เคยสะสมของกันบ้างไหมครับ?
เชื่อว่าคนเราต้องมีของที่ชอบอยากเก็บ หรืออยากสะสมไว้อย่างน้อยๆ หนึ่งชนิดในชีวิตอย่างเช่นผมเองชอบเดินทางท่องเที่ยว ทุกๆ ปีผมจะซื้อคู่มือแต่ละจังหวัด และแผนที่ประเทศไทยเก็บไว้ เพื่ออัพเดทข้อมูล และเส้นทางต่างๆ พอนานวันเข้าของเหล่านี้ได้กลายเป็นพัฒนาการ และการเปลี่ยนแปลงที่เราสามารถย้อนดูได้ทุกเวลาว่าเส้นทางไหนเพิ่มขึ้น? จังหวัดไหนเพิ่มขึ้น? ที่เที่ยวไหนน่าสนใจ? แค่เรื่องนี้อย่างเดียวก็แทบดูไม่หมดครับไม่ต้องพูดถึงที่เก็บนะ…แทบจะเต็มบ้านแล้ว
แต่กับบางคนมองเห็นทุกอย่างเป็นของสะสมครับแต่ละชิ้นที่เก็บคือคุณค่าที่ไม่ใช่แค่วันนี้แต่มองไปถึงอนาคตที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้ ค่อยๆ เก็บทุกวัน ทุกๆ สถานที่ และทุกๆ ครั้งที่มีโอกาส รู้สึกตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปนานนับสิบๆ ปี แล้วของสะสมก็เพิ่มขึ้นนับแสนๆ ชิ้น จนต้องสร้างโกดังขนาดใหญ่เพื่อเก็บสิ่งที่เรียกว่า”ความสุขสะสม”ขึ้นมาโดยเฉพาะและคนที่ผมกำลังพูดถึงนี้คือ “เฮียเม้ง – ชัยโรจน์ เจริญทวีสิทธิ์” อดีตคนขายผ้าธรรมดาที่มีงานอดิเรกคือ “สะสมของทุกอย่าง” มานานกว่า 30 ปีแกเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในวิถีชีวิตคนไทยตั้งแต่ต้นยุครัตนโกสินทร์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
อย่างที่บอกไว้ครับว่าของสะสมนับแสนๆ ชิ้น หากเก็บไว้ในโกดังคงจะไม่มีคุณค่าอะไร “คุณกอล์ฟ – ธีรวัฒน์ เจริญทวีสิทธิ์” อดีตพนักงานการเงินการลงทุนและลูกชายคนเดียวของเฮียเม้ง แถมพ่วงด้วยดีกรีตำแหน่งแชมป์แฟนพันธุ์แท้ พิพิธภัณฑ์ไทย ปี 2018 จึงลุกขึ้นมาเนรมิตฝันของคุณพ่อ ด้วยการเปลี่ยนพื้นดินว่างเปล่ากว่า 1 ไร่เศษ ริมถนนใหญ่พุทธมณฑล สาย 2 จังหวัดนครปฐมให้กลายเป็นอาคารขนาดใหญ่สูง 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 1,800 ตารางเมตร รับรองว่าใครที่ผ่านมาผ่านไปจะต้องเห็นอย่างแน่นอน กับตึกสีเหลืองสดที่ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์สุขสะสม”
“นี่คือ Timelineประวัติศาสตร์ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่ายผ่านการดูของจริงๆ ที่คุณพ่อตั้งใจเก็บสะสมด้วยความสุขมาทั้งชีวิตผมแค่มีหน้าที่จัดของกว่าแสนชิ้นให้ดูเข้าใจง่ายขึ้นก็เท่านั้นเอง (หัวเราะ)” สิ้นประโยคนี้ที่พูดด้วยรอยยิ้มแห่งความภูมิใจคุณกอล์ฟก็พาผมเข้าไปในดินแดนที่เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนไป มีทั้งหมด 5 ส่วนครับ
ส่วนที่1 ของเล่นโบราณ : เพราะอยากให้คนเข้ามาที่นี่มีความสุขตั้งแต่แรกเห็นจึงจัดมุมของเล่นแบบนี้ไว้เพื่อต้อนรับในชั้นที่ 1 แล้วก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ ที่ได้เห็นของเล่นย้อนยุคมากมายกว่า3,000 ชิ้น คอนเฟิร์มว่ายังใช้การได้ดีทุกชิ้นครับ
ส่วนที่2 เครื่องใช้ในอดีต : เป็นอีกมุมของชั้น 1 ที่สะสมของหายากกว่า 50 ประเภท เราจะได้เห็นเครื่องพิมพ์ดีดเครื่องแรกของไทยโทรศัพท์สื่อสารเครื่องแรกของไทยถูกนำมาใช้ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าของทหารเรือเพื่อบอกจำนวนเรือที่เข้าออกในแต่ละวัน รวมถึงเตารีด ชามตราไก่ กุญแจแบบต่างๆ
ส่วนที่3 สิ่งพิมพ์โบราณ : บริเวณชั้น 2 นี้ มีหนังสือพิมพ์ฉบับแรกของไทยและยังมีล็อตเตอรี่ฉบับแรกของไทยที่มีต้นกำเนิดจากชาวอังกฤษใบซื้อขายตัวทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 และแผ่นป้ายโฆษณาต่างๆ ที่หาดูได้ยากมากครับ
ส่วนที่4 ของจิ๋วแจ๋ว : ชั้น 3 จะเป็นโซนที่รวบรวมอาชีพและวิถีชีวิตคนไทยในอดีตผ่านโมเดลขนาดเล็กที่จัดวางองค์ประกอบไว้อย่างสวยงามมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านโชห่วยตั้งแต่ยุคที่คนขายยังต้องหาบเร่ขายตามถนนรวมถึงร้านขายกระเพาะปลาด้วยครับ
ส่วนที่5 ตลาดเก่าย้อนยุค : อยู่บริเวณด้านหลังของอาคาร โดยจัดเป็นห้องๆเอาไว้เพื่อให้เห็นภาพในอดีตได้อย่างชัดเจน ทั้งห้องเรียนในยุค 80 โรงหนังกลางแปลง ร้านขายแผ่นเสียง ร้านขายยา รวมๆ แล้วมีมากกว่า 10 ร้านเลยครับ
ผมใช้เวลาอยู่ที่ “พิพิธภัณฑ์สุขสะสม” เกือบวันหนึ่งเต็มๆ ไม่ใช่เพราะข้าวของที่มากมายอย่างเดียวเท่านั้น แต่รู้สึกทึ่งกับความตั้งใจของเฮียเม้งและคุณกอล์ฟ พ่อลูกที่ร่วมกันสานความฝันจนกลายเป็น “ความสุขที่มีคุณค่า” ขึ้นมาได้ หากลองตีมูลค่าของที่อยู่ในที่แห่งนี้ รับรองได้ว่าสองคนนี้ใกล้เคียงกับคำว่ามหาเศรษฐีมากๆ ครับ
ใกล้แค่นี้ต้องมากันให้ได้ เพราะที่นี่คือ “ความสุขสะสมที่พร้อมหยอดกระปุกให้กับทุกคนได้ …อย่างมหาศาลจริงๆ”
FB : พิพิธภัณฑ์สุขสะสม Suksasom museum
#Museum #NuimNavigator #NakhonPathom #Thailand