ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมากระแสผิวสีเข้ามาแทนที่ผิวขาวสไตล์โคเรียในหมู่สาวๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ช่วยให้สังคมไทยมีความเปิดกว้างทางสีผิวมากขึ้น
บรรดาสาวๆ จากเดิมที่ชอบผิวขาวๆก็เปลี่ยนทัศนคติหันมาสนใจหนุ่มผิวสีเพราะดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ ยิ่งถ้าหุ่นฟิตๆ นะเอาแต้มไปเลยรัวๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหนุ่มไทยบางคนที่ยังขาดความมั่นใจในสีผิวตัวเองอยู่ งั้นมาลองดูเหล่าไอดอลชายผิวสีมาดเท่ที่มีดีทั้งสีผิวและความสามารถจนคุณอยากปลดแอกความกลัวหันมารักตัวเองแบบที่เป็นกันดีกว่า
1. Michael B. Jordan
ไมเคิล บี จอร์แดน (Michael B. Jordan) หลายคนคงคุ้นๆหน้านักแสดงมากฝีมือคนนี้มาก่อนแล้วจากผลงานเรื่อง Creed ,Red, Tails หรือ Fantastic 4 (2015) แต่การรับบทบาทเป็นตัวร้ายจอมแย่งซีนจากภาพยนตร์เรื่อง Black Panther ทำเอาฐานแฟนคลับของเขาเพิ่มขึ้นทั่วโลกอย่างเร็วรวด ฮอตขนาดที่ว่าแฟนคลับกัดรีเทนเนอร์ตัวเองหักตอนดูฉากเขาถอดเสื้อในหนัง
ก็ต้องยอมรับว่าเขาดูดีจริงๆ แม้แต่ผู้ชายด้วยกันก็ต้องยกนิ้วให้กับหุ่นล้ำบึก และแน่นอนว่าการจะได้มาซึ่งหุ่นเฟิร์มขนาดนั้นเขาต้องทุ่มเทออกกำลังกายอย่างหนัก ยิ่งช่วงก่อนถ่ายทำ Black Panther นั้น ถึงขนาดจ้างนักกายภาพชื่อดังมาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวแถมย้ายโรงยิมขนาดย่อมมาไว้ที่บ้านกันเลยทีเดียวแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าพอใจอย่างที่เห็น
จอร์แดนจัดว่าเป็นผู้ชายที่มีลุคหลากหลายไม่ว่าจะดูภูมิฐานใส่สูทหรือแนวสตรีทฮิปฮอป เขาจึงได้รับบทบาทการแสดงที่แตกต่างกันไปและฝีมือการแสดงของเขาก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด นับว่าน่าเอาเป็นแบบอย่างทั้งในเรื่องความสามารถและแฟชั่น รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจในการฟิตหุ่นด้วย
2. Pharrell William
สำหรับ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ ( Pharrell William) นั้นจะว่าเขาคืออัจฉริยะผู้มีอิทธิพลในวงการเพลงและแฟชั่นของโลกก็คงไม่ผิดนัก แต่เป็นอัจฉริยะผู้คว้าความสำเร็จโดยใช้ความพยายามเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ในการผลักดันตัวเองมาถึงจุดที่ทั่วโลกยอมรับ โดยจุดพีคสุดๆของเขาเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 จากการร่วมงานกับ Daft Punk พอปล่อยเพลง Happy อัลบั้มของตัวเองออกมาก็ดังเป็นพุแตก
หลังจากนั้นเขาก็โชว์ความสามารถของตัวเองออกมาจัดเต็มทั้งด้านดนตรี แฟชั่น ศิลปะ รวมถึงบทบาทการเป็นนักธุรกิจ จนตอนนี้ไม่ว่าเขาจะหยิบจะจับอะไรก็น่าสนใจไปหมด ล่าสุดรองเท้าที่เขาออกแบบร่วมกับ Adidas อย่างรุ่น NMD Hu ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ฟาร์เรลล์ เคยถูกผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและการพัฒนาภาวะผู้นำวิเคราะห์ไว้ว่าเขามีคุณสมบัติสามข้อด้วยกันที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จขนาดนี้ อย่างแรกเลยคือ มีความมั่นใจในตัวเองแบบพอดีๆ ไม่มากไปจนดูหลงตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์ที่สะท้อนออกมาให้เห็นผ่านผลงาน และสุดท้ายเปิดใจรับฟังความเห็นของคนอื่นอย่างถ่อมตนซึ่งข้อนี้เองที่ศิลปินคนอื่นมักไม่มี เก่งและนิสัยดีขนาดนี้ถึงไม่บอกก็รู้ว่าเขาน่าจะเป็นไอดอลในใจใครหลายคนอยู่แล้ว
3. Will Smith
หากพูดถึงชายผิวสีชื่อ วิล สมิธ (Will Smith ) คงเป็นอันดับแรกๆ ที่หลายคนนึกออกแน่ๆ เราคุ้นหน้าคุ้นตาเขาในวงการ Hollywood เป็นอย่างดีในฐานะนักแสดงและโปรดิวเซอร์มากฝีมือจากผลงานภาพยนต์เรื่อง The Pursuit of Happiness , Hitch, Bad Boys, Independence Day , I Am Legend และอีกมากมายจนทำให้เขาขึ้นหิ้งนักแสดงที่มีความตัวสูงสุดตลอดกาล
แต่นอกจากบทบาทนักแสดงแล้วเขายังเคยเป็น Rapper และ นักแต่งเพลงชื่อดัง ถึงขนาดเคยได้รางวัลแกรมมี่และอเมริกันมิวสิกอวอร์ดมาแล้ว และไม่นานมานี้เองเขาก็เพิ่งเผยข่าวดีผ่านทางอินสตาแกรมว่าจะหันมาจับผลงานเพลงอีกครั้งทำเอาบรรดาแฟนเพลงดีใจกันยกใหญ่จนเปรียบว่าอาจเทียบชั้น Drake ได้เลย
ซึ่งนอกจากความสามารถของเขาที่มักถูกพูดถึงอยู่เสมอ ทัศนคติในการใช้ชีวิตของเขาก็ถูกถึงบ่อยไม่แพ้กัน หากใครบังเอิญได้ดูคลิปสัมภาษณ์ของเขาผ่านรายการโชว์ต่างๆ จะเห็นได้ชัดเลยว่าวิลเป็นผู้ชายที่มีแนวคิดและมุมมองการใช้ชีวิตน่าสนใจและควรค่าแก่การเอายึดเป็นแบบอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิตคู่ การเลี้ยงลูก หรือการวิ่งไล่ตามความฝัน ซึ่งไม่แปลกใจเลยทำไมเขาถึงพาตัวเองมาอยู่ในจุดๆนี้ได้
4. Han Hyun Min
คนนี้อาจยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก และเห็นแวบแรกอาจคิดว่าอ่านชื่อผิดรึเปล่า แต่ไม่ผิดแน่นอนเพราะ ฮันฮยอนมิน (Han Hyun Min) เป็นนายแบบหนุ่มเชื้อสายเกาหลี-ไนจีเรียวัย 17 ปี ที่อาศัยและเติบโตในเกาหลีมาตั้งแต่เด็กเขาจึงแทบพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
เขาฝันอยากจะเป็นนายแบบมาตั้งแต่เด็ก แต่กว่าจะเดินทางเข้ามาสู่วงการแฟชั่นได้นั้นเขาต้องพยายามและฝึกฝนตนเองอย่างหนักเพื่อก้าวข้ามค่านิยมของคนในประเทศ ชนะใจตัวเองว่ายากแล้ว ชนะใจคนอื่นยากกว่า
จนในที่สุดเขาก็ได้เป็นนายแบบผิวสีคนแรกที่ได้เดิน Seoul Fashion Week ด้วยหน้าตาและฝีไม้ลายมือที่โดดเด่นทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของสื่อในและต่างประเทศทันทีจนถูกจัดอันดับให้อยู่ในรายชื่อ 30 วัยรุ่นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในปี 2017 โดยนิตยสารไทม์ (TIME)
บรรดาเหล่าแบรนด์ดังต่างก็พากันรุมจีบไปถ่ายแบบจนตอนนี้มีงานเข้าไม่ขาดสาย เรียกว่าเขาเป็นนายแบบตัวท็อปของเกาหลีตอนนี้เลยก็ว่าได้ดูท่าแล้วคิดว่าฮยอนวัยรุ่นผิวสีคนนี้น่าจะอนาคตไกลไปถึงเวทีแฟชั่นโลกได้แน่นอน นับเป็นอีกคนที่ช่วยให้เห็นว่าความพยายามมันไม่เปล่าประโยชน์จริงๆ
Source : koreadaily|bangkokbiznews