3 ปีที่ผ่านมา ซน ฮึง มิน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ของ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างไรบ้าง นั่นคือคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมทุกวันนี้แข้งชาวเอเชีย จึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของทัพ “ไก่เดือยทอง” ร่วมกับ เดเล อัลลี, แฮร์รี่ เคน และคริสเตียน อิริคเซ่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ย้อนไปเมื่อซัมเมอร์ปี 2015 ซอง ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในบุนเดสลีกา เยอรมัน มาร่วมทีม สเปอร์ส ด้วยค่าตัวสูงถึง 27 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป วัฒนธรรมที่ไม่เหมือนเดิม มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มต้นอาชีพของเขาในอังกฤษ หลังจากได้ลงสัมผัสเกมแรกในเมืองผู้ดี ซอง รู้ดีว่ามันเป็นงานที่ยากลำบากสำหรับตัวเอง ดาวเตะวัย 26 ปี เริ่มรู้สึกท้อแท้จากความล้มเหลวในการปรับตัวกับชีวิตใหม่ เขามีความคิดจะกลับไปเล่นในเยอรมันที่ที่คุ้นเคย หลังย้ายมาค้าแข้งกับ สเปอร์ส ได้เพียง 10 เดือน เท่านั้น

แน่นอน เรื่องฝีเท้าของเขาไม่เป็นที่สงสัย หัวหอก “โสมขาว” เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมยามที่มีลูกบอลอยู่กับเท้า แต่ เมาริซิโอ โปเชตติโน ผู้จัดการทีม สเปอร์ส อ่านขาด และมองเห็นว่าข้อบกพร่องของเขานั้นคือเรื่องการป้องกัน

การวิจารณ์เริ่มมีมากขึ้น บางคนบอกว่า ซน ไม่เหมาะกับฟุตบอลอังกฤษ ไม่เหมือนกับนักเตะเอเชียคนอื่นๆอย่าง ปาร์ค จี ซอง อดีตกองกลาง ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และชินจิ โอกาซากิ ดาวยิง เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งปรับตัวได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม โปเชตติโน ยังคงเชื่อใจเขา และค่อยๆขัดเกลาข้อบกพร่อง พร้อมทั้งมอบโอกาสลงสนามให้กับ ซน อย่างต่อเนื่อง และเขาก็ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวัง หลังจากปรับตัวได้แล้ว อดีตกองหน้า เลเวอร์คูเซ่น ซัดให้ทัพ “ไก่เดือยทอง” ไปแล้ว 30 ประตู รวมทุกรายการ

ซอง แสดงให้เห็นแล้วว่า พร้อมจะสู้ในการปรับตัวให้เข้าสไตล์บอลอังกฤษ  เขาตอบโต้เสียงวิจารณ์ด้วยผลงานในสนาม ไม่เพียงแต่เกมรุกเท่านั้น แต่เขายังมีส่วนสำคัญในการช่วย สเปอร์ส เล่นเกมรับตั้งแต่ปากประตูคู่แข่ง

ในฐานะนักฟุตบอลระดับท็อปของเอเชีย ซอง ยังเป็นสิ่งแปลกใหม่ แม้ว่าผู้เล่นบางคนมีต้นกำเนิดมาจากทวีปเอเชียเช่นเดียวกัน แต่ก็มีน้อยคนนักที่มีชื่อเสียงดังเป็นพลุแตกเช่นเขา สื่อมวลชนแดนโสมขาวยกให้ กองหน้า สเปอร์ส เปรียบเสมือน “สมบัติของชาติ” เลยทีเดียว

ซน เป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน และรักครอบครัว แต่การปรับสมดุลทางสถานะที่ตัวเขาเป็นผู้มีชื่อเสียงในท้องถิ่นนั้น ถือเป็นความท้าทายทางจิตที่เห็นได้ชัดว่า เขาต้องหาทางรับมือ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้เป็นอย่างดี

เห็นได้ชัดว่าการเป็นนักฟุตบอลชาวเอเชียในพรีเมียร์ลีก มักได้รับการพิจารณาว่า เป็นไอคอนฟุตบอลของเอเชีย และการไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดแรก คุณก็จะต้องพยายามให้หนักกว่าคนอื่นๆ ทุกวันนี้ ซอง ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของเด็กชาวเกาหลีใต้อีกหลายพันคน

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซน ได้กลายเป็นกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ เรียบร้อยแล้ว และที่ สเปอร์ส เขาก็กลายเป็นนักเตะซีเนียร์ในทีม นั่นทำให้เจ้าตัวต้องแสดงความรับผิดชอบมากขึ้นในฐานะผู้เล่นอาวุโสกว่าบรรดาดาวรุ่งที่กำลังก้าวขึ้นมา

ซน ได้เติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ และถูกยกย่องว่าเป็นผู้เล่นระดับสูงที่ได้รับการยอมรับในอังกฤษเขาคว้าเหรียญทองร่วมกับเกาหลีใต้ในศึกเอเชียนเกมส์ ถือเป็นความสำเร็จที่สวยงามในชีวิตนักฟุตบอล

ในอนาคต เชื่อว่า “ไก่เดือยทอง” ภายใต้การนำทัพของ โปเชตติโน่ นั้น ซน จะยังเป็นส่วนสำคัญในแนวรุกของทีมร่วมกับ เคน, อัลลี่ และอิริคเซ่น ในการไล่ล่าความสำเร็จมาประดับตู้โชว์ในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ต่อไป

Text – Che Navapun

Photo –  101greatgoals.com, football365.com, 90min.com, dnaindia.com, iol.co.za