ทุกคนรู้ว่าขยะพลาสติกส่งผลเสียอย่างไรต่อโลก แต่การไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอันเป็นผลพ่วงมาจากมันนั้นทำให้ทั่วโลกยังคงมีปริมาณการใช้พลาสติกเกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีหมดสิ้น
แค่ในกรุงเทพ ฯ พื้นที่เดียวมีการใช้ถุงพลาสติกสูงมากถึง 80 ล้านใบต่อวันกันเลยทีเดียว แล้วถ้าเป็นจำนวนขยะพลาสติกทั้งโลกละมันจะเยอะขนาดไหน แต่ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลาย ขนาดนี้ เคยนึกสงสัยกันไหมว่าที่มาที่ไปของขยะพลาสติกมันถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อไหร่
ถุงพลาสติกที่ใช้กันส่วนใหญ่นั้นทำมาจากพลาสติกหลายชนิดแต่ Polythylene หรือ PE นั้นเป็นพลาสติกที่นิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งมันถูกค้นพบครั้งแรกในโรงงาน ICI Wallerscote ใกล้เมือง Northwich ประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1933 โดยนักเคมีนามว่า George Feachem ขณะที่เขากำลังทดลองบางอย่างกับสารโพลิเมอร์แต่การทดลองผิดพลาดเกิดเป็นสารตกค้างคล้ายกับขี้ผึ้งบนผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งก็คือ Polythylene ที่เราใช้กันมาทุกวันนี้นั่นเอง
แต่การยื่นขอจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตถุงพลาสติกอย่างจริงๆจังๆ มีขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1950 โดย บริษัท The Swedish Company Celloplast ในประเทศสวีเดน ซึ่งออกแบบโดยวิศวกรชื่อ Sten Gustaf Thulin จากนั้นถุงพลาสติกก็เริ่มเข้ามาแทนที่ถุงผ้าอย่างรวดเร็วไปทั่วทวีปยุโรป จนเมื่อปี ค.ศ. 1979 ความนิยมของการใช้ถุงพลาสติกก็แพร่กระจายควบคุม 80 % ในยุโรป และแรงไม่หยุดสุดไม่อยู่ไปจนถึงสหรัฐ ฯ ธุรกิจหลายประเภทเริ่มหันมาทำการตลาดโดยนำพลาสติกมาใช้แทนที่กระดาษหรือสิ่งที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
ช่วงท้ายทศวรรษ 80s การเปลี่ยนมาใช้ถุงพลาสติกแพร่กระจายครอบคลุมเกือบทั่วโลก และจำนวนการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มก่อตัวเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื้อรังในเวลาต่อมา กลายเป็นว่าพลาสติกที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยวามสะดวกสบายให้กลับตนเองกลับเป็นภัยคุกคามของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศแทน ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ รวมถึงเกิดมลภาวะทางน้ำหรือทางอากาศที่ต่างก็ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
แม้หลายประเทศทั่วโลกจะมีกฎหมายหรือนโยบายต่างๆ ออกมาแก้ปัญหาดังกล่าวแต่คนเพียงบางกลุ่มไม่สามารถหยุดปัญหาที่คนทั้งโลกร่วมกันก่อได้ ตรงกันข้ามหากทุกคนบนโลกลดการใช้ถุงพลาสติกคนละ 1 ใบ เราจะสามารถลดถุงพลาสติกลงได้ 7,600 ล้านใบในหนึ่งวัน