10 แข้งสุดเซอร์ไพรส์ที่ได้ลงเล่นนัดชิงฯยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
10 แข้งสุดเซอร์ไพรส์ที่ได้ลงเล่นนัดชิงฯยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรฟุตบอลทั่วยุโรป ซึ่งนักฟุตบอลทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในการแข่งขันรายการนี้ทั้งนั้น แต่จะมีนักเตะสักกี่คนที่ได้สัมผัสบรรยากาศในนัดชิงชนะเลิศของ “ยูซีแอล”

นักเตะหลายคนอาจจะเคยมีส่วนร่วมกับสโมสรลงทำศึกถ้วยใบใหญ่รายการนี้ ตั้งแต่รอบคัดเลือก, รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16, รอบ 8 ทีม, และอาจไปถึงรอบรองฯ แต่ไม่มีโอกาสจะเข้าไปถึงนัดชิงดำ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง นอกจากฝีเท้าแล้วอาจรวมไปถึงดวง และวาสนาด้วย

แต่บรรดาแข้ง 10 รายต่อไปนี้  เชื่อได้ว่าแฟนบอลหลายคงประหลาดใจไม่น้อยที่พวกเขามีโอกาสโชว์ฟอร์มในนัดสำคัญที่สุดนัดหนึ่งของชีวิตนักฟุตบอล และนักเตะบางรายถึงขนาดมีชื่อติดทำเนียบแชมป์ยุโรปกับสโมสรพวกเขาอีกด้วย

1.ฌิมี ตราโอเล่ (ลิเวอร์พูล ปี 2005)

ความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อของ ราฟาเอล เบนิเตซ ในการเป็นกุนซือ ก็คือ การพา ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอซี มิลาน สร้างปาฏิหาริย์คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2005 ด้วยการมี ฌิมี ตราโอเล่ กองหลังชาวมาลี ลงสนามในนัดชิงฯ

ตราโอเล่ ลงสนามให้ ลิเวอร์พูล ไปมากถึง 42 นัด ในทุกรายการแข่งขันซีซั่นดังกล่าว และที่สำคัญเขาได้ลงเป็นตัวจริงรอบชิงฯ กับ มิลาน ในตำแหน่งแบ็คซ้าย พร้อมกับ สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์ และซามี ฮูเปีย  

แม้ว่า ตราโอเล่ จะอยู่ช่วย ลิเวอร์พูล ไม่ครบตลอดทั้งเกมกับ มิลาน แต่เขาก็มีชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะ “หงส์แดง” ชุดแชมป์ยูโรปสมัยที่ 5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

FC Porto’s Gomes Carlos Alberto kisses the UEFA Champions League Trophy

2.คาร์ลอส อัลแบร์โต้ (ปอร์โต้ ปี 2004)

โจเซ่ มูรินโญ่ ประกาศตัวกับโลกลูกหนังในปี 2003/04 หลังพา ปอร์โต้ สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการคว้าแชมป์ได้สำเร็จ และชัยชนะที่น่าจดจำที่สุดของพวกเขา คือ เกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ผ่านด่าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2

ในซีซั่นนั้น เบนนี แม็คคาร์ธี กองหน้าทีมชาติแอฟริกาใต้ เป็นตัวหลักของ ปอร์โต้ มาตลอด แต่ในนัดชิงฯกับ โมนาโก มูรินโญ่ ดร็อปเขาเป็นตัวสำรอง และให้โอกาส อัลแบร์โต้ ซึ่งลงสนามรวมทุกรายการแข่งขัน 34 นัด เป็นตัวจริง

ปีกชาวบราซิล ไม่ทำให้ มูรินโญ่ ผิดหวัง หลังจากที่เขาเป็นคนซัดประตูให้กับ ปอร์โต้ ขึ้นนำ โมนาโก ก่อนจะคว้าชัยด้วยสกอร์ 3-0

3.มาริโอ เลอมิน่า (ยูเวนตุส ปี 2017)

เลอมิน่า ซึ่งปัจจุบันกำลังค้าแข้งกับ เซาแธมป์ตัน นั้น เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขาได้ลงเล่นนัดชิงฯศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วมกับ ยูเวนตุส อดีตต้นสังกัดเก่า ในปี 2017 แต่น่าเสียดายที่ต้องพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ภายใต้การนำของ ซีเนอดีน ซีดาน

กองกลางทีมชาติกาบอง ถือว่า เป็นส่วนหนึ่งของ ยูเวนตุส ในการผ่านด่านสโมสรต่างๆเข้าสู่รอบชิงฯ และเขาถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 78 แต่ก็ไม่สามารถช่วย “เจ้าม้าลาย” รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ได้

4.ฟาบิโอ ดา ซิลวา (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ปี 2011)

ราฟาเอล แบ็คขวาพี่ชายฝาแฝดของ ฟาบิโอ ถือเป็นนักเตะคนสำคัญของ แมนฯยูไนเต็ด ตลอด 7 ปี ที่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากที่เขาลงสนามให้ทัพ “ปีศาจแดง” ไปมากถึง 109 เกม แต่น่าเสียดายที่นัดชิงฯ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2011 กับ บาร์เซโลน่า เขาต้องหมดสิทธิลงเล่น  

อย่างไรก็ตาม ฟาบิโอ ได้รับโอกาสลงเล่นในเกมกับ บาร์ซ่า แทนพี่ชาย และฟูลแบ็คชาวบราซิลต้องรับมือกับแนวรุกระดับพระกาฬของ “เจ้าบุญทุ่ม” ในเวลานั้นอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า และเปโดร ซึ่งสุดท้ายแล้ว “ปีศาจแดง” ก็ต้องพ่ายไป 3-1

5. ไรอัน เบอร์ทรานด์ (เชลซี ปี 2012)

        แม้จะไม่ค่อยได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่ของ เชลซี แต่ เบอร์ทรานด์ ก็เป็นผู้เล่นที่เข้าร่วมทัพ “สิงห์บลูส์” ตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชนอายุเพียง 15 ปี นอกจากนี้ เขายังมีส่วนร่วมในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการคว้าถ้วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2012 อีกด้วย

        เบอร์ทรานด์ ลงสนามในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรกของเขาด้วยการพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงฯ โดยลงเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งผลสุดท้าย เชลซี เอาชนะ “เสือใต้” ด้วยการดวลจุดโทษ

6. โฮเซ่ โซซ่า (แอตเลติโก มาดริด ปี 2014)

ผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการยกย่องตลอดช่วงเวลาแห่งความสำเร็จของ แอตเลติโก มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ โค้ชชาวอาร์เจนติน่า โดยมีนักเตะอย่าง กาบี้, ฆวนฟราน, โกเก้ และดิเอโก้ โกดิน

บรรดาแข้งที่กล่าวมาต่างก็ได้ลงสนามในนัดชิงฯศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2014 กับ เรอัล มาดริด รวมไปถึง โซซ่า ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ท้ายที่สุด “ตราหมี” พ่ายให้กับ “ราชันชุดขาว” 4-1

โซซ่า ถูก แอตฯมาดริด ยืมตัวมาจาก เมตาลิสต์ คาร์คีฟ ในลีกยูเครน เป็นเวลาสั้นๆ 1 ฤดูกาล จากนั้น ปีกชาวอาร์เจนไตน์ ย้ายไปค้าแข้งกับ เอซี มิลาน และ แทร็บซอนสปอร์

7.โรเก้ จูเนียร์ (เอซี มิลาน ปี 2003)

จูเนียร์ ได้ครอบครองเหรียญแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ร่วมกับทีมชาติบราซิล และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอซี มิลาน ในปี 2003 หลังจากนั้นเขาย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นเวลา 1 ฤดูกาล

ปราการหลังแซมบ้า เป็นส่วนหนึ่งของ มิลาน ชุดคว้าแชมป์ยุโรปในปี 2003 ซี่งเจ้าตัวได้ลงสนามในนัดชิงฯกับ ยูเวนตุส ในนาทีที่ 66 โดยหลังจากที่ทั้ง 2 ทีมทำประตูกันไม่ได้ตลอด 120 นาที ส่งผลให้ต้องดวลจุดโทษตัดสิน และ “ปีศาจแดง-ดำ” เป็นฝ่ายเอาชนะไปในที่สุด

8.เจอร์เมน เพนแนนท์ (ลิเวอร์พูล ปี 2007)

ลิเวอร์พูล ชุดที่แพ้ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ปี 2007 ต่อ มิลาน นั้นแข็งแกร่งกว่าทีมที่เคยเอาชนะ “ปีศาจแดง-ดำ” ได้เมื่อปี 2005 โดยพลพรรค “หงส์แดง” ได้ตัว ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กองกลางอาร์เจนไตน์ และเปเป้ เรน่า นายทวารชาวสเปน เข้ามาเสริมมทัพ

เพนแนนท์ ที่พึ่งย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล เป็นซีซั่นแรกในปี 2006/2007 ลงสนามให้กับ “หงส์แดง” ไปมากถึง 52 เกม รวมถึงในเกมนัดชิงฯถ้วยยุโรปกับ มิลาน ด้วย แต่ต้องพ่ายไป 2-1 ด้วยการยิงคนเดียว 2 ลูกของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ หัวหอกชาวอิตาเลียน

แต่ในฤดูกาลถัดมา อดีตปีกขาวอังกฤษ แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล มากนัก และเขาถูกยืมไปที่ พอร์ทสมัธ ในปี 2008/09 จากนั้น เพนแนนท์ พเนจรไปค้าแข้งกับ เรอัล ซาราโกซ่า, สโต๊ค ซิตี้ และวีแกน แอธเลติก เป็นต้น

L-R: Marc Overmars, Ajax Amsterdam, Stefano Nava, AC Milan

9.สเตฟาโน่ นาวา (เอซี มิลาน ปี 1994)

นาว่า ลงสนามให้กับ มิลาน ไปทั้งสิ้น 21 นัด ตลอดเวลา 5 ปี ที่เขาค้าแข้งในถิ่นซาน ซิโร่ ในยุคที่ “ปีศาจแดง-ดำ” ภายใต้การคุมทัพของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ มียอดกองหลังอย่าง เปาโล มัลดินี่, ฟรังโก้ บาเรซี่ และ อเลสซานโดร คอสตาคูร์ต้า

อย่างไรก็ตาม นาว่า ได้ลงเล่นในนัดชิงฯยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปี 1994 กับ บาร์เซโลน่า โดยถูกเปลี่ยนลงสนามแทน มัลดินี่ ในนาทีที่ 83 ผลสรุป “ปีศาจแดง-ดำ” ถล่ม บาร์ซ่า ขาดลอย 4-0

10. โรแบร์โต เปเรย์ร่า (ยูเวนตุส ปี 2015)

       หลายคนลืมไปแล้วว่า เปเรย์ร่า เคยเล่นกับ ยูเวนตุส แม้เขาจะลงสนามในทุกเกมในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในปี 2015 ให้กับ “เจ้าม้าลาย” ซึ่งรวมไปถึงนัดชิงฯในช่วง 11 นาทีสุดท้าย กับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ด้วยเช่นเดียวกัน

ปีกชาวอาร์เจนตินา ย้ายจาก อูดิเนเซ่ มาเล่นกับ ยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัวในปี 2014 และเซ็นสัญญาเป็นการถาวรกับ “เจ้าม้าลาย” ในซัมเมอร์ต่อมา ก่อนที่เขาจะโยกมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ วัตฟอร์ด ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร จนถึงปัจจุบัน

ภาพประกอบ : talksport.com, fourfourtwo.com, skysports.com, walesonline.co.uk, Whatculture.com, elpais.com,talksport.com, givemesport.com, transfermarkt.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save