Poole's Land ดินแดนฮิปปี้ในยุคปัจจุบัน - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
Poole’s Land ดินแดนฮิปปี้ในยุคปัจจุบัน

หากคุณเคยดูหนังเรื่อง The Beach ซึ่งใช้สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยถ่ายทำเกือบทั้งเรื่อง  โดยสร้างมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ อเล็กซ์ การ์แลนด์ (Alex Garland) ผู้กำกับมากฝีมือจากหนังเรื่อง Ex Machina และ Annihilation หลายคนไม่รู้ว่า The Beach เป็นนิยายเล่มแรกของเขาที่ตีพิมพ์ในปี 1996 ก่อนจะถูดดัดแปลงมาเป็นหนังในปี 2000 ที่ได้แดนนี่ บอยล์ (Danny Boyle) มารับหน้าที่กำกับและนำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio)  แต่นอกจากความงดงามของบ้านเราที่หนังแสดงให้ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก การตั้งรกรากของชุมชนนักเดินบนเกาะสวรรค์ที่เต็มไปด้วยอิสระเสรีนั้นก็เป็นหัวใจหลักของเรื่องที่ให้แง่คิดแบบไม่อาจมองข้ามได้

ไม่น่าเชื่อว่าในโลกความเป็นจริงกลับมีชุมชนนักท่องเที่ยวคล้ายในหนังแฝงตัวอยู่บนผืนป่าดิบชื้นทางชายฝั่งตะวันตกของเมืองโตฟิโน รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา โดยใช้ชื่อว่า “Poole’s Land” ซึ่งตั้งตาม ไมเคิล พูล (Michael Poole) เจ้าของที่ดินจำนวน 17.5 เอเคอร์ หรือ 44 ไร่แห่งนี้

เป็นเวลาเกือบ 30 ปีที่พลูได้อุทิศที่ดินตนเองให้กลายเป็นชุมชนอนาธิปไตยสำหรับเยาวชนที่ต้องการหลุดพ้นจากสังคมกระแสหลัก ที่ผ่านมามีคนแปลกหน้าจำนวนกว่า 20,000 คนเดินทางเข้ามายัง Poole’s Land  เพื่อใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวโดยจ่ายเงินเพียง 10 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคืน หรือประมาณ 329 บาทและเคารพกฎง่ายๆเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น แม้บางคนจะมาแค่ช่วงฤดูร้อนแล้วจากไปแต่ก็มีบางคนเคยพักอยู่ที่นี่หลายปีเพราะรู้สึกผูกผันจนมองว่านี่คือบ้านของเขา

การหากำไรกับผู้คนและโลกนี้เป็นเรื่องที่ผิด..ส่วนฉันก็เป็นคนมือถือสากปากถือศีลที่เลือกจะทำอะไรแตกต่างออกไป”  พลูกล่าว

หลังจากพูลจ่ายเงินซื้อที่ดินแห่งนี้ เขาก็ไม่ต้องเสียเงินให้ใครสำหรับการสร้างสาธารณูปโภคภายในแคมป์ ไม่ว่าจะ ถนน ห้องส้วม ทางเดินหรือแม้แต่การขุดบ่อน้ำ ล้วนมาจากน้ำพักน้ำแรงที่ผู้พักอาศัยช่วยกันสร้างขึ้นมา นอกจากสาธารณูปโภคข้างต้นที่กล่าวไปภายใน Poole’s Land ยังประกอบไปด้วยที่พักพิงชั่วคราว เต้นท์ของนักเดินทางขาจร  รถนอน และกระท่อมไม้ที่ใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารโดยนำผักจากสวนมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็น

ผู้คนที่นี่อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างเป็นมิตร ไม่มีการนั่งเล่นมือเพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มีเพียงเสียงจากกองไฟและการล้อมวงแลกเปลี่ยนบทสนทนาและความสุขซึ่งกันและกันยามค่ำคืน

” คุณมาพบกลับกับกลุ่มคนแปลกๆ ถ้าไม่ชอบมันก็แค่ออกไป หรือคุณอาจมาพบเพื่อนฝูงที่ดีจริงๆและพักที่นี่ “  นักท่องเที่ยวจากแมสซาชูเซตส์กล่าว

ผู้คนส่วนใหญ่รู้จัก Poole’s Land กันดีในชื่อ “ฮิปปี้คอมมูนิตี้” หรือ “อีโค่วิลล่า ” แต่พลูอธิบายว่ามันคือการทดลองอยู่อย่างอนาธิปไตยหรือภาวะที่ประเทศไม่มีการปกครองโดยรัฐบาล ไม่มีกฎหมาย และระเบียบมากกว่า ซึ่งสวนทางกับโลกภายนอกที่อยู่กันอย่างมีขื่อมีแป  ทำให้ Poole’s Land เป็นหัวข้อโต้แย้งภายในเมืองโตฟิโนมานานหลายทศวรรษพอๆกับระยะเวลาที่มันก่อตั้งขึ้นมา ชาวบ้านระแวกนั้นพูดกันว่า  “ถ้าจักรยานของคุณหายไป คุณอาจจะหาเจอที่ Poole’s Land ” และบ่อยครั้งที่ผู้คนข้างนอกตีตราว่า Poole’s Landers เป็นสถานที่หลบซ่อนการกระทำผิดเพราะมันง่ายต่อการปาร์ตี้หรือใช้ยาเสพติด

ไมเคิล กู๊ลลิฟฟ์ (Michael Goodliffe)  ผู้จัดการของ Poole’s Land  ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกไม่พอใจที่ผู้คนอธิบายว่าที่นี่เป็นชุมชนยาเสพติด แม้ว่ายาเสพจะติดเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมฮิปปี้รุ่นก่อนๆและผู้คนในนั้นก็ใช้กัญชาเป็นเรื่องธรรมชาติจนถึงขัั้นมีการปลูกกัญชาเองแต่ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรเพราะกัญชาเป็นเรื่องถูกกฎหมายในแคนาดาหากใช้เพื่อการนันทนาการหรือทางการแพทย์  กู๊ลลิฟฟ์ ยังเสริมด้วยว่า “ประกาศิตของที่นี่คือทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยไม่ใช่ขายยา ผมโตมากับกับพ่อที่ทำ LSD ตลอดชีวิตและได้เห็นผลระยะยาวว่ามันทำให้เกิดอาการป่วยทางจิต ” เขามองว่าที่นี่คือการบำบัดด้วยธรรมชาติ ผู้คนที่นี่มาเพื่อปลดปล่อยความเบื่อหน่ายจากงาน การปักหลักกับชีวิต การทำงานเต็มเวลา หรือการซื้อบ้านสักหลัง

“มันไม่ใช่คนฮิปปี้บ้าเรื่องยาเสพติด มันคือกลุ่มคนชิบหายที่ช่วยเหลือกันและกัน พวกเขาต้องการดื่มด่ำ…ไม่ใช่กับยาเสพติดนะแต่กับชีวิต ”  เชนีย์ (Cheyanne ) เชฟชื่อดังวัย 24 ปีกล่าว

ถึง Poole’s Land  จะต้อนรับผู้คนมาอย่างยาวนานแต่พลูตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้เป็นอมตะและคิดว่าใกล้หมดเวลาแล้วหลังจากรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งเขาจึงคิดจะขายมัน

แม้ว่าที่ดินดังกล่าวจะไม่ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีราคาขายประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐกู๊ดลิฟฟ์ให้สัมภาษณ์เสริมว่า “ไมเคิล พูลเป็นคนที่ไม่อาจคาดเดาอะไรได้เลย บางทีเขาอาจจะขายบางทีเขาอาจจะไม่ขายก็ได้”

หากใครเบื่อกระแสทุนนิยมอยากหลบหนีชีวิตเข้าหาธรรมชาติ Poole’s Land อาจเป็นบ้านที่รอให้คุณแวะไปพักร้อนอยู่

Source & Picture : 1|2
Suthamat
The girl with flowers tattoo

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save