นโยบายชัด! มาดู 10 อันดับการขายนักเตะแพงสุดของ “ตราหมี” - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
นโยบายชัด! มาดู 10 อันดับการขายนักเตะแพงสุดของ “ตราหมี”

ขึ้นชื่อของทีม “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริดแล้ว หลายคนอาจจะนึกไปถึงสไตล์การเล่นเกมรับอันเหนียวแน่น และเกมรุกฉาบฉวยที่เด็ดขาด ตามแบบฉบับการคุมทีมของ “ดิเอโก้ ซิเมโอเน่” ที่พาพวกเขาประสบความสำเร็จทั้งในประเทศที่ยืนหยัดสู้กับยักษ์ใหญ่เงินถุงเงินถังอย่างบาร์เซโลน่า หรือเรอัล มาดริด รวมถึงในระดับบอลสโมสรยุโรป ซึ่งพวกเขาเป็นขาประจำเข้าสู่รอบน็อคเอาท์อยู่ตลอด

ซิเมโอเน่ พาทีมเป็นแชมป์ลีก, แชมป์ยูโรป้า 2 สมัย และเข้าชิง UCL 2 ครั้ง

แต่หากลองย้อนมองภาพรวมกว้างขึ้นหน่อยซัก 10-20 ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากสไตล์การเล่นของพวกเขาแล้ว ไม้เด็ดประจำที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ นั้นต้องมองไปถึงเรื่องนโยบายการเฟ้นหานักเตะมาปั้น และการซื้อ-ขายตัวผู้เล่น ซึ่งทำให้ทีมตราหมีมีนักเตะคุณภาพหมุนเวียนมาให้ใช้อยู่เสมอ พร้อมกับทำกำไรมากมาย จากการเปลี่ยนถ่ายขายนักเตะออกจากทีม เรียกได้ว่าขึ้นชื่อตราหมีแล้ว โอกาสจะขายขาดทุนเนี่ย แทบจะเป็นไปไม่ได้

นโยบายที่ชัดเจนของสโมสรในเรื่องการซื้อ-ขายนักเตะนั้น เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัย “เฆซุส กิล”​ ประธานสโมสรคนสำคัญที่นั่งแท่นบอสใหญ่ของสโมสรยาวนาน 15 ปี นับตั้งแต่ปี 1987 ก่อนจะส่งไม้ต่อให้กับ “เอ็นริเก้ เซเรโซ่” ตั้งแต่ปี 2003 จนปัจจุบัน

ทีมตราหมีชุดปัจจุบันที่เต็มไปด้วยนักเตะที่ลงทุนซื้อมาถูก เมื่อเทียบกับมูลค่าปัจจุบัน

โดยปัจจุบันนักเตะตัวหลักในทีมตราหมี มีกว่าครึ่งค่อนที่ทีมปลุกปั้นมาตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้จัก อย่างเช่น แยน โอบลัค, โฆเซ่ ฆิมิเนซ, ซาอูล นิเกซ, โกเก้ หรือแม้แต่อองตวน กรีซมันน์ หนึ่งในผู้เล่นเกมรุกที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งทีมตราหมีซื้อเขามาจากเรอัล โซเซียดัด ในราคาราว 24 ล้านปอนด์ ซึ่งคงห่างไม่ต่ำกว่า 3-4 เท่า เมื่อเทียบจากมูลค่าของกองหน้าแชมป์โลก ในปัจจุบัน

และเพื่อให้น้ำหนักเรื่องการทำกำไรของทีมตราหมีเห็นชัดเจน วันนี้เราเลยจะพาไปดูกัน ว่า 10 อันดับการขายนักเตะที่แพงที่สุดของพวกเขามีใครบ้าง และทำกำไรแค่ไหน

อันดับ 1 : ลูคัส เอร์น็องเดซ / จากอคาเดมี่ / ขาย 72 ล้านปอนด์ให้บาเยิร์น มิวนิค

ลูคัส พึ่งขึ้นมาเล่นชุดใหญ่เต็มๆ ได้แค่ 2-3 ปี แต่มีฟุตบอลโลกอัพราคาสูงปรี๊ด

กองหลังชุดแชมป์โลก 2018 กับทีมชาติฝรั่งเศส กลายเป็นกองหลังที่แพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกทันที หลัง “เสือใต้”​ บาเยิร์น มิวนิค ประกาศซื้อตัวเขาล่วงหน้าสำเร็จเมื่อไม่กี่วันมานี้ ด้วยราคาสุดโหด 72 ล้านปอนด์ ซึ่งปลดล็อค Release Clause หรือสัญญาปล่อยตัวที่ทีมในสเปนจะระบุไว้ในสัญญานักเตะทุกคน

จะว่าไปแล้ว แอต.มาดริด ก็พึ่งจะดันเอร์น็องเดซขึ้นมาเล่นชุดใหญ่จริงๆ จังๆ ก็เมื่อฤดูกาล 2016/17 นี่เอง แล้วผลงานเจ้าตัวมาเปรี้ยงปร้างในฤดูกาลถัดมา เลยทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เป็นแบ็คซ้ายตัวจริงให้ทีมชาติฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2018 เลยดูมีสง่าราศีน่าทุ่มทุนขึ้นมาอย่างมาก

อันดับ 2 : ราดาเมล ฟัลเกา / ซื้อมา 22.5 ล้านปอนด์ / ขาย 38.7 ล้านปอนด์ให้โมนาโก

ฟัลเกาอีกหนึ่งกองหน้าระดับโลกที่ยิงกระจายกับตราหมี แม้จะอยู่กันสั้นไปหน่อย

ต้องชมทีมเจรจาของทีมตราหมีในตอนนั้น ที่สามารถฝ่าดงเสือสิงห์กระทิงแรด เซ็นสัญญากองหน้าชาวโคลอมเบียรายนี้มาจากปอร์โต้ได้สำเร็จ ในราคาที่ว่ากันว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับผลงานของเขาที่พาปอรโต้คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีกมาได้ ยิ่งเมื่อเทียบกับผลงานการพังประตูให้ตราหมี 2 ฤดูกาล เล่น 91 นัด ยิง 70 ประตู ยิ่งคุ้มแสนคุ้ม

เรื่องของการย้ายออก ส่วนนึงที่ราคาพุ่งสูงขึ้นมาอีกพอสมควร ก็เพราะปี 2013 เป็นช่วงแรกที่โมนาโกพึ่งจะเปลี่ยนเจ้าของใหม่เป็นเจ้าสัวรัสเซีย ซึ่งปูพรมทุ่มเงินคว้านักเตะเกรดเอมาร่วมทีมมากมายเพื่อยกระดับทีมให้ได้เร็วที่สุด

อันดับ 3 : แจ็คสัน มาร์ติเนซ / ซื้อมา 31.5 ล้านปอนด์ / ขาย 37.8 ล้านปอนด์ให้กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์

มาร์ติเนซ ถือว่าล้มเหลวกับตราหมี แต่ก็ยังขายได้ราคาเกือบ 40 ล้านปอนด์

เมื่อเทียบจากกำไรที่ได้มาในรายของแจ็คสัน มาร์ติเนซ อาจจะดูน้อยนิด แต่ถ้าเทียบจากฟอร์มของแกตอนนั้นที่ลงสนามให้แอต.มาดริดแล้ว ถือว่าทีมตราหมีทำธุรกิจได้ยอดเยี่ยมแล้ว โดยมีเหยื่อเป็นกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ทีมแรกๆ ในไชน่า ซูเปอร์ ลีก ที่เริ่มต้นกระแสทุ่มทุนซื้อนักเตะไปสร้างสีสันในแดนมังกร

พูดถึงตอนซื้อพี่แจ็คสันมาจากปอร์โต้ ผู้คนต่างคาดหวังว่าเขาจะเจริญรอยตามฟัลเกา เพราะเป็นนักเตะโคลอมเบีย แถมยิงที่ปอร์โต้มาถล่มทลายเหมือนกัน แต่กลายเป็นว่าเจ้าตัวปรับตัวไม่ค่อยได้กับตราหมี โอกาสลงสนามก็ไม่มาก เล่น 22 นัด แกยิงไปแค่ 3 เม็ด การย้ายออกในราคาเกือบ 40 ล้านปอนด์ จึงถือว่าคุ้มแสนคุ้มแล้ว เพราะตอนไปเมืองจีนเอง แกก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกเลย

อันดับ 4 : เซร์คิโอ “กุน”​ อเกวโร / ซื้อมา 19.5 ล้านปอนด์ / ขาย 36 ล้านปอนด์ให้แมนฯ ซิตี้

กุน หนึ่งในกองหน้าพระกาฬ ที่ตราหมีดึงมาปลุกปั้นตั้งแต่วัยรุ่น จนเป็นที่รักของแฟน

อยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี ทีมตราหมีก็ไม่เคยสิ้นกองหน้าระดับโลก แมวมองของแอต.มาดริด ทำผลงานได้ดีเสมอ เมื่อจัดการเซ็นกุนมาจากอินดิเพนเดียนเต้ แม้ราคาจะสูงจนเซอร์ไพรส์ในตอนนั้น ถึงเกือบ 20 ล้านปอนด์กับเด็กวัยแค่ 18 ปี ซึ่งตอนนั้นถือเป็นสถิติใหม่ของสโมสรเลยทีเดียว

ผลงานของกุนกับทีมตราหมีไม่มีข้อโต้แย้งเลยถึงความคุ้ม เล่น 234 นัด ยิงได้ถึง 102 ประตู ก่อนจะถึงคราวได้ย้ายไปลุยพรีเมียร์ลีกพร้อมกับเดวิด เด เกอา กับทีมเงินถุงเงินถังอย่างซิตี้ ราคาก็เลยขยับไปเป็น 36 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงในตอนนั้น

อันดับ 5 : ดิเอโก้ คอสต้า / ซื้อมา 900,000 ปอนด์ / ขาย 34.2 ล้านปอนด์ให้เชลซี

“ใครไม่รัก ตราหมีรัก” คงใช้ได้ดีกับการกลับมาร่วมงานกับทีมถึง 3 ครั้ง 3 ครา

เคสของคอสต้าอาจจะแปลกจากเคสของคนอื่นหน่อย ตรงที่พี่แกอยู่แอต.มาดริด หนนี้เป็นหนที่ 3 แล้ว หลังจากแกโดนสอยมาโดยแมวมองตราหมีตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นจากบราก้า ด้วยราคาเพียง 1.4 ล้านปอนด์ ก่อนจะแจ้งเกิดไม่สำเร็จ จนต้องย้ายไปเรอัล บายาโดลิด ก่อนจะกลับมาแอต.มาดริดอีกครั้ง ในราคาน่ารัก 900,000 ปอนด์ จนแจ้งเกิดได้สำเร็จ

อย่างที่ทราบกันว่าแกจบกับเชลซีไม่ค่อยสวยนัก จนตราหมีต้องซื้อศิษย์เก่ากลับมาร่วมทีมด้วยราคาสูงถึง 59.4 ล้านปอนด์ แต่ถ้านับที่ปั้นจากนักเตะราคา 900,000 ปอนด์ ไปขายในหลัก 34.2 ล้านปอนด์ให้สิงห์บลู ก็ถือว่าทีมตราหมีทำธุรกิจได้ดีไม่เปลี่ยน

อันดับ 5 : เฟร์นานโด ตอร์เรส / จากอคาเดมี่ / ขาย 34.2 ล้านปอนด์ให้ลิเวอร์พูล

“เอล นินโญ่”​ กองหน้าขวัญใจที่ได้รับมอบหมายเป็นกัปตันทีมตราหมีตั้งแต่เด็ก

แน่นอนว่าถ้าพูดกันถึงผลกำไร ดีลปล่อย “เอล นินโญ่” ไปลิเวอร์พูลนั้นได้กำไรแน่ แต่จะต่างนิดนึงก็ตรงถ้าจะวัดกันในแง่ของความรู้สึกของแฟนบอลตราหมีแล้ว ตอนนั้นคงไม่มีใครอยากให้ตอร์เรสออกจากทีมไป เพราะเขาถือเป็นความหวังของสโมสรมาเสมอ นับตั้งแต่ประเดิมทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ก่อนที่ท้ายสุดตอร์เรสจะหวนคืนกลับบ้านจนได้ ทั้งจากการยืมตัวจากมิลาน และย้ายถาวรในปี 2016

อันดับ 7 : อาร์ด้า ตูราน / ซื้อมา 11.7 ล้านปอนด์ / ขาย 30.6 ล้านปอนด์ให้บาร์เซโลน่า

อีกหนึ่งนักเตะราคาสูง ซึ่งพอออกจากตราหมี ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้

จอมทัพของทีมชาติตุรกีในตอนนั้น ถูกบาร์ซ่าด้อมๆ มองๆ มาหลายทีแล้ว จนสุดท้ายก็ได้ย้ายจนได้เมื่อฤดูกาล 2015/16 ในราคาที่สมน้ำสมเนื้อของทีมตราหมีที่ระดับเกิน 30 ล้านปอนด์ หลังจากเล่นให้ทีมมาทั้งสิ้น 4 ปี นับตั้งแต่ย้ายมาจากกาลาตาซารายในราคาไม่แพง 11.7 ล้านปอนด์ โดยฟอร์มของแกกับ “เจ้าบุญทุ่ม”​ ก็ไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ ได้เล่นแค่ 55 นัดนับตั้งแต่ย้ายไปเมื่อปี 2015 (ปัจจุบันยังเป็นนักเตะบาร์ซ่าอยู่นะ!)

อันดับ 8 : คริสเตียน วิเอรี่ / ซื้อมา 15.8 ล้านปอนด์ / ขาย 25.6 ล้านปอนด์ให้ลาซิโอ

“โบโบ้” วิเอรี่ อยู่กับตราหมีแค่ซีซั่นเดียว แต่ยิงกระจาย 29 ลูก จากแค่ 32 นัด

ใน 10 อันดับที่ไล่เรียงมา การย้ายทีมของ “โบโบ้” วิเอรี่ ถือว่าคลาสสิกสุดแล้ว เพราะมันเกิดขึ้นในฤดูกาล  1998/99 ซึ่งสมัยนั้นเม็ดเงินย้ายทีมมันยังไม่สะพัดเหมือนสมัยนี้ แต่โบโบ้กลับเป็นนักเตะ ที่ทำให้มันเกิดเซอร์ไพรส์กันติดต่อกันถึง 3-4 ฤดูกาล

ย้อนไปถึงฤดูกาล 1996/97 โบโบ้พึ่งจะย้ายไปยูเวนตุสได้แค่ปีเดียวจากแอตตาลันต้า จึงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะย้ายออกจากอิตาลีมาผจญภัยกับทีมตราหมีในราคา 15.8 ล้านปอนด์ ซึ่งในยุคนั้นถือว่าสูงมาก ผลงานกับตราหมีของโบโบ้จัดว่าโหด เพราะยิงได้ 29 ประตู จากการลงเล่นแค่ 32 นัด แต่น่าเสียดายที่โบโบ้อยู่ได้แค่ปีเดียว ก็ต้องย้ายกลับไปลาซิโอด้วยราคาที่ไม่ธรรมดา ก่อนจะย้ายต่อไปอินเตอร์ในปีถัดไป ด้วยราคาที่มากขึ้นอีกถึงระดับเกือบ 50 ล้านปอนด์ ทำให้ยอดรวมค่าตัวของแกนี่สู้นักบอลสมัยนี้ได้สบายๆ

อันดับ 9 : เดวิด เด เกอา / จากอคาเดมี่ / ขาย 22.5 ล้านปอนด์ให้แมนฯ ยู

เด เกอา อีกหนึ่งผู้รักษาประตูระดับโลก ที่ทีมตราหมีมีในทีมไม่เคยขาด

หนึ่งในผู้รักษาประตูแนวหน้าของโลกยุคปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งผลผลิตจากระบบเยาวชนของทีมตราหมี ซึ่งทะลุมาประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 ปี ก่อนจะสบโอกาสย้ายไปแมนฯ​ ยู ในอีก 2 ปีให้หลัง ด้วยราคาที่โอเคทั้งสองฝ่ายที่ 22.5 ล้านปอนด์ หลังมีหลายทีมยักษ์ใหญ่จับตามองอยู่

แน่นอนแหละ ว่าถ้านับจากผลงานของพี่ลามะกับแมนฯ ยู หรือทีมชาติสเปน เปรียบเหมือนทีมตราหมีเสียนักเตะระดับโลกไป แต่ถ้านับเอานโยบายการเฟ้นหาคนมาทดแทนได้ตลอด ก็ทำให้ทีมไม่เคยขาดโกล์มือดีเลย ทั้งธิโบส์ กูร์ตัวส์ ที่ตอนนี้ทำแสบย้ายไปเรอัล มาดริดแล้ว หรือมือ 1 ของทีมคนปัจจุบันอย่างแยน โอบลัค ก็ล้วนสามารถขึ้นชั้นเป็นโกล์ระดับแนวหน้าของโลกได้ไม่ต่างกัน

อันดับ 10 : เตโอ เอร์น็องเดซ / จากอคาเดมี่ / ขาย 21.6 ล้านปอนด์ให้เรอัล มาดริด

เอร์น็องเดซคนน้อง ที่ยังแทบไม่ได้เล่นชุดใหญ่ให้ตราหมี แต่ได้ย้ายในราคาสูงใช้ได้

คนพี่ติดอันดับ 1 คนน้องก็ปิดท้ายติดอัน 10 บ้าง โดยเส้นทางของเตโอก็เหมือนกับพี่ชายไม่มีผิด คือเริ่มจากการเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสร ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของทีมตราหมีได้สำเร็จ

ที่แตกต่างกันหน่อย ก็คือเตโอนั้นยังแทบไม่ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของตราหมีเลย แต่ก็ไปเตะตาทีมราชันชุดขาวเค้า จนต้องทุ่มเงินระดับเกิน 20 ล้านปอนด์ซื้อตัวไป ประมาณว่าซื้ออนาคต แต่เตโอเอง กลับยังไม่สามารถแจ้งเกิดกับมาดริดได้ จนซีซั่นนี้ถูกส่งให้เรอัล โซเซียดัดยืมตัวไปแทน เรียกได้ว่าตอนแรกดูเหมือนจะดังแซงพี่ชาย แต่ตอนนี้พี่กลับไปไกล มีดีกรีแชมป์โลกไปก่อนน้องแล้วซะงั้น

Picture : 90Min, BBVA, Sky Sports, Mundo Deportivo, USA Today, Mirror, FIFA.com, Dario AS, Sportskeeda, beIN Sports, Goal.com

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save