“ผมไม่เสียใจหรอกนะ ที่ไม่ได้รับเหรียญเกียรติยศในฉากนั้น เพราะชิวบัคก้าน่ะ ได้เป็นคนส่งเสียงคำรามเป็นประโยคปิดท้ายหนัง” ประโยคที่ถอดความจากบทสัมภาษณ์ของ “ปีเตอร์ เมย์ฮิว” ผู้รับบทเป็นชิวบัคก้า เกี่ยวกับฉากจบใน Episode XI (A New Hope) ของ Star Wars บอกเล่าอะไรกับเราได้มากมาย 

แน่นอนว่าเรารู้ได้ทันทีว่าเมย์ฮิวเป็นคนอารมณ์ดี แน่นอนว่าเราทราบว่าเขารักการเป็นชิวบัคก้าอย่างมาก และที่แน่นอนยิ่งกว่านั้น คือมันสัมผัสได้ว่า “จอร์จ ลูคัส”, ทีมผู้สร้าง และผู้ชมทุกคนรักคาแรกเตอร์นี้มากขนาดไหน เพราะไม่มีอะไรจะเป็นสุขเท่าการได้เห็นชิวบัคก้าเป็นคนส่งท้ายตอนจบแบบนี้อีกแล้ว

เมื่อพูดถึง “ชิวบัคก้า” ทุกคนย่อมจะนึกถึง “ปีเตอร์ เมย์ฮิว” กันนะครับ เพราะเมย์ฮิว คือผู้ที่รับบทเป็นชิวบัคก้ามาเนิ่นนาน นับตั้งแต่ Episode IV (Star Wars) เมื่อปี 1977 จนถึงปี 2015 ใน Episode VII (The Force Awakens)

แม้ใน 2 เรื่องหลังอย่าง Episode VIII (The Last Jedi) และหนัง Spin-off ฮาน โซโล คู่หูของชิววี่ (ชื่อเล่นที่เรียกชิวบัคก้ากันติดปาก) อย่าง Solo เขาจะไม่ได้สวมบทบาทเอง (เปลี่ยนมาให้ยูนาส ซูโอตาโม่ รับบทแทน) แต่ก็ยังมีชื่อในเครดิตว่าเป็น “ที่ปรึกษาด้านชิวบัคก้า”

เท่ากับว่าเมย์ฮิว “เป็น” ชิวบัคก้ามานานเกือบ 40 ปี ตั้งแต่ยุคที่สเปเชี่ยล เอฟเฟ็คต์ยังแทบไม่มีอะไร จนถึงยุคที่เราเนรมิตภาพอะไรขึ้นมาก็ได้จาก CG ระดับเทพ แต่กับชิวบัคก้า เฟรนไชส์ Star Wars ยังคงให้ความสำคัญต่อการสวมคอสตูมแสดงจริงเสมอ

มันจึงเป็น 40 ปี ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ต่อทั้งตัวเมย์ฮิว และแฟนหนัง ซึ่งทุกคนรัก และเห็นว่าชิวบัคก้า เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ Star Wars จะขาดไปไม่ได้

จวบจนวันที่เราต้องโบกมือลาเมย์ฮิว ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวในวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยวัย 74 ปี ทุกคนยังคงอาลัยเขา ดั่งการขาดหายไปของสัญลักษณ์เฟรนไชส์ Star Wars ซึ่งมีผู้คนรักนับล้านทั่วโลก

อาชีพการแสดงหนังของเมย์ฮิว เริ่มต้นไม่เหมือนนักแสดงคนอื่นทั่วไป เพราะตัวเขาเองไม่ได้คิดฝันจะเป็นดารา หรือนักแสดงมาก่อนเลย โอกาสที่มา เป็นเหมือนฟ้าลิขิตล้วนๆ

เมย์ฮิวเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ปี 1944 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีรูปร่างสูงผิดปกติ ซึ่งจากข้อมูลในหลายแหล่ง ระบุว่าเป็นอาการเติบโตมากผิดปกติของต่อมใต้สมอง หรือพิทูอิทารี่ แกลนด์ ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตโกรทฮอร์โมน โดยข้อมูลระบุว่าเขาต้องเข้ารับการรักษา และหยุดความสูงตอนอายุ 15 ปี โดยมีส่วนสูง สูงที่สุดอยู่ที่ 7 ฟุต 3 นิ้ว หรือ 2.21 เมตร

เมย์ฮิว ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนนัก เขาออกจากโรงเรียน และเริ่มหางานทำ จนได้มาเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล London’s King’s College ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพการงานของเขาอย่างคาดไม่ถึง

โปรดิวเซอร์หนังผจญภัยฟอร์มใหญ่ในตอนนั้นอย่าง “Sinbad and the Eye of the Tiger” เห็นเมย์ฮิวโดยบังเอิญจากภาพในหนังสือพิมพ์ ด้วยส่วนสูงระดับ 7 ฟุต 3 นิ้ว ทำให้โปรดิวเซอร์ปิ๊งไอเดีย รีบจีบเขามารับบท “มิโนทอร์” สัตว์ประหลาดที่มีหัวเป็นวัวกระทิง

เมย์ฮิวเลยได้ประเดิมรับงานการแสดงจากเรื่องนี้ พอเสร็จจ๊อบ ก็กลับไปทำงานเป็นพนักงานประจำโรงพยาบาลต่อ โดยไม่คิดว่าจะมีโอกาสการแสดงตามมาอีกในอนาคต (มันจะมีหนังแฟนตาซีแบบนี้ซักกี่เรื่องกันสมัยนั้น!)

แต่แล้วเวลาผ่านไปอีกไม่นาน ประมาณ 1 ปี “จอร์จ ลูคัส” ซึ่งกำลังเตรียมการเพื่อถ่ายทำหนัง Star Wars ภาคแรกอยู่ ก็ต้องการนักแสดงที่มีส่วนสูงมากกว่าคนปกติ เพื่อมารับบท “ชิวบัคก้า” มนุษย์ต่างดาว (ฝรั่งเขาใช้คำว่าเอเลี่ยน) ขนปุย รูปร่างสูง ก็เริ่มสอดส่องแคสติ้งหาคน

โดยเป้าหมายแรกของทีม เล็งไปที่ “เดวิด เพราส์” เจ้าของความสูง 1.98 เมตร แต่สุดท้ายเพราส์ ก็เหมาะกับบท “ดาร์ธ เวเดอร์” ตัวร้ายคนสำคัญมากกว่า ลูคัสจึงต้องควานหาชิวบัคก้าของเขาต่อไป

จนท้ายที่สุด ลูคัสและทีมงาน ก็มาเจอกับเมย์ฮิว คนที่ลูคัสมั่นใจแต่แรกเริ่ม ว่าเขาจะเป็นชิวบัคก้าที่ยอดเยี่ยมให้กับ Star Wars และเป็นที่รักของทุกคนอย่างแน่นอน และมันก็เป็นจริงตามนับตั้งแต่วันนั้น จวบจนถึง 30-40 ปีให้หลัง

พูดถึงการเข้าถึงตัวละครชิวบัคก้าของผู้ชม เมย์ฮิวเองเคยพูดไว้น่าสนใจว่า เขาคิดว่าลูคัสสร้างชิวบัคก้าขึ้นมาสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกับเด็กๆ เหมือนที่เขาสร้างตัว “จาร์ จาร์” ขึ้นมา เพื่อให้เฟรนไชส์เข้าถึงทุกเพศทุกวัยมากขึ้น

การจากไปของ “ปีเตอร์ เมย์ฮิว” ถือเป็นความสูญเสียที่ไม่มีวันหวนกลับของทีมนักแสดง ​Star Wars รุ่นคลาสสิก ซึ่งพึ่งจะสูญเสีย “แคร์รี่ ฟิสเชอร์”​ หรือ “เจ้าหญิงเลอา” ไปเมื่อปี 2016 นี่เอง

มาร์ค ฮามิลล์ (ผู้รับบทลุค) และแฮร์ริสัน ฟอร์ด (ฮาน โซโล) ต่างพูดตรงกันในคำพูดไว้อาลัยต่อการจากไปของเพื่อนสนิทอย่างเมย์ฮิว ว่าเขาเป็นชายร่างใหญ่ที่หัวใจโตซะยิ่งกว่าตัวเขา เป็นชายที่สุภาพ ถ่อมตัว และเป็นที่รักของคนทั่วไป

เช่นเดียวกับจอร์จ ลูคัส ที่พูดถึงเมย์ฮิวว่า เขามี “หัวใจของ Wookiee” อย่างแท้จริง เพราะเป็นคนใจใหญ่เกินตัว และมีความถ่อมตัวที่เป็นธรรมชาติ

ด้านแถลงการณ์ของครอบครัวเมย์ฮิว ก็ระบุเช่นกันว่าเมย์ฮิว มีความรักต่อการสวมบทชิวบัคก้า และมอบความรักต่อครอบครัว Star Wars แบบสุดหัวใจ ไม่เพียงแต่ทีมผู้สร้าง และนักแสดง แต่ครอบครัวยังรวมถึงแฟนหนังทั่วโลก ซึ่งเมย์ฮิวแทบไม่เคยปฏิเสธโอกาสเดินทางไปพบปะกับแฟนๆ ซึ่งทุกคนต่างก็พร้อมมอบความรักให้กับเขาเสมอมา

แม้เมย์ฮิวจะจากไปแล้ว หลังสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้กับแฟนหนังมานานกว่า 30 ปี แต่เชื่อเถอะว่า “ชิวบัคก้า” ตัวละครที่เขารัก และทุ่มเท จะอยู่ในใจพวกเราไปอีกนานแสนนาน ไม่ว่าการปรากฏตัวของชิววี่ใน Episode IX (The Rise of Skywalker) ปลายปีนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ก็ตาม

RIP คุณปู่ปีเตอร์.. คุณจะเป็นชิวบัคก้าของเราตลอดไป

ข้อมูลเพิ่มเติม : Wikipedia, Independent, Brianyquote, Telegraph, IMDb

Picture : Dallas Morning News, Lyles Movie Files, Neatorama, Telegraph, Irish Mirror, Pinterest, Stars Changes, Variety, The Verge