ถ้าอยากได้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา บางครั้งคุณต้องแยกตัวออกจากเขตความสะดวกสบายของคุณ แล้วออกไปเต้นรำไปตามขอบของความมีสติ บางครั้งความเจ็บปวดจะนำคุณไปสู่ความคิดที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สถานที่ที่ซึ่งความกังวลในชีวิตประจำวันจะลดระดับลง หนึ่งในวิธีเหล่านั้นคือกิจกรรมที่รุนแรง เช่น ultramarathons ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัดที่ทำให้ชีวิตคุณมีมุมมองใหม่ๆเกิดขึ้น แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงอย่างแสนสาหัส…

การวิ่งมาราธอนเต็มรูปแบบมาตรฐานคือ 26.2 ไมล์ จากการทำงานหนักและความทุ่มเทอย่างสุดชีวิต แต่รายการเหล่านี้กำลังก้าวไปพร้อมกับการแข่งขันที่เหนือกว่าบรรทัดฐาน มุ่งหน้าเข้าสู่ดินแดนแห่งความทุกข์ทรมาน และการค้นพบตัวเอง โดยเราได้รวบรวมรายชื่อการแข่งขันที่ยาก และท้าทายที่สุดในโลกมาไว้ให้คุณที่นี่

ความบ้าบิ่นที่ดุร้าย ที่จะทำให้คุณได้พบกับเวทีแห่งชีวิต มันมีไว้สำหรับนักกีฬาที่บ้าคลั่ง ที่พร้อมที่จะเผชิญกับภูมิประเทศที่เลวร้าย ระยะทางที่ไม่สามารถทนได้ และอุณหภูมิของนักฆ่า ที่เรียกว่าถ้าจะผ่านได้คุณจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดชนิดพิเศษ เพื่อพิจารณาการแข่งขันในรายการที่เราจะพูดถึงนี้ เราไม่ต้องการให้ใครทรมานแบบนี้ แต่เราชื่นชมผู้ที่มีความกล้าในการสมัคร….

ตรวจสอบระดับความฟิตของคุณ

หากคุณบ้าพอที่จะลงทะเบียนหนึ่งในมาราธอนที่รุนแรงเหล่านี้ เราขอแนะนำให้คุณพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคุณเสียก่อน เพราะสนามการแข่งขันเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่าคุณเต็มใจ และสามารถทนต่อการทรมาน แม้คุณได้รับไฟเขียวจากแพทย์ของคุณ ก็ต้องให้แน่ใจว่าคุณถูกฝึกฝนอย่างปลอดภัย และชำนาญในการเอาตัวรอด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับตัวคุณเอง

ที่เลวร้ายที่สุด เรายังแนะนำผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลที่คุณจำเป็นต้องมี ผู้ที่จะช่วยคุณเตรียมรับมือสำหรับเหตุการณ์ที่พร้อมจะบดขยี้ความอดทนของคุณ นอกจากนี้คุณจะต้องอยู่ให้ห่างจากคำว่า “ยอมแพ้” สำหรับวิญญาณผู้กล้าหาญทุกคนที่พยายามเป็นหนึ่งในผู้โชคดีของรายการดหล่านี้ เราขอให้คุณเตรียมตัว และเตรียมใจให้พร้อม…เพราะนี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นอีกต่อไป

1. The Barkley Marathons (บาร์คลีย์มาราธอน)

ในเวลาประมาณ 30 ปีของ The Barkley Marathons มีเพียง 15 คนเท่านั้น ที่ผ่านการทดสอบความสามารถทางกีฬา และความกล้าหาญทางจิตอย่างไม่น่าเชื่อ อุลตร้ามาราธอนที่เกือบจะเหมือนลัทธินี้ มีพื้นฐานมาจากการหลบหนีจากเรือนจำ ประวัติศาสตร์ของ เจมส์ เอิร์ลเรย์ ในปี 1977 นักฆ่าของมาร์ตินลูเทอร์คิงจูเนียร์ มันเป็นการแข่งขันลับที่จัดขึ้นในเมืองเล็กๆ ในรัฐเทนเนสซี

รายการนี้เปิดรับนักวิ่งเพียง 35 คนในแต่ละปี และขั้นตอนการสมัครเป็นความลับที่มีการป้องกันอย่างใกล้ชิด การแข่งขันลึกลับนี้จะต้องเสร็จสิ้นภายใน 60 ชั่วโมง และมีระยะทาง 100 ไมล์ ซึ่งบางแหล่งข่าวมีการกล่าวว่า ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ จะต้องขึ้น-ลง กับความสูงประมาณ 120,000 ฟุต

ซึ่งเท่ากับการปีนขึ้นและลง บนเทือกเขา Everest ถึงสองครั้งในเวลาเพียง 60 ชั่วโมง นี่เป็นการแข่งขันที่เรียกว่าเป็น “การเสียสละของมนุษย์” โดยแท้ แน่นอนว่ามันถูกจัดอันดับว่าเป็นการแข่งขันที่แปลกประหลาด และโหดร้ายที่สุดรายการหนึ่ง

2. Andes Race Chaski Challenge

การเปิดรับจำกัด เพียง 100 นักวิ่ง 100K นี้ เป็นอัลตร้ามาราธอนครั้งแรกที่จัดขึ้นในซัสโกประเทศเปรู มันเกิดขึ้นใน Sacred Valley of Incas และจ่ายส่วยให้นักวิ่งทางไกลของอินคาที่ต้องส่งข้อความ และคำสั่งไปยังเมือง และหมู่บ้านอื่นๆ การแข่งขันแอนดีส

The Chaski Challenge ถูกสร้างขึ้นเพื่อนักวิ่งบนภูเขา ดังนั้นคุณไม่ควรลองวิ่งในแนวดิ่ง หากหัวเข่าของคุณมีปัญหา นั่นคือหายนะที่เกิดขึ้น และใช่คุณจะถูกล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง ลึกลับ แต่อาจจะมีหนึ่งความงามที่แท้จริงของอุลตร้ามาราธอนนี้ นั่นก็คือ “เส้นชัย”

3. The Munga Trail

หันหน้าไปทางภูมิประเทศที่ทรยศ และโหดร้ายของแอฟริกาใต้ กับอัลตร้ามาราธอนระยะทาง 250 ไมล์นี้ ครอบคลุมเส้นทางที่ท้าทาย ผ่านป่าไม้พื้นเมือง และสวนป่า คุณจะวิ่งจาก Belfast ไปยัง Blyde River Canyon ซึ่งเป็นหุบเขาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ผลักดันข้อจำกัดของคุณด้วยหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ยากที่สุดในโลก พึ่งพาทักษะการนำทาง GPS และความอดทน

หากคุณเสร็จสิ้นการแข่งขันที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ คุณจะกลับบ้านพร้อมฮาร์ดแวร์บางอย่าง เพื่อเตือนคุณว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้าหากการขี่จักรยานเป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบมากกว่า ก็มีการแข่งขันจักรยานที่คล้ายกันที่เรียกว่า Munga MTB ถ้าคุณรู้สึกอยากออกจากโซฟา แล้วทำอะไรที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ยิ่งถ้าคุณได้อันดับที่หนึ่งคุณจะได้รับเงินรางวัลประมาณ 3,500 เหรียญ เลยทีเดียว

4. Ultra-Trail du Mont-Blanc

เดินทางรอบ Mont Blanc ผ่านฝรั่งเศส อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ ใน Ultra-Trail du Mont-Blanc (UTMB) และพิชิตทิวทัศน์ที่สวยงามในระยะทาง 100 ไมล์ ในขณะที่หลัง และข้อต่อของคุณจะถูกการเผาผลาญจนถึงเส้นชัยที่งดงาม คุณจะมีความสุขในการปีนป่ายบนภูมิประเทศราวๆ 30,000 ฟุต

ก่อนที่จะกัดเหรียญแห่งชัยชนะสำหรับภาพสุดท้าย UTMB เป็นรายการที่ดึงดูดนักวิ่ง 2,500 คนทุกปี และหลายคนเป็นมืออาชีพระดับนานาชาติ ดังนั้นคุณอาจต้องการลองแข่งขันในระยะ 50 ไมล์ เพื่ออุ่นเครื่องสำหรับรายการที่ยากที่สุดในโลกหากคุณเอาชนะมาราธอนมาตรฐานได้ นี่ก็เป็นบันไดขั้นต่อไปของคุณ

5. Hurt100

เพื่อที่จะได้ชื่อว่าอัลตร้ามาราธอน Hurt100 มันต้องส่งความเจ็บปวดให้กับร่างกายของเหล่าผู้กล้า การแข่งขันนี้เกิดขึ้นในฮาวาย รายการแข่งขันนี้เป็นเส้นทางระยะ 100 ไมล์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเส้นทางเดินเดี่ยวผ่านป่าฝนกึ่งเขตร้อน บนเส้นทางที่คุณจะต้องเปียก และข้ามลำธาร

นอกจากอุปสรรคทางน้ำเป็นครั้งคราว คุณจะต้องจัดการกับเหล่าทากดูดเลือด อากาศชื้น และเวลา 36 ชั่วโมง ที่จะต้องเอาชนะ ถ้านี่เป็นการแข่งระยะทาง 100 ไมล์แรกของคุณ แต่อย่างน้อยคุณจะถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจี และจะสามารถใช้ชีวิตบนเกาะได้หลังจากที่คุณได้รับเหรียญแห่งชัยชนะ..

6. Hardrock100

เกิดขึ้นในเขตซานฮวนของโคโลราโดตอนใต้ Hardrock100 อยู่ห่างจากความเจ็บปวด และชัยชนะในระยะทาง 100.5 ไมล์ คุณจะต้องเผชิญกับการปีนเขา 33,050 ฟุต ด้วยความสูงเฉลี่ย 11,000 ฟุต คุณจะข้ามเมืองผีของ Sherman ก่อนถึงยอดสูงสุดของ Handies Peak ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในสนามที่ 14,048 ฟุต เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันด้วยอุลตร้ามาราธอนคุณจะได้รับการพร้อมท์ให้จูบ “ฮาร์ดร็อค”

เพื่ออุทิศให้กับความทรงจำของนักขุดที่มาตั้งรกราก ซึ่งสร้างเส้นทางการทำเหมือง การแข่งขันส่วนใหญ่เกิดขึ้น Hardrock100 เป็นหัวใจของ Rocky Mountain Slam ซึ่งเป็นรางวัลที่คุณจะได้รับหากคุณจบการแข่งขันนี้ และอีกสี่คนในเทือกเขาร็อคกี้ รายการนี้เปิดรับผู้สมัคร 145 คนเท่านั้นสำหรับแต่ละรอบ

7. Western States Endurance Run

Western Run Endurance Run เป็นรายการแข่งขันระยะทาง 100 ไมล์ ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มันเริ่มต้นใน Squaw Valley, California ใกล้กับที่ตั้งของโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1960 ในการจบการแข่งขัน คุณจะต้องรอดจากการขึ้นที่สูงถึง 18,000 ฟุต และ 23,000 ฟุต ก่อนที่จะถึงเส้นชัยที่ Placer High School ใน Auburn ด้วยอุณหภูมิที่ทะลุ 100 องศา และหุบเขาลึก 30 ไมล์

ในบางกรณีคุณจะต้องวิ่งผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยหิมะ และจากนั้นจะต้องรับมือกับแสงอาทิตย์ที่ลุกโชติช่วงที่ท้าทายร่างกายของคุณในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณเริ่มต้นการแข่งขัน คุณจะมีเวลา 30 ชั่วโมงในการพิชิตชัยชนะที่ดุเดือดราวกับสัตว์ร้ายฝั่งตะวันตก

8. Spartathlon

Spartathlon ถูกสร้างขึ้นโดย John Foden ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของอังกฤษ ซึ่งเป็นนักเรียนของประวัติศาสตร์กรีกโบราณ ในขณะที่ Foden เป็นคำบรรยายของ Herodotus เกี่ยวกับ Pheidippides นักวิ่งระยะไกลโบราณ เขาสงสัยว่าคนทันสมัยสามารถคลุมพื้นดินจากเอเธนส์ไปจนถึง Sparta ดังนั้นจึงนำไปสู่ ​​Spartathlon ในปี 1984

การแข่งขันที่ต้องอาศัยความอดทนนั้น กับระยะยาว 155 ไมล์ (ด้วยระยะทาง 1,200 เมตรขึ้นไป) วิหารพาร์เธนอน ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน จะทดสอบก้าวย่างของคุณบนถนนลาดยาง เส้นทาง และทางเท้าด้วยเวลาเพียง 36 ชั่วโมงเพื่อจบหลักสูตรก่อนที่คุณจะถูกกำจัด จากความเหนื่อยล้าของร่างกายของคุณ

9. Iditarod Trail 1000 Invitational

Iditarod Trail Invitational 1000 (ITI) เป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ยาวนาน และยากที่สุดในโลกที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ตั้งอยู่ที่ Knik รัฐอะแลสกา การวิ่งมาราธอนแบบทดสอบนี้ จะทำให้คุณต้องเผชิญกับอุณหภูมิตั้งแต่ -50 ° F ถึง 35 ° F รวมถึง ฝน ลมแรง ลมพายุ พายุหิมะ โคลนหิมะและอื่นๆ การแข่งขันมีไว้สำหรับนักกีฬาที่มีประสบการณ์ และกล้าหาญเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถลงทะเบียนได้เลย

เพื่อที่จะแข่งขันคุณต้องทำให้ ITI 350 สำเร็จเสียก่อน และแสดงให้เห็นถึงทักษะการเอาชีวิตรอดในฤดูหนาว และการพึ่งพาตนเองในป่าอะแลสกา ผู้สมัครที่ผ่านการรับรองมากที่สุดเท่านั้น ที่จะได้รับการยอมรับสำหรับความท้าทายที่รุนแรงนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องพกอุปกรณ์เอาชีวิตรอดของตัวเองทั้งหมด เพื่อให้ผ่านดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ และเข้าสู่เส้นชัยอย่างภาคภูมิ

10. The Jungle Marathon

ตามที่ผู้สร้าง The Jungle Marathon เหตุการณ์นี้เป็นการผจญภัยที่น่ากลัวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในป่าอเมซอนที่น่าเกรงขามในบราซิล ระยะทาง 125 ไมล์นี้ ทำให้คุณต้องอดทนต่อความชื้น และสิ่งมีชีวิต 99% ที่ซุ่มซ่อนอยู่ทุกทิศทุกทาง รวมถึงอนาคอนดา และปิรันย่าที่ดุร้าย คุณจะต้องวิ่งผ่านป่าทึบ การข้ามแม่น้ำ เดินผ่านถ้ำที่มืด และเดินป่าผ่านหนองน้ำ

เมื่อคุณลงทะเบียนคุณจะได้รับการฝึกฝนโดยอาจารย์ผู้สอนกองกำลังพิเศษ เป็นเวลาหกวัน ก่อนที่จะถูกส่งกระโจนลงไปในป่าที่น่าสะพรึงกลัว เพื่อดูแลตัวเองด้วยเข็มทิศ แผนที่ และชุดอุปกรณ์บังคับ หากคุณไม่ถึงเส้นชัยภายในหกวัน คุณจะต้องกลับมาอย่างผู้แพ้…หรือคุณอาจไม่มีชัวิตอย่างผู้รอด…ก็เป็นได้…

11. 6633 Arctic Ultra

สำหรับ 6633 Arctic Ultra มีเส้นทางที่แตกต่างกันสามเส้นทาง ได้แก่ เริ่มที่ 120 ไมล์ , เส้นทางที่มีความยาวมากกว่า 120 ไมล์ และโทษประหารชีวิต 380 ไมล์ คุณจะเริ่มต้นที่ Yukon Eagle Plains และสิ้นสุดบนฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกที่ Tuktoyaktuk หากคุณเลือกจัดการเส้นทาง 380 ไมล์ คุณจะสนุกไปกับ Arctic Circle ที่สวยงาม และต้องทนต่อลมแรง และอุณหภูมิต่ำถึง -30 ° F.

ในทศวรรษที่ผ่านมามีผู้เข้าแข่งขันเพียง 37 คนจากรุ่น 350+ ไมล์ จากข้อมูลของ 6633 Arctic Ultra เหตุการณ์ที่ท้าทายความอดทนนี้ คืออากาศที่เยือกเย็นที่สุด และมีลมแรงที่สุดในโลก แม้ว่าคุณเต็มใจที่จะฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง แต่สิ่งนี้จะเป็นการเดินทางที่รุนแรงที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังหลังยุคสันทราย หากคุณสนุกกับการรับมือกับแมลงดูดเลือด อากาศชื้น และความวิกลจริต อัลตร้ามาราธอนนี้ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะ…

12. Enduroman Arch

หากคุณคิดว่าไตรกีฬาธรรมดานั้นยาก ลองดูฝันร้ายของ Enduroman นี่คือไตรกีฬาระยะทาง 290 ไมล์ ซึ่งประกอบด้วยระยะทาง 87 ไมล์จาก Marble Arch ของลอนดอนไปยัง Dover การขี่จักรยาน 181 ไมล์ จาก Calais ไปยัง Arc de Triomphe ในปารีส และการว่ายน้ำ 22 ไมล์ ในช่องแคบอังกฤษ

ความท้าทาย Enduroman Arch 2 Arc เชื่อมโยงสองเมืองที่น่าอัศจรรย์ผ่านไตรกีฬาอันทรหดนี้ โดยมีเวลาจบเฉลี่ย 100 ชั่วโมง นับตั้งแต่สิ้นสุดฤดูกาล 2018 มีนักกีฬาที่มีความสามารถเพียง 34 คนเท่านั้น ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย หากคุณวางแผนที่จะลองไตรกีฬาที่น่ากลัวนี้ คุณต่องติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ Enduroman สำหรับคำถาม หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุปสรรค หรือหลักสูตรอันโหดร้ายนี้อย่างละเอียด

13. Marathon Des Sables

ทิ้งคุณไว้กลางทะเลทรายซาฮาร่า กับการแข่งที่กินเวลา 7 วัน ครอบคลุม 150 ไมล์ ทดสอบความมุ่งมั่นของคุณตลอดเส้นทาง ต่อสู้กับความร้อนแรงของโมร็อกโก และเนินทรายที่ไม่คาดฝัน ในขณะที่กำจัดอุปกรณ์ของคุณ

และต่อสู้กับอาการประสาทหลอนในระหว่างการเดินทาง เพื่อทดสอบพลังในตัวคุณ และคุณมีเวลาพักแค่หนึ่งวัน พักฟื้นในการแข่งขัน 6 วัน ผู้ก่อตั้งคือ Patrick Bauer ที่เดินทาง 217 ไมล์ ผ่านทะเลทรายซาฮาร่ากับสิ่งที่เขามีที่หลังของเขาในปี 1986 และเปลี่ยนเป็น Marathon Des Sables ที่ท้าทายเหล่าผู้กล้า…

14. The Patagonian Expedition Race

แทนที่ถนนมาราธอนทั่วไป ด้วยภูมิประเทศที่ไม่ยอมใครง่ายๆ ที่คุณสามารถนึกถึงได้จากพื้นป่าของอเมซอน ไปจนถึงแนวสันเขาในเวลส์ และคุณมีการแข่งขัน Patagonian Expedition ที่ต้องเดินสำรวจธารน้ำแข็งแม่น้ำ swampland และป่าไม้ แต่คุณสามารถมีผู้ร่วมทีมได้ ทีมละ 4 คน

และทีมของคุณจำเป็นต้องรู้ทักษะการเอาชีวิตรอดที่หลากหลาย เช่นการอ่านแผนที่ และการปฐมพยาบาล เส้นทางการแข่งขัน Patagonian Expedition Race มีการเปลี่ยนแปลงทุกปี แต่โดยเฉลี่ยประมาณ 500 ไมล์ คุณจะมีเวลา 10 วันในการจบหลักสูตรนี้ และคุณจะไม่ทราบเส้นทางจนกว่าจะถึง 24 ชั่วโมงก่อนเวลาการแข่งขันเริ่มต้น

15. Badwater 135

เป็นการแข่งขันเดินเท้าที่ยากที่สุดในโลก คุณจะมีเวลา 48 ชั่วโมงในการเอาชนะการแข่งขันนี้ เริ่มต้นที่ Death Valley และสิ้นสุดที่ Mt. วิทนีย์ อุณหภูมิเฉลี่ยนั้นร้อนแรง 120 องศา และคุณจะต้องปีนขึ้น 8,000 ฟุต ก่อนที่จะถึงเส้นชัย และคว้าหัวเข็มขัด Badwater 135

แต่คุณอาจต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าถ้าคุณระดมทุน 7,500 เหรียญ หรือมากกว่าสำหรับมูลนิธินักกีฬาที่ท้าทาย ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลอย่างเป็นทางการของ Badwater 135 ก่อนที่จะสมัครคุณต้องผ่านรายการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้คือ Badwaterและอีกหนึ่ง ultramarathon การแข่งขันอย่างน้อย 100 ไมล์ ต่อเนื่อง หรือบราซิล 135+

เรียกได้ว่า แต่ละรายการมีความโหดร้าย ดุเดือด ที่เข้าขั้นพรากชีวิตคุณได้ทุกวินาทีเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ร่างกาย จิตใจที่ต้องเตรียมพร้อม แต่คุณต้องมีความเชี่ยวชาญชำนาญแบบขั้นสุด แต่ถ้าคุณสามารถชนะรายการใดรายการหนึ่ง จาก 15 รายการนี้ เราเชื่อว่าคุณจะได้พบกับอีกมิติหนึ่งของชีวิตอย่างแน่นอน แต่ก็อย่างที่บอกว่า…สนามแข่งทรโหดเหล่านี้ ไม่ได้มีพื้นที่สำหรับทุกคน…