เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาสัมภาษณ์ค่อนข้างชัดเจนช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ว่าซัมเมอร์นี้ทัพเรือใบคงถึงคราวต้องเสริมทัพอีกครั้ง โดยเน้นหนักไปที่ตำแหน่งแบ็คซ้ายที่ตัวจริงอย่างเบนจาแม็ง เมนดี้ นอนโรงหมอมากกว่าลงสนามมาตลอด 2 ฤดูกาล กับอีกตำแหน่งคือมิดฟิลด์ตัวกลางที่ทำหน้าที่ปัดกวาดเกมรับ และโฮลดิ้งบอล เพราะกลจักรสำคัญอย่าง “แฟร์นันดินโญ่” อายุอานามจะครบ 34 ปี เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้

ในฤดูกาลนี้ แม้แฟร์นันดินโญ่จะอายุไม่น้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาคือกองกลางคนสำคัญของเป๊ปจริงๆ 2 นัดที่ซิตี้แพ้ในลีกติดต่อกันต่อคริสตัล พาเลซ และเลสเตอร์ ซิตี้ และ 2 นัดล่าสุดที่เฉือนชนะเวสต์แฮมและบอร์นมัธหวุดหวิด ที่ล้วนแล้วแต่ขาดเขาเพราะอาการบาดเจ็บ ส่งผลต่อความแน่นอนของรูปแบบเกมของซิตี้อย่างเห็นได้ชัด

จุดเด่นของแฟร์นันดินโญ่ ไม่เพียงแต่ปัดกวาดอันตรายก่อนจะถึงแผงรับ และโฮลดิ้งบอลที่ขึ้นจากหลังมาหน้าแล้ว ตัวเขายังเป็นมิดฟิลด์ที่สามารถเติมขึ้นมาเล่นแบบบ๊อกซ์-ทู-บ๊อกซ์ ได้ดีอีกด้วย ในยามทีมเจอเกมรับต่ำ โดยนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาจากชัคตาร์ โดเนตส์เมื่อปี 2013 เขายิงประตูให้ซิตี้ไปรวมถึง 23 ลูก ถือว่าเยอะทีเดียวสำหรับมิดฟิลด์ที่หน้าที่หลักคือเกมรับ ดังนั้นการหานักเตะในท้องตลาดให้ตรงตามสเปคกองกลางชาวบราซิเลี่ยนรายนี้ นั้นไม่ง่ายแน่

ดังนั้น เราลองมาเป็นแมวมองของซิตี้กันดีกว่า มาคาดเดา 7 ตัวแทนที่มีความเป็นไปได้ หากซิตี้ต้องการตัวแทนของแฟร์นันดินโญ่

เอ็นโกโล่ ก็องเต้

ก็องเต้น่าจะเป็นตัวเลือกในตำแหน่งนี้ที่ดีที่สุด เพราะทีมชั้นนำทั่วโลกต่างอยากได้เขาไปร่วมทีม ตำแหน่งตัวรับที่ขยันกัดไม่ปล่อย และสามารถเล่นได้ตามแบบแผนที่โค้ชสั่ง ต้องยกให้เขาเป็นเบอร์ 1 ที่สำคัญในฤดูกาลนี้กับเชลซี เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยังดันก็องเต้ขึ้นมาเล่นรุกมากขึ้น ทำให้เราเห็นความเป็นบ๊อกซ์-ทู-บ๊อกซ์ในตัวเขามากขึ้นเป็นพิเศษ

เรื่องเงินที่จะกระชากตัวก็องเต้ออกจากอ้อมอกของเชลซีนั้น เชื่อกันว่าต้องมีแตะระดับร้อยล้านปอนด์แน่ ซึ่งดูจะไม่เป็นปัญหากับทีมเงินถุงเงินถังอย่างซิตี้ เพียงแต่ว่า ปัญหาน่าจะอยู่ตรงที่ตัวก็องเต้เอง เป็นนักเตะที่ไม่มีความทะเยอทะยานย้ายทีมมากนัก ดังนั้นทางเดียวที่เขาจะออกจากเชลซีได้ คือสโมสรต้องอยากจะขายตัวเขาเอง จึงเป็นเรื่องวัดใจโรมัน อบราโมวิชซะมากกว่า ว่าอยากจะปล่อยตัวนักเตะระดับโลกแบบนี้ออกไปหรือไม่

รูเบน เนเวส

มิดฟิลด์ดาวโรจน์วัยเพียง 21 ปีทีมชาติโปรตุเกส เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ หากเป๊ปต้องการนักเตะที่สามารถโฮลดิ้งบอลได้ดี และมีทีเด็ดจากการออกบอลเข้าสู่เขตโทษ แถมท้ายยังมีทีเด็ดเรื่องการยิงระยะไกล และเซ็ตพีซด้วยอีกต่างหาก

จุดอ่อนสำคัญของเนเวส น่าจะอยู่ที่ความสม่ำเสมอที่น่าจะต้องใช้เวลาขัดเกลาเพิ่มเติม เพราะนี่พึ่งจะเป็นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกของเจ้าตัวเท่านั้น เรื่องการเน้นประสิทธิภาพเกมรับ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องเพิ่ม หากเป๊ปต้องการนักเตะที่สามารถเก็บกวาดหน้าแผงหลังได้ดีแบบแฟร์นันดินโญ่ นั่นทำให้บางที อาจจะยังไม่ถึงเวลาที่ซิตี้จะอยากได้เนเวสมาเป็นตัวหลักที่พร้อมใช้งานทันที

ดีแคลน ไรซ์

ถ้าพูดถึงมิดฟิลด์ตัวรับที่มาแรงที่สุดในเกาะอังกฤษตอนนี้ สื่อทุกสื่อชี้นิ้วไปที่น้องดีแคลน ไรซ์ กองกลางวัย 20 ปี ของเวสต์แฮม ตรงกันแน่นอน เพราะนอกจากทีมชาติอังกฤษจะดอยตัวมาจากไอร์แลนด์สำเร็จแล้ว (ทั้งๆ ที่เล่นบอลอุ่นเครื่องในสีเสื้อยักษ์เขียวไปแล้ว 3 นัด!) ฟอร์มของเจ้าตัวก็โดดเด่นน่าจับตามองจริงๆ

ตามจริงแล้ว ไรซ์ขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของขุนค้อนเต็มตัวตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว แต่ตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายมักจะเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ หรือแบ็คขวา ซึ่งเจ้าตัวเล่นแล้วยังมีความผิดพลาด ไม่เป็นที่เตะตาเท่าไหร่ แต่พอซีซั่นนี้ เมาริซิโอ เปเยกรินี่ มอบหมายให้ขึ้นมาเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางเต็มตัว ผลงานของไรซ์ก็โดดเด่นขึ้นมาชัดเจน เกมรับก็ทำได้ดีด้วยเซนส์กองหลังที่เจ้าตัวมี ในขณะเดียวกัน ยังสามารถโฮลด์บอล และมีทีเด็ดจากการสอดขึ้นมาเล่นลูกเซ็ตพีซอีกด้วย

แม้อายุจะยังน้อย และพิสูจน์ตัวเองในระยะเพียงสั้นๆ แต่พอเป็นนักเตะพื้นเพอยู่บนเกาะอังกฤษที่สามารถเอาไปเพิ่มตัวเลือกโฮมโกรนได้ ชื่อของไรซ์จึงไม่อาจมองข้าม คอยจับตาดูให้ดี

มาร์เซโล่ โบรโซวิช

กองกลางดีกรีรองแชมป์โลกของอินเตอร์ มิลาน ขึ้นชื่อในเรื่องความขยัน และสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ แม้รับจะไม่ถึงกับเป็นเต้ย แต่เรื่องการดันขึ้นไปเล่นแบบบ๊อกซ์-ทู-บ๊อกซ์ ตัวเขาทำได้ได้ดีทั้งในสโมสร และระดับทีมชาติ

ความน่าสนใจอีกอย่างของโบรโซวิชคือราคาที่ไม่น่าจะโหดร้ายหากเทียบกับตัวเลือกอื่น และด้วยวัย 26 ปี ก็น่าจะเป็นวัยที่เหมาะสมที่จะมาลุยลีกผู้ดีซักทีนึง

ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล

มิดฟิลด์เชิงรับดาวโรจน์ชาวเยอรมันถือว่าเป็นนักเตะที่ดังขึ้นมารวดเร็วกับดอร์ทมุนด์ แต่ก็มีปัญหาในการรักษาความสม่ำเสมอ และสภาพร่างกายที่มักจะมีอาการเจ็บรบกวนพัฒนาการอยู่ตลอด ไอ้เจ้าอาการเจ็บนี่แหละ ที่ทำให้ปีนี้เขามีปัญหากับการยึดตำแหน่งตัวจริง และได้ลงเล่นให้ดอร์ทมุนด์ เพียงแค่ 14 นัดเท่านั้น

จุดเด่นของมิดฟิลด์วัย 23 ปี คือเซ้นส์บอลที่เต็มเปี่ยมเกินอายุมาตั้งแต่เด็ก การคุมเชิงดีเลย์เกมรุกคู่แข่งทำได้ดี การถ่ายบอล และหาช่องทำเกมรุกก็ทำได้ดีไม่ต่างกัน ตัวเป๊ปเองก็น่าจะรู้จักฝีเท้าของไวเกิ้ลเป็นอย่างดี จากช่วงท้ายที่เขาคุมบาเยิร์นอยู่ในลีกเมืองเบียร์ ซึ่งเป๊ปเองก็เคยประทับใจความสมดุลในแดนกลาง และเซ็นอิลกาย กุนโดกัน มาร่วมทีมไปแล้ว ซึ่งคุณสมบัติอย่างที่ว่า ก็น่าจะมีในตัวของไวเกิ้ลไม่ต่างกัน

ต็องกี เอ็นดอมเบเล่

กองกลางวัย 22 ปีสายขยัน และเก่งการชิงบอลชาวฝรั่งเศส เริ่มเป็นที่รู้จักหลังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่โอลิมปิก ลียง ยืมตัวเขามาจากเอเมียงส์ปีที่แล้ว ก่อนจะซื้อขาด และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมในฤดูกาลนี้ จนฟอร์มดี ทะลุไปติดทีมชาติฝรั่งเศสเรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่ทำให้แฟนซิตี้เตะตา และมีชื่อโผล่เข้ามาอยู่ในวงสนทนาหาตัวแทนแฟร์นันดินโญ่บ่อยครั้ง ก็คือการโชว์ฟอร์มของเอ็นดอมเบเล่ ที่เล่นได้เด่นในทั้ง 2 นัดที่ต้องเจอกับซิตี้ในรอบแบ่งกลุ่มของแชมป์เปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ โดยซิตี้เก็บได้แค่เพียง 1 จาก 6 แต้มเต็ม จากโอแอลเท่านั้น

โธมัส ปาเตย์

กองกลางเชิงรับทีมชาติกาน่าของแอต.มาดริดรายนี้ ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ยังวัยรุ่น เคยถูกส่งไปยืมตัวที่อัลเมเรีย สมัยเดียวกับที่ธีรศิลป์ แดงดาย้ายไปค้าแข้งในแดนกระทิงดุด้วย ปัจจุบันอายุกำลังดี 25 ปี ถือเป็นขาประจำที่ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ชอบเลือกใช้ หากต้องการความแข็งแกร่งตรงกลาง

นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว จุดเด่นสำคัญของโธมัส คือสามารถผันตัวเองไปเล่นสูงขึ้นจนเป็นสไตล์บ๊อกซ์-ทู-บ๊อกซ์ได้ จังหวะจบสกอร์ก็พอไปวัดไปวาได้ จะติดก็อยู่แค่การชอบครองบอลไว้กับตัวนานเกินไป คงต้องการเวลาปรับตัวพอสมควร หากจะต้องย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก ที่ความเร็วโหดร้ายกว่าลีกสเปนมาก

Picture : Manchester Evening News, The Independent, FourFourTwo, City Watch, 90Min, The Boot Room, FC Barcelona Noticias, Royal Blue Mersey, Goal.com