ซีรีส์ที่ดีอีกเรื่องจาก Netflix ริเวอร์เดล (Riverdale) เป็นเรื่องของ “ริเวอร์เดล” ที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชานเมืองที่สงบสุข แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อเจสัน บลอสซัม เด็กหนุ่มและนักกีฬาของโรงเรียนถูกฆาตรกรรมอย่างปริศนา เพื่อนของเขา ทั้งอร์ชี่ เวโรนิก้า เบ็ตตี้และจั๊กเฮด จึงออกตามหาความจริง ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวก็มีการพัฒนา พร้อมความลับที่คนในริเวอร์เดลเก็บซ่อนไว้เริ่มถูกเปิดเผยอย่างช้าๆ

Riverdale เรื่องราวเริ่มต้นจากการตายปริศนาของเจสัน บลอสซั่ม ซึ่งในตอนแรกถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นคดีฆาตกรรม! ทั้งปริศนาใหม่ในเรื่องทั้งอดีตของตระกูลนี้ตัวละครนี้ รวมๆแล้ว riverdale จึงเป็นซีรีส์ที่น่าติดตามเรื่องหนึ่งเลย เพราะมันครบรสทั้งลึกลับซับซ้อน หักมุม ดราม่า อารมณ์ขันร้ายๆ และเต็มไปด้วยสีสันในเรื่องที่มาจากร้านป๊อปส์ ที่เป็นร้านประจำของเหล่า core four ทั้ง อาร์ชี่ เวโรนิก้า เบ็ตตี้และจั๊กเฮด รวมถึงนักเรียนคนอื่นๆใน riverdale high

และร้านนี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายต่างๆ ปมปริศนาคดีฆาตกรรมวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งคดีที่ว่าก็เต็มไปด้วยปมปริศนาที่ยิ่งสืบก็ยิ่งซับซ้อน ซึ่งผู้ชมต้องมาร่วมกันค้นหาคำตอบ

ในส่วนของตัวละครหลักก็มี อาร์ชี่ แอนดรูว์ส (K.J. Apa) หนุ่มผมแดงนิสัยดี และมองโลกในแง่ดี, เบ็ตตี้ คูเปอร์ (Lili Reinhart) สาวน้อยที่แอบชอบอาร์ชี่มานาน, เวโรนิก้า ลอดจ์ (Camila Mendes) คุณหนูไฮโซหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้าเมืองมา, จั๊กเฮด (Cole Sprouse) เด็กหนุ่มสุดติสแต่มีความช่างสังเกต และเควิน เคลเลอร์ (Casey Cott) เพื่อนซี้ของเบ็ตตี้

สไตล์เรื่องมันอาจจะมีกลิ่นอายของซีรี่ส์แนววัยรุ่นแบบ Pretty Little Liars, Gossip Girl แต่ผสมผสานกับความลึกลับแบบ Twin Peaks เบาๆ แต่จุดเด่นอย่างแรกคงต้องยกให้ตัวละครที่จัดว่าทุกคนมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง

ในส่วนของการแสดงก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ เพราะแต่ละคนสามารถสื่อสารออกมาได้ดี เข้าถึงบทบาทในตัวละครได้เป็นอย่างดี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้นั้นออกมาดูสนุก มีหลากหลายอารมณ์ จนทำให้หลายๆคนประทับใจ และพูดถึงกันจนกลายเป็นกระแสดังในสื่อโซเชี่ยลเลยทีเดียว

และอีกหนึ่งตัวละครหลักของเรื่องที่ทุกคนพูดถึง และให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คือจั๊กเฮดด้วยคาเรคเตอรืหนุ่มสุดติส มาดนิ่งๆ มีความลึกลับของตัวละคร ทำให้หลายๆคนนึกถึงบทบาทของ “แอล” ตัวละครเอกในเรื่อง Death Note เพราะท่าทาง และบุคลิกที่คล้ายคลึงกันนั่นเอง บวกกับความหล่อของ มาดดี ของดาราหนุ่ม Cole Sprouse  นี่แหละ ทำให้เป็นที่พูดถึงในกลุ่มสาวๆ เป็นอันว่าแย่งซีนตัวพระเอกของเรื่องไปเยอะเลยทีเดียว

ในส่วนของ Apa ก็ดูเป็นคนดีสมเป็น อาร์ชี่ พระเอกตัวนำเรื่อง และ Reinhart ก็น่ารักในแบบของสาวผมบลอนด์ ทางด้าน Cott ก็เล่นเป็นเควินได้ดีกับบทบาทเพศทางเลือกที่น่ารักมากๆ ท่าทางการวางตัว และการแสดงออกในแบบที่พอดี ไม่เยอะเกินไป ไม่น้อยเกินไป ขณะที่ Madelaine Petsch ในบทเชอรีล บลอสซั่ม ก็แสดงความเริ่ดเชิ่ดหยิ่งได้ใจสุดๆ และดูเป็นคาแรคเตอร์ที่มีพัฒนาการที่น่าสนใจมากขึ้นในทุกๆตอน

ทางฝั่งของนักแสดงที่มารับบทพ่อแม่นั้น ไม่ว่าจะ Luke Perry, Marisol Nichols, Mädchen Amick, Skeet Ulrich, Lochlyn Munro และ Molly Ringwald ก็ตีโจทย์ได้ดีไม่แพ้กัน เพราะทุกตัวละครสามารถเข้าถึงอารมณืความรู้สึก และถ่ายทอดออกมาได้ดี ลงตัว ทำให้เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างสมูท

ส่วนของการเล่าเรื่องก็ทำออกมาได้เนียนดี ทั้งจังหวะการเล่าเรื่อง การวางปมต่างๆ ถือว่าสอดคล้องกับตัวละคร ซึ่งในซีรีส์เรื่องนี้จะเดินเรื่องใน 2 ส่วนไปพร้อมๆ กัน คือส่วนแรกจะเป็นปมดราม่าของตัวละครแต่ละคน ที่สื่อให้เห็นว่าทุกตัวละครล้วนมีปมในใจ การเล่าเรื่องของแต่ละคนต้องผ่านช่วงเวลาต่างๆ ตามช่วงวัย พอแต่ละตอนผ่านไป พวกเขาก็โตขึ้นๆ เรื่อย และเรียนรู้สิ่งต่างๆมากขึ้นทีละนิด

ในส่วนที่สองคือ ส่วนเส้นเรื่องสืบสวน ซึ่งก็ทำออกมาได้น่าติดตาม มีการทิ้งปมชวนให้ชมต่อไปจนจบ ทำคิดตามตลอดเรื่อง รวมถึงมีการหักมุมให้ตามเดากันไป ทั้งเรื่องดราม่าและสืบสวนต่างก็ทำหน้าที่ของมันได้ดี การเดินเรื่องทั้งสองส่วนก็สอดคล้องกันแบบเหมาะเจาะ มีที่มาที่ไปให้เขาใจรู้เรื่อง นี่แหละที่เป็นเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ ที่ทำให้ใครหลายๆคนนั่งดูไปเรื่อยๆ จนจบซีซั่น

และที่สำคัญคือซีซันที่ 3 ก็จะเริ่มสตรีมมิ่งตอนแรก ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ พร้อมตอนใหม่ทุกสัปดาห์ เพราะงั้นวันหยุดยาวนี้ ถ้าหนุ่มๆคนไหนแพลนไว้ว่าอยากหาซีรีส์ดีๆซักเรื่อง ขอแนะนำให้ไปหาดู แต่ถ้าอยากจะหาเพื่อนดู ให้ชวนคนรู้ใจมานั่งดูเป็นเพื่อน รับรองเลยว่าสาวๆ ต้องชอบ ^^