มือถือในปัจจุบันที่เราใช้งานกันหากพูดกันตามตรงจะพบว่ามันมีหน้าที่คล้ายกันเอามาก หากดูที่รูปลักษณ์ภายนอกบางรุ่นเหมือนแค่เอาต้นแบบมาแล้วทำการเปลี่ยนนิดหน่อยก็กลายเป็นมือถือรุ่นใหม่เสียแล้ว ถ้ามองจากภายในตัวระบบในบางรุ่นแทบจะไม่ได้แตกต่างกันเลย ฉะนั้นในวันนี้เราจะมานำเสนอมือถือที่ทำการเปิดตัวในปี 2018 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากมือถือรุ่นอื่นๆ จะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลย

Asus ROG Phone: 

จุดที่ทำให้ Asus ROG Phone มีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆนั้นคือเป็นมือถือที่มาพร้อมกับการ Overclock จากโรงงานตั้งแต่แรก โดยชิปเซ็ตรุ่นที่ได้ทำการปรับแต่งออกมานั้นคือ Snapdragon 845 ที่จากเดิมความเร็วอยู่ที่ 2.80GHz ได้ถูกปรับไปเป็น 2.96GHz ทำให้สามารถทำงานได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ สาเหตุเนื่องจากการที่เป็นมือถือที่เน้นการใช้งานเล่นเกมเป็นหลัก ทำให้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เล่นได้ดีขึ้นตามไปด้วย

Huawei Mate 20 Pro: 

คงไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะสามารถใช้งานมือถือเป็นตัวถ่ายพลังานแบตให้กับเครื่องอื่นได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วสำหรับมือถือรุ่นแรกที่สามารถเปลี่ยนตัวเองไปเป็นเสมือน Power Bank โดยเราเรียกสิ่งนี้ว่า Reverse wireless charging โดยเราสามารถชาร์จให้กับมือถือรุ่นอื่นที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ทันที นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทำออกมาเพื่อช่วยเหลือคนอื่นก็ว่าได้

Huawei P20 Pro: 

มือถือในปัจจุบันก่อนที่จะมีการเปิดตัว P20 Pro ออกมาหากพูดการถึงซูมเวลาถ่ายแล้ว นับว่าทำออกมาได้ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่การมาของ P20 Pro เราก็ได้พบกับมือถือรุ่นแรกที่มาพร้อมกับการซูมมากถึง 5 เท่า ไม่ใช่ว่ามีดีแค่ระยะซูมเท่านั้นแต่คุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมาก็จัดว่าเป็นที่หนึ่งในด้านการถ่ายรูปของมือถือเช่นเดียวกัน

RED Hydrogen One: 

ถึงแม้ว่าการตอบรับจะไม่ดีเท่าไหร่นักสำหรับ RED Hydrogen One แต่ก็นับว่าเป็นมือถือรุ่นแรกที่มาพร้อมกับหน้าจอที่สามารถแสดงผล Holographic ได้ ซึ่งสร้างความแตกต่างจากมือถือรุ่นอื่นๆ รวมทั้งการแสดงผล 3D ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมมาช่วยเพื่อเห็นภาพ นับว่าเป็นจุดเด่นที่ไม่แน่ใจว่ารุ่นอื่นจะกล้าทำตามหรือไม่เพราะกระแสตอบรับนับว่าล้มเหลวพอควร

Royole FlexPai: 

แม้จะไม่คุ้นหูนักสำหรับมือถือรุ่นนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นมือถือรุ่นแรกที่ได้ทำการเปิดตัวพร้อมความสามารถในการพับได้ และหากพูดกันตามจริงก็เป็นมือถือรุ่นแรกเช่นเดียวกันที่ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 855(8150) โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือสามารถพับได้ ทำให้ผู้ใช้งานพบกับประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปจากมือถือรุ่นอื่นๆที่เคยเปิดตัวออกมา

Samsung Galaxy A9 2018: 

ฉีกทุกกฎของจำนวนกล้องบนมือถือที่เคยมีมา ด้วยการมาของมือถืออย่าง Galaxy A9 2018 เพราะว่าเป็นมือถือรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกล้องมากถึง 4 ตัวด้วยกัน ที่สำคัญคือแม้จะไม่ได้จัดเป็นเรือธงของค่ายแต่ก็นับว่าเป็นมือถือระดับกลางที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมสเปคที่มีจุดเด่น สเปคที่ให้มาก็นับว่าไม่ได้ขี้เหร่เลยด้วยการใช้งาน Snapdragon 660 และแรม 6/8GB

Vivo NEX S: 

เป็นมือถือรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกล้องหน้าที่สามารถเก็บได้ หากมีการเรียกใช้งานก็จะทำการเด้งออกมาด้านบนของตัวเครื่อง โดยที่ข้อดีของการทำแบบนี้จะทำให้เราได้พื้นที่บนหน้าจอมาใช้งานแบบเต็มพื้นที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องกล้องหน้าที่จะมากินพื้นที่ ในขณะที่สเปคภายในก็จัดว่าเป็นเรือธงได้อย่างไม่น่าเกลียดด้วยการใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 845 และแรม 8GB ทำให้เป็นหนึ่งในมือถือที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นจากรุ่นอื่น

Xiaomi Mi Mix 3: 

แม้จะไม่ได้เป็นมือถือรุ่นแรกที่สามารถสไลด์ได้เพราะก่อนที่เราจะเข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟน เรียกได้ว่ามือถือแบบสไลด์นั้นล้นตลาดเลย แต่เราสามารถพูดได้ว่า Mi Mix 3 เป็นมือถือในยุคปัจจุบันรุ่นแรกที่มาพร้อมกับการสไลด์ ซึ่งข้อดีของการที่สามารถสไลด์ได้ทำให้ไม่จำเป็นต้องนำกล้องและอื่นๆมาไว้บนหน้าจอให้เสียพื้นที่ในการใช้งาน แต่สามารถยัดเอาไว้ในส่วนที่เก็บไว้สำหรับการสไลด์ได้เลย

ZTE nubia X: 

อาจจะไม่ได้เป็นจุดเด่นที่มาเป็นที่หนึ่งแต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจภายในปี 2018 อีกหนึ่งเรื่องคือมือถือที่มาพร้อมกับหน้าจอสองด้านในหนึ่งเครื่อง ข้อดีในการใช้งานแบบนี้นั้นคือการหมดปัญหาเรื่องกล้องที่ไม่จำเป็นต้องมีกล้องหน้าอีกต่อไปเพราะหน้าจอทั้งสองด้านสามารถมองเห็นได้ทั้งคู่ โดยที่ nubia X สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งด้านดีไซน์และสเปคภายใน

ที่มา – ThisIsGame