5 นาฬิกาแบรนด์ดังสุด Colorful ที่จะมาแต่งแต้มสีสันให้ข้อมือคุณ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 นาฬิกาแบรนด์ดังสุด Colorful ที่จะมาแต่งแต้มสีสันให้ข้อมือคุณ

อิทธิพลของเทรนด์แฟชั่นสีสันสดใสปีนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วงการเสื้อผ้าเท่านั้น เพราะทางนาฬิกาหลากหลายแบรนด์ดังเขาก็ปล่อยนาฬิกาดีไซน์ใหม่เพิ่มลูกเล่นให้มีความ Colorful สะดุดตา ออกมาดึงดูดใจลูกค้าเช่นกัน  วันนี้ TheMaCho จึงขอรวบรวบนาฬิกาจาก 5 แบรนด์ดังเพื่อมาช่วยเพิ่มสีสันให้ข้อมือของคุณ

1. Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

เริ่มด้วยรุ่นตัวท็อปตลอดการของบรรดานักสะสม สำหรับปีนี้ Rolex ก็ปล่อยรุ่นเอเวอร์โรสโกลด์ประดับอัญมณีงดงามถึง 18 กะรัตออกมา มีการออกแบบสัญลักษณ์ของมาตรวัดความเร็วใหม่ ขอบหน้าปัดประดับแซฟไฟร์สีรุ้ง และตัวเรือนประดับด้วยเพชรเจียระไน 56 เม็ด บนหน้าปัดอีก 11 เม็ด ส่วนสายนาฬิกาทำจากเอเวอร์โรสโกลด์ 18 กะรัต พร้อมชุดตัวล็อคนิรภัย Oysterlock ป้องกันสายนาฬิกาเลื่อนเปิดออกโดยไม่ตั้งใจ

ตัวเรือนมีขนาด 44 มิลลิเมตร ซึ่งยังคงความน่าเชื่อถือ ความทนทาน ต้านทานสนามแม่เหล็ก และป้องการกระแทกไว้เช่นเดิม  ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 4130 ที่มาพร้อม Column Wheel และคลัทช์แนวดิ่ง เพื่อให้การเริ่มต้นสามารถทำได้ในทันทีและมีความแม่นยำมากที่สุด แถมติดตั้งพร้อมโมดูลระบบไขลานอัตโนมัติผ่านทางโรเตอร์ Perpetual ช่วยให้สำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง ราคาตกอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านกว่าๆ เท่านั้นเอง

2. HUBLOT BIG BANG UNICO RED MAGIC

สร้างเสียงฮือฮาตั้งแต่ช่วงต้นปีสำหรับแบรนด์อูโบลท์ (Hublot) กับการเปิดตัว นาฬิกาดีไซน์ใหม่ผลิตจากเซรามิกสีแดงสวยสะดุดตา และไม่เพียงแค่สวยเท่านั้นเพราะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเซรามิกทั่วไปด้วยระดับความแข็งที่ 1500 HVI เลย

ตัวเรือนและฝาครอบมีขนาด 45 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก Unico HUB124 สามารถกันน้ำได้ระดับ 100 เมตร พร้อมสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง แต่ผลิตแค่เพียง 500 เรือนเท่านั้น ราคาก็แรงสมกับคุณภาพประมาณ 819,700 บาท

3. Omega Railmaster Denim Co-Axial Master Chronometer

แบรนด์ดังอย่าง Omega ได้ปัดฝุ่นนำคอลเลคชั่นในตำนานอย่าง Railmaster ให้กลับมาสร้างสีสันแปลกใหม่ไปจากเดิมโดยหยิบยีนส์แบบ Denim ที่ทาง Omega เรียกว่า Blue Jeans มาออกแบบหน้าปัดให้ตัดกับเข็มวินาทีสีส้มได้อย่างลงตัว พร้อมเสริมความโดดเด่นด้วยการนำผ้ายีนส์แบบ Nato มาใช้กับตัวสาย

ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร กันน้ำในระดับ 150 เมตร ผลิตจากสเตนเลสสตีลสีเงินที่ขัดเงาสลับด้าน ส่วนกลไกใช้เป็น Co-Axial รหัส 8806 มีความเที่ยงตรงระดับสูง สามารถผ่านมาตรฐาน Chronometer และสำรองพลังงานได้ถึง 55 ชั่วโมง ที่สำคัญทนต่อสนามแม่เหล็กได้ในระดับ 15,000 Gauss เลยทีเดียว สำหรับรุ่นนี้มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ สายเหล็ก และสาย Nato  ราคาอยู่ที่ประมาณ 165,000 และ 163,000 บาท ตามลำดับ

4. RADO TRUE THINLINE NATURE LEAF 

แบรนด์นาฬิกาผู้ขึ้นเสียงเรื่องนวัตกรรมวัสดุไฮเทคเซรามิกและสุดยอดงานดีไซน์อย่าง RADO  ปีนี้มากับคอลเลคชั่นพิเศษที่จับมือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสวนชั้นแนวหน้าจากอิตาลีถอดความงดงามของธรรมชาติสู่นาฬิกา 3 ดีไซน์ที่แทนดิน ต้นไม้ และน้ำ แต่ยังคงความมินิมอลด้วยตัวเรือนขนาด 39 มม. ตามฉบับของทางแบรนด์

สายผลิตจากไฮเทคเซรามิก (HIGH-TECH CERAMIC)  จึงให้สัมผัสที่บางเบาแต่แข็งแกร่ง แถมสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกควอทซ์แบบบางพิเศษที่มาพร้อมฝาหลังไทเทเนียมพ่นทราย นอกจากนั้นยังสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 30 เมตรด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 71,300 บาท

5. Gucci Dive

นาฬิกาสีเหลืองสดใสจากคอลเลคชั่น Gucci Men’s Dive Watch โดดเด่นด้วยการหยิบภาพหัวเสือเอกลักษณ์ของ Gucci มาใช้ออกแบบหน้าปัดซึ่งช่วยเสริมกันได้อย่างลงตัวกับสายรัดแบบยางสีเดียวกัน พร้อมเพิ่มความดึงดูดด้วยขอบสแตนเลสสีเงินเงางาม ตัวเรือนมีขนาด 40 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำได้ถึง 200 เมตร ราคาตกอยู่ที่ประมาณ 38,200 ตัวนี้น่าจะราคาเบาสุดแล้วถ้าเทียบกับรุ่นอื่นด้านบน

Source : rolex|jrdunn|hublot|esquire|sanook|gmlive
Suthamat
The girl with flowers tattoo

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save