่ไล่เรียงมา จะเหลือใครบ้างที่ได้คุมทีมไปจนจบฤดูกาล อันนี้ไม่กล้าฟันธงจริงๆ เพราะมันยากไม่แพ้การคาดเดา ว่าทีมไหนจะกลายเป็น 3 ทีมสุดท้าย ที่สมหวัง เลื่อนชั้นไปซิวเงินก้อนโตในพรีเมียร์ลีก

Picture : FOX Sports Asia, Twitter, YouTube, The Telegraph, Deadspin, iNews, Premier League, 7500 To Holte, Chronicle Live, Daily Mail, Sky Sports, Football Fancast, The Sun, The Irish Sun, Charlton Atheletic

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save