ขอออกตัวก่อนนะครับว่าตัวผมเชียร์ผีแดง-แมนยูฯมาเกินกว่า 20 ปีแล้ว เริ่มเชียร์ตั้งแต่สมัยเอริค คันโตน่ากระโดดถีบแฟนบอล ก็ต้องถือว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้สัมผัสประสบการณ์เชียร์ทีมรักในยุคนั้นเรื่อยมา
จากความสำเร็จที่ถาโถมเข้ามาทำให้สโมสรแมนยูฯกลายเปนไอคอนแห่งความสำเร็จ เป็นองค์กรต้นแบบที่องค์กรอื่นไม่แค่เฉพาะสโมสรฟุตบอลเท่านั้นอยากเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เป็นเหมือนดาวค้างฟ้าที่ไม่มีวันดับสูญ จนผมเคยอดคิดไม่ได้ว่าบางทีสโมสรรักของเราอาจจะก้าวพ้นคำว่าวัฎจักรไปแล้ว?
คำว่าวัฎจักรหมายถึงการมีขึ้นมีลง เหมือนหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในอดีตที่พอก้าวเข้าสู่คำว่าวัฎจักรขาลงก็แทบจะไม่พบกับความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันต่อเนื่องเป็นเวลานับสิบๆปี
ขณะที่ตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในความคิดเพ้อฝันนั้น พลันก็เหมือนถูกถีบออกมาให้พบกับความจริง…
หลังจากผ่านพ้นยุคสมัยของท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมาห้าปีเศษ เหมือนมีอะไรบางอย่างมากระตุ้นต่อมความคิดว่าเพราะเหตุใดแมนยูฯ ถึงยังไม่มีพัฒนาการใดๆให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างว่าจะสามารถกลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ทุกปีเหมือนดังเดิมได้
ไม่ว่าจะเปลี่ยนกุนซือมากี่คน ทุ่มเงินมหาศาลแค่ไหน ทีมก็ยังวนเวียนอยู่กับระบบการเล่นที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
แม้แต่ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่แน่นอนก็ยังไม่มี และดูทีท่าแล้วจะยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้ ประกอบกับมองไปที่ทีมคู่แข่ง มันเหมือนมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจจากลิเวอร์พูลมาเป็นแมนยูเมื่อต้นทศวรรษที่ 90 เสียจริง
หรือว่านี่แหละคือคำว่าวัฎจักรขาลง?
ซึ่งไม่มีสิ่งไหนที่จะก้าวข้ามพ้นไปได้ และถ้ามันเป็นวัฎจักรขาลงจริงๆล่ะ มันต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะผ่านพ้น จะเหมือนแมนยูฯยุค 70-80 ที่ใช้เวลา 26 ปีถึงกลับมาคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้ง หรือเหมือนลิเวอร์พูลที่ก็เกือบ 30 ปีแล้วที่ร้างราแชมป์ลีก
สำหรับแฟนผีแดง แมนยูฯ รุ่นราวคราวเดียวกับผม บางทีอาจต้องเตรียมตัวเตรียมใจแต่เนิ่นๆ ว่ายุคทองของสโมสรผ่านพ้นไปแล้ว
และช่วงเวลาต่อจากนี้ไม่มีทางจะเป็นเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าด้วยอำนาจทางการเงิน วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ความทรงพลังของแบรนด์ตราสโมสร จะทำให้ทีมไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นที่จะก้าวผ่านพ้นวัฎจักรขาลงไปได้ ได้แต่หวังลึกๆจริงๆ…
บทความโดย
Chote~so~chill สจ๊วตหนุ่มผู้ปวารณาตนเป็นแฟนผีแดงเข้าเส้นมานานกว่า 25 ปี