Movie Review : Ralph Breaks The Internet ความสนุกคูณสองของราล์ฟจอมทุบกับยัยว๊อบแว๊บขาป่วน

ความมหัศจรรย์ข้อหนึ่งของการเป็นมนุษย์ คือ ทุกคนล้วนมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวเองเสมอ ต่อให้คุณจะอายุ 90 ปีแต่ลึกๆ ภายในใจคุณก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นสักเท่าไหร่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงยังชอบอ่านการ์ตูนมังงะ นั่งดูการ์ตูนช่องเก้า หรือสะสมของเล่น

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกระแสโลกที่หมุนไปไวจนตามแทบไม่ทัน ทำให้เกิดความรู้สึก “Nostalgia” หรือ การห้วนรำลึกถึงอดีตที่เคยมี เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลับไปเสพสิ่งเก่าๆ เหล่านั้นก็ราวกับเราสามารถย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้ง

หนังเรื่อง “Wreck it Ralph วายร้ายหัวใจฮีโร่” จาก Walt Disney Animations Studios ได้สร้างปรากฎการณ์สะเทือนโลกแอนิเมชันไปเมื่อปี 2012 ด้วยการนำมนต์เสน่ห์ของเกมส์อาเขตสุดคลาสสิคมาสร้างความสนุกสนานชวนอมยิ้มไปกับโลกของราล์ฟ (Ralph) ตัวร้ายจากเกมส์ตู้ยุค 80s Fix-It Felix, Jr ที่อยากเป็นฮีโร่กลับเขาบ้างหลังจากรับบทเป็นตัวร้ายแบบเดิมๆ มายาวนานกว่าเวลา 30 ปี ความคิดนอกกรอบนี้เองทำให้เขาก้าวเข้าไปผจญภัยยังตู้เกมส์อื่นที่เชื่อมต่อกันด้วยปลั๊กและสายไฟจนเกิดไวรัสวีดีโอเกมส์ที่เกือบทำร้ายความสนุกไปตลอดกาล แต่เรื่องดีก็บังเกิดในคราวร้ายเมื่อเขาได้เจอกับวาเนโลปี้ วอน ชวีทซ์ (Vanellope) ตัวละครติดบัคบั๊คจอมป่วนจากเกมแข่งรถโกคาร์ทเคลือบลูกกวาด Sugar Rush แล้วรวมพลังกันพิทักษ์โลกวีดีโอเกมส์ให้กลับคืนความสงบสุขอีกครั้ง

ด้วยเรื่องราวชลมุนยุ่งเหยิงนี่เองทำให้คนดูได้เห็นตัวละครเกมส์ตู้ในอดีตอย่าง Pacman, Street Fighter, Mortal Combat, Sonic , Hero’s Duty และ อื่นๆ อีกมากมายออกมาโลดแล่นและมีปฏิสัมพันธ์กันข้ามเกมส์ รวมถึงองค์ประกอบของเกมส์ยุคก่อนอย่าง สูตรเกมส์ ด่านโบนัส ที่นำมาผูกเรื่องเสริมจินตนาการและความสนุกชวนขันได้เป็นอย่างดีจนกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 471 ล้านเหรียญสหรัฐ

หลังจากผ่านไป 6 ปี ราล์ฟจอมทุบกับยัยหนูว๊อบแว๊บก็กลับมาอีกครั้งในภาคต่อชื่อ “Disney’s Ralph Breaks The Internet: Wreck-It Ralph 2 ราล์ฟตะลุยโลกอินเทอร์เน็ต: วายร้ายหัวใจฮีโร่ 2” ต้องบอกว่าเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่และมันส์กว่าภาคที่แล้วเป็นเท่าตัว โดยเนื้อเรื่องคราวนี้ราล์ฟ และเวเนโลปี้ เพื่อนซี้ต่างเกมจะพาทุกคนก้าวออกจากโลกแห่งเกมตู้อาเขตไปผจญภัยในโลกอินเทอร์เน็ตไร้พรมแดนเพื่อตามหาอะไหล่มาช่วยรักษาเกม Sugar Rush ของเวเนโลปี้ให้อยู่คู่ร้านเกมส์ต่อไป

เราจึงจะได้เห็นการเนรมิตโลกอินเตอร์แสนมหัศจรรย์ในรูปแบบแอนิเมชัน 3 มิติของเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่แสนคุ้นเคยไปพร้อมๆกับราล์ฟและยัยหนูว๊อบแว๊บจอมป่วน ทั้ง Instagram, eBay,Twitter, Facebook ,Google หรือแม้แต่โลโก้ LineTV ของประเทศไทยก็มีกะเขาด้วย ซึ่งต้องยกนิ้วให้กับทีมงานผู้เนรมิตฉากในจินตนาการให้ออกมาในรูปแบบแอนิเมชันที่น่าทึ่งกว่าภาพที่คาดหวังไว้เป็นเท่าตัว รวมถึงการสอดแทรกมุกตลกในโซเชียลและพฤติกรรมของคนท่องเว็บเอาไว้เพียบ

และนอกจากภาคนี้ตัวละครภาคแรกจะกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาให้หายคิดถึงแล้ว ยังเสริมทัพด้วยตัวละครใหม่อีกจำนวนมากแต่ที่ทางทีมงานภูมิใจนำเสนอก็คือเกมส์ใหม่อย่าง Slaughter Race เกมแข่งรถออนไลน์สำหรับขาโหดที่ราล์ฟและเวเนโลปี้ต้องเสี่ยงตายเพื่อชิงรถในตำนานของแชงค์ (Shank) นักซิ่งสาวสวยที่ได้ กัล กาด็อท (Gal Gadot) จาก Fast and Furious มาภาคเสียงและเป็นคาแร็กเตอร์ให้กับตัวละครตัวนี้ การภาคเสียงของกัลทำให้เราแอบทึ่งในความสามารถของเธออยู่นิดๆ เพราะมันช่างเซ็กซี่ แต่ก็มีความเป็นธรรมชาติที่สามารถสะท้อนตัวตนของเธอออกมาผ่านตัวละครแชงค์ได้เป็นอย่างดี

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะ Ralph Breaks The Internet จัดเต็มความยิ่งใหญ่อลังการงานดิสนีย์สร้างจุดเชื่อมโยงไปยังภาพยนตร์ต่างๆที่อยู่ในจักรวาลเดียวกัน หรือที่เรียกกันว่า อีสเตอร์เอ้ก (Easter Egg) ไว้เยอะเป็นครั้งประวัติศาสตร์กว่า 434 ตัวละครเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นตัวละครจาก Marvel, Pixel, Star War, Toy Story ,Zootopia , Big Hero 6 รวมเจ้าหญิงดิสนีย์ 14 องค์ที่มารวมตัวกันสร้างความฮาในหนังเป็นครั้งแรก จึงมีมุกตลกที่ทั้งแซะ กัดจิก ล้อเลียนตัวเองได้ฮาจนน้ำตาไหล ซึ่งเหล่าเจ้าหญิงนี่ไม่ได้มาแค่แว๊บๆ แล้วจากไปแต่มีถึงสองฉากใหญ่ๆด้วยกันที่ทำให้เราได้เห็นความเกิรล์กรุ๊ปของพวกเธอ

นับว่าเป็นภาคต่อที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่รักษาเสน่ห์ตัวละครเดิมเอาไว้ได้แต่ยังดึงทุกตัวละครของดิสนีย์มาใช้ได้อย่างเต็มที่ ครบทั้งความสนุก ดราม่าและตลกขบขัน จนกวาดรายได้และคะแนนวิจารณ์ด้านบวกไปได้อย่างท่วมท้น ทุบสถิติภาคแรกกระจุย โดยได้จากคะแนนจาก Rotten Tomatoes ถึง 92 % เลยทีเดียวและถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยดูภาคแรกหรือไม่รู้จักตัวละครในเกมส์สักตัวก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกมันลดน้อยลงไปเลย เพราะเนื้อเรื่องมันไม่ได้ซับซ้อน หนังสามารถทำให้คุณผูกพันธ์และเอาใจช่วยไปกับตัวละครได้ไม่ยาก นั่งดูกันได้ทั้งครอบครัว

ใครอยากไปดูอดใจรอวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ พร้อมส่งมอบความสนุกทั่วประเทศในโรงภาพยนตร์และระบบ 4DX แล้วอย่าลืมดู End Credit 2 ตัวกันด้วยนะ