กลายเป็นข่าวเซอรไพรส์เล็กๆ กับการกลับมารับงานคุมทีม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด อีกครั้ง หลังจากออกจากตำแหน่งนี้ไปเพียง 10 เดือน โดยเขาถือเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 3 ของมาดริดในฤดูกาลนี้ ต่อจากฆูเลน โลเปเตกี และซานติอาโก้ โซลารี่ ที่ล้มเหลวในการพาทีมไปอยู่ในฟอร์มที่ควรเป็น โดยเฉพาะโซลารี่ ที่เจอ “6 วันเลวร้ายแห่งประวัติศาสตร์” แพ้บาร์เซโลน่าคาบ้าน 2 นัดติด ตกรอบโคปา เดล เรย์ และปิดโอกาสลุ้นแชมป์ลาลีก้า ต่อด้วยแพ้ช็อคยับเยินในบ้านต่ออาแย็กซ์ ตกรอบยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ที่มาดริดเป็นแชมป์มาติดกัน 3 สมัย อย่างพลิกความคาดหมาย
การกลับมาของซีดานหนนี้ เปรียบดั่งเหมือนการได้กลับมาบ้านตามที่เจ้าตัวบอก พร้อมกับยืนยันว่าเขาได้พักชาร์จแบตเตอร์รี่พร้อมแล้ว ที่จะกลับมาคุมทีมที่ยิ่งใหญ่นี้อีกครั้ง โดยเขาเซ็นสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2022 พร้อมกับมีข่าวแว่วๆ มาว่า ซิซูจะได้สิทธิ์ขาดในการซื้อ-ขายตัวผู้เล่น ที่ว่ากันว่าเป็นประเด็นสำคัญที่มีปัญหากับฟลอเรนติโน่ เปเรซ และทำให้เขาลาจากทีมไปเมื่อ 10 เดือนก่อน
พูดถึงหน่อยนึง ถึงเรื่องแคนดิเดตที่จะเข้ามาคุมทีมราชันชุดขาวก่อนหน้านี้ ในช่วงต้น สื่อไม่ได้พูดถึงชื่อของซีดานเท่าไหร่นัก เพราะไม่เชื่อว่าเขาจะกลับมาคุมทีมอีกครั้งหลังจากออกไปยังไม่ถึงปี โดยกระแสของซีดานจะไปโยงกับเชลซี หรือยูเวนตุส เสียมากกว่า ชื่อกุนซือคนใหม่ของมาดริด จึงพุ่งเป้าไปที่โชเซ่ มูรินโญ่ คนคุ้นเคยอีกราย ซึ่งว่ากันว่าเปเรซอยากนำจ่ามูกลับมา แต่ไม่สามารถโน้มน้าวบอร์ดบริหารของทีมได้ เนื่องจากบอร์ดส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่ามูรินโญ่คือคนที่ใช่ ที่จะพาทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้ จนสุดท้ายชื่อของซีดานก็เริ่มชัดเจนขึ้น และถูกประกาศอย่างรวดเร็ว หลังทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าโซลารี่ถูกปลดในทางทฤษฎีไปเรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่เสียงนกหวีดใน UCL ปีนี้ของมาดริดหมดลง
เอาล่ะ! กลับมาพูดถึงการกลับมาของซิซูกันดีกว่า แน่นอนว่าการจะพาราชันชุดขาวกลับไปทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซเหมือนที่เขาเคยทำมาคงไม่ง่าย ดังนั้น ลองมาดูกันว่าจะมีประเด็นอะไรน่าสนใจให้ได้จับตาบ้าง
สิทธิ์ขาดในการซื้อ-ขาย ตัวผู้เล่น
อย่างที่บอกไป นี่เป็นประเด็นที่ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ว่าเป็นสิ่งที่ซีดานขัดแย้งกับเปเรซ จึงตัดสินใจลาทีมไป บางสื่อก็ลงลึกไปอีกว่าซีดานไม่ต้องการให้ทีมปล่อยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แนวรุกคนสำคัญออกไป แต่เปเรซก็ยังจะปล่อยไป โดยคิดว่าแกเร็ธ เบล คือคนที่จะสามารถทดแทนพี่โด้ได้ ซึ่งหากหนนี้เปเรซยอมให้ซีดานมีสิทธิ์ขาดจริง เราอาจจะได้เห็นมหกรรมการทุ่มทุนครั้งใหญ่ ในตลาดซัมเมอร์ที่จะถึงนี้
แน่นอนว่าพี่โด้เขาไปดินแดนรองเท้าบู๊ตแล้ว ซีดานก็คงต้องมาวิเคราะห์กองกำลังที่เหลืออยู่กันดีกว่า แกเร็ธ เบลนี่น่าห่วงมาก เพราะผลงานปีนี้ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร มีโอกาสไม่น้อยที่ซีดานจะปล่อยตัวเขาออกไป และเสริมแนวรุกคนอื่นที่ดูมีชาติตระกูลเข้ามา คนที่ถูกพูดถึงที่สุดหนีไม่พ้นเอด็อง อาซาร์ นักเตะที่เคยมีข่าวว่าซีดานยื่นคำขาดกับโรมัน อบราโมวิช ว่าจะต้องรั้งตัวไว้ให้ได้ หากจะให้เขารับงานคุมเชลซี
นอกเหนือจากอาซาร์แล้ว น่าจะมีแนวรุกเข้ามาเพิ่มอีก หนึ่งคือทดแทนความโรยราของคาริม เบนเซม่า สองคือการหาอะไหล่สำคัญในแกนรุก หลังซีซั่นนี้ราชันชุดขาวต้องฝากความหวังไว้กับเด็กอย่างจูเนียร์ วินิซิอุส ส่วนการดึงศิษย์เก่าอย่างมาเรียโน่ ดิอ๊าซ ก็ไม่ตอบโจทย์อะไรเลย พี่แกใส่เบอร์ 7 ของพี่โด้ ลงสนามไป 14 นัด แต่ยิงประตูไปแค่ 2 เม็ด
อีกหนึ่งตำแหน่งที่น่าสนใจคือเมื่อซีดานกลับมา เขาจะกลับมาใช้งานอิสโก้อีกครั้งมั้ย หลังจากฤดูกาลนี้อิสโก้เหมือนโดนดอง แทบหาโอกาสลงเล่นไม่ได้ ซึ่งแตกต่างกับสมัยที่ซีดานคุมทีมอยู่ ที่เพลย์เมกเกอร์เลือดกระทิงดุรายนี้เป็นตัวหลักเสมอ
ส่วนในแนวรับ และผู้รักษาประตู เซร์คิโอ รามอสก็เริ่มอายุมากขึ้น และดูจะมีปัญหาต่างๆ รุมเร้าเข้ามาทั้งในและนอกสนาม เช่นเดียวกันกับติโบต์ กูร์ตัวส์ ที่ถูกเพ่งเล็งโจมตีอยู่บ่อยๆ ซีดานจะจัดระเบียบจุดนี้ยังไง เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าจะมีใครออก-ใครเข้าหรือไม่
ระเบียบวินัย และความเชื่อมั่น
ว่ากันว่าก่อนที่โซลารี่จะถูกเด้งออกจากตำแหน่ง ห้องแต่งตัวของมาดริดวุ่นวาย และบรรยากาศมาคุมาก นักเตะที่โดนดองเพราะมีปัญหาระเบียบวินัย และความมุ่งมั่นกับกุนซือคนก่อนอย่างอิสโก้ ก็เรื่องนึงแล้ว ตอนหลังยังมีปัญหาที่ไม่ค่อยลงรอยกันระหว่างกัปตันทีมอย่างรามอส กับเปเรซ จนส่งผลกระทบไปถึงเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ สิ่งเหล่านี้แน่นอนว่าคงจะไม่ได้ดีขึ้นเองในพริบตา และต้องการให้ซีดานเข้ามาเคลียร์ปัญหา
แน่นอนว่าหลายคนต่างสงสัยในเรื่องการไม่ลงมาก้าวก่ายของเปเรซ นอกเหนือจากเรื่องการซื้อ-ขายตัวแล้ว เรื่องความสัมพันธ์กับนักเตะ และเรื่องเลือกที่รักมักที่ชัง แฟนๆ ของราชันชุดขาวก็หวังว่าเปเรซจะให้สิทธิ์เต็มกับซีดานด้วยเช่นกัน เพราะนอกเหนือจากผลงานของโซลารี่จะทนให้อยู่ต่อไม่ไหวแล้ว การตั้งซีดานเร่งด่วนขณะมีเวลาช่วงท้ายซัก 10 นัดให้เขาได้คุมทีมในฤดูกาลนี้นั้น ส่วนนึงก็มาจากการที่สโมสรอยากให้ซีดานได้ดูนักเตะในทุกแง่มุม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมทีมในซีซั่นถัดไปนั่นเอง
รูปแบบการเล่นที่คาดหวัง
ขึ้นชื่อทีมยักษ์ใหญ่อย่างเรอัล มาดริดแล้ว รูปแบบการเล่นที่สนุก เน้นเกมรุกเป็นหลัก ย่อมถูกคาดหมายจากแฟนๆ เป็นธรรมดา ถัดจากการจัดการเรื่องหลังบ้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทีมแล้ว การจัดระบบระเบียบรูปแบบการเล่นก็เป็นปัจจัยที่ถูกคาดหวังไว้สูง ว่าเราจะได้กลับไปเห็นเกมที่ไหลลื่น และยิงประตูเป็นกอบเป็นกำอีกครั้งในฤดูกาลหน้า เพราะผลงานการทำประตูฤดูกาลนี้เลวร้ายมาก!
โดยฤดูกาลนี้ในลาลีก้า ผ่านไป 27 นัด (เหลืออีก 11 นัด) มาดริดทำประตูได้แค่ 47 ลูก หากยังไม่กลับมาเปรี้ยงปร้าง มีโอกาสสูงมากที่ทีมจะทำสถิติยิงประตูได้น้อยที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของทีม โดยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ฤดูกาลที่ทำประตูได้น้อยที่สุดคือซีซั่น 2006/07 ในยุคฟาบิโอ คาเปลโล่ ที่ทำได้เพียง 66 ประตู (ก็ยังดีกว่าตอนนี้ 19 ลูกแน่ะ) แต่ต่างกันตรงที่ปีนั้นคาเปลโล่พาทีมเป็นแชมป์ด้วยการเฉือนบาร์ซ่าด้วยสถิติเฮด-ทู-เฮดดีกว่า หลังแต้มเท่ากัน
น่าสนใจว่าซีดานจะใช้วิธีไหนในการพลิกฟื้นรูปแบบการเล่นของทีม เพราะตอนนี้เกินเยียวยาจริงๆ ดาวซัลโวในลีกมีเพียงคาริม เบนเซม่า ที่ทำได้เกิน 10 ประตู (ทำไป 14 ลูก) แถมดาวซัลโวของทีมในลีกอันดับ 3 คือรามอส (6 ประตู) และอันดับ 4 คือมิดฟิลด์ตัวรับอย่างคาเซมิโร่ (3 ประตู) ใครว่าขาดโรนัลโด้ไม่เป็นไร!?
ถ้วยรางวัล และการต่อกรกับบาร์ซ่า
ในช่วงที่ซีดานคุมมาดริดอยู๋ตลอดช่วง 3 ฤดูกาล แน่นอนว่าเขาคือคนที่ทำให้ราชันชุดขาวคว้า UCL แบบ 3 ปีติด แถมยังมีแชมป์ลาลีก้าอีก 1 สมัย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่คว้าผ่านมาแล้ว ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความคาดหวังในระดับสูงในช่วง 2-3 ปีที่จะถึงนี้
แน่นอนว่าการต่อกรกับคู่ปรับสำคัญอย่างบาร์เซโลน่าในศึกลาลีก้าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฤดูกาลที่แล้วของซีดาน ทีมก็จบแค่เพียงอันดับ 3 เป็นรองทั้งบาร์ซ่า และคู่แข่งร่วมเมืองอย่างแอต.มาดริด ในฤดูกาลความท้าทายของซีดานย่อมอยู่ที่การทำผลงานให้ได้ดีพอจะต่อกรกับ 2 ทีมชั้นนำนี้ให้ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าผลงาน UCL ของทีมจะยังยอดเยี่ยมเหมือนครั้งก่อนที่ซีดานคุมหรือเปล่า หากจบฤดูกาลมือเปล่า จะทำดีมาแค่ไหน ความกดดันย่อมตามมาทันทีแน่นอน
ต้องจับตามองกันต่อไป ว่าการกลับมาขึ้นบัลลังก์ราชันของซีดานหนนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน มาดริดที่ไม่มีโรนัลโด้เหมือนเดิม มาดริดที่นักเตะแกนหลักของทีมเริ่มโรยราลง และมาดริดที่ไม่ได้ทุ่มซื้อนักเตะระดับ “กาลาคติกอส” มานานพอดู หลังจากนี้ในมือของอดีตจอมทัพเลือดน้ำหอมเป็นคำรบที่สอง จะงดงามเหมือนท่วงท่า “ซีดานเทิร์น” หรือไม่? รอพิสูจน์กัน
Picture : 90Min, Sky Sports, Goal.com, Football.London, beIN SPORTS, Business Insider, Eurosport Asia