จุดเจ็บ!!...รู้ไว้ สักตรงไหนเจ็บมาก...เจ็บน้อย - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
จุดเจ็บ!!…รู้ไว้ สักตรงไหนเจ็บมาก…เจ็บน้อย

“No Pain, No Gain.” ไม่เจ็บปวด…ไม่ได้รับชัยชนะ”

มันฟังดูสร้างความหึกเหิมได้ไม่น้อย แต่หลายคนก็มีความเชื่อแบบนั้น โดยเฉพาะในบรรดาผู้ที่หลงใหลในรอยสัก ที่เชื่อว่าอาการปวดเป็นสิ่งจำเป็นในการสัก หลายคนรู้สึกว่าเจ็บปวดมันเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่น และประสบการณ์ในการสัก

แต่บางคนก็ไม่อยากได้รับความเจ็บปวด และไม่กล้าหาญพอที่จะยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าในการสัก แต่ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความเจ็บปวดก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..

รอยสักทำให้เจ็บได้แค่ไหน?

รอยสัก กับความเจ็บ คุณต้องเข้าใจก่อนว่า การสักคือการที่ช่างกำลังเจาะซ้ำด้วยเข็ม แต่จะเจ็บเท่าไหร่นั้น มันก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน และมันก็มีปัจจัยบางอย่างที่ส่งผลต่อความทนทานต่อการสักของคุณ นั่นก็คือ

  1. ความไวของผิวหนัง
  2. endorphins
  3. ที่ตั้ง หรือ ตำแหน่งในการสัก

ความไวของผิวหนัง และอาการปวดจากรอยสัก

ไม่ต้องประหลาดใจเลยว่า ผิวของคุณมีความอ่อนไหวมากขึ้นเท่าไหร่ รอยสักจะเจ็บมากขึ้นเท่านั้น บางคนที่มีผิวบอบบาง ไวต่อสัมผัส ควรจะต้องได้รับรอยสักในช่วงเวลาน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือจะแบ่งมันออกเป็นช่วงสั้นๆ หลายครั้ง เพื่อที่อาการปวดจะไม่รุนแรงเกินไป

โปรดจำไว้ว่าการเข้ารับการสักแต่ละครั้ง ควรคำนึงถึงความอดทนเท่าที่คุณทนไหว หากคุณเข้าถึงเกณฑ์ความเจ็บปวดของคุณอย่างที่สุดแล้ว คุณสามารถหยุดพักหรือจบเซสชันเพื่อกลับมาวันอื่นได้ อย่าดันทุรังทั้งๆที่ทนไม่ไหว!!

เอ็นโดรฟิน : ปวดเพื่อความสุข

คุณมักจะได้ยินเกี่ยวกับการตื่นเต้น ท้าทายจากการสักเป็นเรื่องปกติสำหรับร่างกายที่จะปล่อย endorphins เพื่อตอบสนองต่อความเจ็บปวดในการสักร่างกายของคุณปล่อยสาร endorphins จำนวนมาก ที่มองไม่เห็นเอ็นโดรฟินจะสามารถทำให้การสักเป็นประสบการณ์ที่น่าพอใจ

ตำแหน่งที่สัก

ตำแหน่งของรอยสักของคุณ มีบทบาทสำคัญในการที่จะรู้สึกเจ็บปวดมาก เพราะ เส้นประสาท, ต่อม, หลอดเลือดแดง และหลอดเลือดดำ ที่มีผลต่อความเจ็บปวดมากขึ้นในการสัก ข้อต่อ หรือที่ใดก็ตามที่กระดูกอยู่ใกล้ผิว จะเจ็บปวดมากขึ้น และบางคนอาจไม่ชอบความรู้สึกเวลาที่เข็มแตะที่กระดูก

บริเวณที่มีไขมันส่วนเกินกล้ามเนื้อ มักจะเจ็บปวดน้อยลง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้มีช่องว่างระหว่างเข็ม และกระดูกมากขึ้น และทำให้เข้าถึงเส้นประสาทน้อยลง

สักตำแหน่งใดที่เจ็บปวดที่สุด

คุณกำลังมองหาตำแหน่งปลอดเจ็บ เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดบอกได้เลยว่าไม่มี เจ็บทุกที แต่ขึ้นอยู่ว่าจะเจ็บมาก หรือเจ็บน้อยเท่านั้นเอง แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดคุณก็คงต้องการทราบตำแหน่งที่เจ็บปวดที่สุดในการรับรอยสักงั้นเรามาดูกันว่ามีตำแหน่งใดบ้างที่จี๊ดสุด

1. ข้อเท้า / เท้า

ข้อเท้า และเท้า เป็นเรื่องปกติที่คนจะนึกถึงบริเวณนี้เป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นเรื่องง่ายที่จะปกปิดรอยสักสำหรับการทำงาน แต่อย่างไรก็ตามตำแหน่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่ ที่เจ็บปวดได้มากพอสมควร เนื่องจากกระดูกมีส่วนพอดีกับผิวหนัง รอยสักเล็กๆ จึงเป็นที่นิยมสำหรับบริเวณข้อเท้า และรอยสักที่เล็กกว่าโดยทั่วไป ทำให้ลดความเจ็บ หรือย่นระยะความเจ็บให้เร็วขึ้น เนื่องจากมีเวลาน้อยกว่าที่ต้องใช้เวลาเจาะเข็มภายใต้ผิวของคุณ

2. ข้อมือ

รอยสักบนข้อมือ อาจมีความเจ็บปวดได้ไม่น้อย เพราะมีกล้ามเนื้อหรือไขมันน้อยมากเพื่อป้องกันกระดูก ไหนจะใกล้เคียงกับเส้นทางหลอดเลือดดำ และหลอดเลือดแดง มีการสัมผัสกับข้อมือภายใน นี่คือตำแหน่งที่ที่รอยสักขนาดเล็กเป็นที่นิยมในส่วนหนึ่ง เนื่องจากมีพื้นที่ จำกัด

3. สันอก และซี่โครง

รอยสักบนหน้าอก และซี่โครง เป็นตำแหน่งที่ดูดี และรูปลักษณ์อันเย้ายวนใจก็รู้สึกได้ แต่บริเวณเหล่านี้เป็นพื้นที่ที่เจ็บปวดสำหรับการสัก และส่วนใหญ่ก็มักเลือกใช้ลวดลายใหญ่ๆ แต่ซี่โครงมีความบางของผิวหนัง และเส้นประสาทที่นี่ยังอยู่ใกล้กับชั้นผิว นอกจากนี้หน้าอก และซี่โครงยังเป็นจุดที่มีการเคลื่อนไหวขณะที่คุณหายใจการเคลื่อนไหวนี้ทำให้รอยสักเจ็บปวดมากขึ้น รวมไปถึงบริเวณกระดูกสันอก คนที่เคยสักบริเวณนี้บอกว่า มันเจ็บเหมือนเอามีดกรีดเลยทีเดียว

4. นิ้วมือ และมือ

ผิวหนังบนนิ้วมือ และมือของคุณมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษนอกจากนี้ผิวมีความบางและอ่อนไหว และเป็นบริเวณที่ติดกับกระดูก และเต็มไปด้วยเส้นเอ็นการจะทำลวดลายบนมือให้ดูสวยงามนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังเจ็บมากด้วย ยิ่งถ้าใครคิดจะไปสักตรงฝ่ามือด้วยแล้วล่ะก็บอกเลยนะว่าเจ็บมาก นอกจากนี้ผู้เชียวชาญด้านการสักยังกล่าวไว้ว่า “หมึกสักไม่ยึดติดกับผิวบริเวณมือและผิวนิ้วได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับส่วนอื่นๆของร่างกายเป็นผลให้ช่างสักอาจจะต้องทำซ้ำตรงพื้นที่เดียวกันหลายครั้ง ” Fredrik กล่าว

ส่วนปลายนิ้วเป็นตำแหน่งที่เจ็บปวดมากที่สุดแห่งหนึ่งในร่างกาย เพราะมันเป็นปลายประสาทของการรับรู้ โชคดีที่มันไม่ใช่สถานที่ธรรมดาสำหรับการสัก และไม่ได้รับความนิยม

5. ด้านในของข้อศอก

จากประสบการณ์ของ Fredrik รอยสักที่นี่”เจ็บเหมือนนรก” ทำไมน่ะหรือ? “สองในสามเส้นประสาทหลักในแขนขวาภายใต้ข้อศอกด้านในทำให้มีความไวต่อการสัมผัสสูง”ผู้ก่อตั้ง Inkbay อธิบายว่า”เมื่อไหร่ที่เส้นประสาทถูกบีบให้แน่น ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดวิ่งผ่านแขน ไม่ใช่เพียงแค่บริเวณที่เข็มเจาะลงไปเท่านั้น”เขากล่าว

ดังนั้นด้านในของข้อต่อเป็นสถานที่ที่ละเอียดอ่อนในการรับรอยสัก เนื่องจากร่างกายของคุณถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องพื้นที่เหล่านี้โดยธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อปลายประสาทเหล่านี้เกิดขึ้น คุณจะรู้สึกวิ่งพล่านไปทั่วแขน และทั้งตัว เป็นผลให้บริเวณนี้มีความสำคัญและเสี่ยงต่อความอดทนของคุณมากขึ้น แต่ก็มีส่วนน้อยเหมือนกันที่บอกว่า ทนได้ ไม่ถือว่าหนักเท่าไหร่

6. รักแร้

หลายคนคงคิดว่า ใครจะบ้าสักตรงบริเวณนี้ แต่คุณรู้ไหมว่า ตำแหน่งรักแร้นี่แหละเป็นจุดเจ็บที่ไม่น้อย แต่ถึงแม้ว่ามันเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้รับความนิยมรอยสัก แต่ผู้ที่เป็นผู้ก่อตั้งตลาดการสักกล่าวว่า “เพราะเส้นประสาทที่ติดกับสะโพก อยู่ที่นี่เช่นเดียวกับต่อมและผิวหนังรอบ ๆ ทำให้รักแร้มีความอ่อนไหวอย่างมาก”

7. ศรีษะ และใบหน้า

ศีรษะโดยเฉพาะที่หน้าผากอาจเป็นสถานที่ที่เจ็บปวดที่สุดในการสักเพราะหน้าผากเป็นสถานที่เดียวในร่างกายที่มีความอ่อนไหวต่อความเจ็บปวด และกะโหลกศีรษะอยู่ใกล้ผิวทั่วศีรษะจุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญบอกคำเดียวเลยว่า ถ้าไม่อึดจริง ๆ อย่าทำเชียว

และที่สำคัญคือ ไม่ควรลืมเสียง และการสั่นสะเทือนจากปืนสัก อาจจะมากขึ้นสำหรับรอยสักบนหัว คนส่วนใหญ่พบว่าความรู้สึกเหล่านี้ไม่เป็นที่พอใจ และเป็นที่อันตรายมากๆ

ตำแหน่งรอยสักใดที่เจ็บปวดน้อยที่สุด

บอกไว้ก่อนเลยว่าไม่มี 100% กับตำแหน่งที่ปราศจากความเจ็บปวด แต่ก็มีบางตำแหน่งที่เจ็บปวดน้อยกว่าบริเวณอื่นๆ อย่างเช่นบริเวณที่มีไขมันกล้ามเนื้อที่หนา มักจะเจ็บปวดน้อยลง อย่างเช่นรอยสักด้านนอกของแขน และขามีความเจ็บปวดมากกว่าด้านใน

บริเวณภายนอกมีการเปิดรับมากขึ้น เพราะผิวมีความแกร่ง และมีความอ่อนไหวน้อยกว่า ร่างกายของคุณได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันบริเวณที่บอบบาง เช่นเส้นประสาท และเส้นเลือด ด้านหลังของหูสัก

1. หลังใบหู หรือ ด้านหลังต้นคอ

เราเพิ่งพูดถึงรอยสักที่เจ็บปวดที่สุด ด้วยรอยสักที่หัว แต่ด้านหลังของหูเป็นข้อยกเว้น บริเวณนี้ไม่มีปลายประสาททำให้เป็นสถานที่ที่เจ็บปวดในการสัก รวมถึงความสะดวกในการซ่อนรอยสักนี้ได้ ทำให้มันเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้หญิง เพราะสามารถใช้ผมของคุณลงมาปิดได้

2. แผ่นหลัง

ส่วนใหญ่ในกลุ่มผู้ชายต้องการรอยสักขนาดใหญ่แต่มีความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวด? ด้านหลังส่วนบนเป็นผ้าใบขนาดใหญ่ชั้นดีที่มีความรู้สึกไวต่อความเจ็บน้อยกว่าส่วนอื่นๆของร่างกาย แต่มีข้อยกเว้นของกระดูกสันหลังคือกระดูกสันหลังมีความหนาแน่นของเส้นประสาทที่มากขึ้น จึงอาจต้องระวังตรงจุดนี้

3.ไหล่ด้านนอก

ไหล่ด้านนอกเป็นสถานที่ทั่วไปที่นิยม สำหรับผู้ที่ได้รับรอยสักครั้งแรกถือว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เจ็บปวดน้อยหน่อย เนื่องจากมีปลายประสาทเพียงเล็กน้อยในบริเวณนี้และมีเนื้อที่เพียงพอที่จะรองรับการกระแทกเข็มดังนั้นบริเวณด้านนอกของแขนโดยเฉพาะที่แขนส่วนบน และไหล่ด้านนอก จึงเป็นที่นิยมในการสัก

และรอยสักแบบเต็มแขนเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ที่พยายามที่จะลดอาการปวด ในขณะที่ยังสร้างรูปลักษณ์ที่น่าทึ่ง

4. ต้นขา ต้นขาด้านใน และเข่า

ต้นขาเป็นบริเวณที่มีเนื้อแน่น เพื่อลดอาการปวดดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในการสัก แต่ในขณะเดียวกัน เพื่อจุดประสงค์นี้ ต้นขาด้านในกลับไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะต้นขาด้านใน มักจะต้องถูกับบริเวณอื่นๆ ซึ่งทำให้กระบวนการรักษารอยสักเจ็บปวดมากขึ้น

5. แก้มก้น

ใครคิดจะสักบริเวณนี้ควรคิดให้รอบคอบ คุณต้องรู้สึกเจ็บแน่นอน และที่สำคัญคือ ต้องนึกถึงการที่คุณจะไม่สามารถนั่งได้ไปอีกนาน การเอาเบาะมารองนั่ง ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเสียด้วยสิ

6. น่อง

ที่ใดก็ตามในบริเวณเหนือข้อเท้า และใต้เข่าเป็นสถานที่ที่ดีในการได้รับรอยสักโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเลือกด้านข้างของกล้ามเนื้อน่องห่างจากกระดูกหน้าแข้ง”เพราะไม่มีปลายประสาทมากในบริเวณนี้ แต่เมื่อคุณเลือกสักที่ด้านหลังของบริเวณน่อง ที่อยู่ใกล้กับด้านหลังของเข่าก็จะกลายเป็นความเจ็บปวดมากขึ้น

และนี่ก็เป็นบริเวณจุดเจ็บต่างๆ ที่คุณควรรู้ ก่อนที่คิดจะสัก และถ้าหากว่าคุณอยากมีรอยสักบนเรือนร่าง สิ่งเลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับการสักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือความเจ็บปวดทั้งในระหว่างที่สัก และหลังจากการสักนั่นเอง ซึ่งอาการเจ็บปวดเหล่านี้ มันก็ขึ้นอยู่กับความอดทน และร่างกายของแต่ละคน

หากคุณวางแผนที่จะสัก คุณอาจจะต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับตำแหน่งที่คุณต้องการสร้างลวดลาย สำหรับคนส่วนใหญ่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ แต่ก็คุ้มค่าที่จะผ่านความเจ็บปวดที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนนักดื่มและนักเล่า มันเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่ง เมื่อพูดถึงความทุกข์ทรมานที่คุณสามารถจัดการได้

Sharry

Writer, Project Editor, Photographer

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save