ปล่อยข่าวกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปีว่า Netflix ได้ซื้อลิขสิทธิ์ฉาย “เมาคลี ตำนานแห่งเจ้าป่า (Mowgli: Legend of the Jungle )” มาจาก Warner Bros. ที่ได้ แอนดี้ เซอร์คิส (Andy Serkis) นักแสดง, ผู้กำกับ, นักเขียนบท และผู้อำนวยการสร้างชาวอังกฤษที่ได้ฉายาว่าเจ้าพ่อหนังโมชั่นแคปเจอร์ (Motion capture ) มานั่งแท่นผู้กำกับ
หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อเขานักแต่หากบอกว่าเขานี่แหละคือผู้สวมบทบาท “กอลลัม” จากภาพยนตร์เรื่อง The Lord of the Ring และบท “ซีซาร์” ชิมแปนซีอัจฉริยะจากไตรภาค “Planet Of The Apes” และละก็คงจะอ๋อขึ้นมากันทันที ไม่เพียงงานแสดงเท่านั้นที่โดดเด่นเพราะเขายังเปิดบริษัทสร้างโมชั่นแคปเจอร์ให้กับผู้สร้างภาพยนตร์มากมายทั้งไตรภาค Planet Of The Apes , Avengers: Age of Ultron (2015), Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015) นอกจากนั้นผลงานการกำกับภาพยนตร์ดราม่า-โรแมนติกเรื่อง Breathe ที่เขาดำเนินการเองหมดทุกอย่างก็ได้รับคำวิจารณ์ด้านบวกมากมาย ทำให้แฟนๆ หลายคนต่างคาดหวังว่าเมาคลีเว่อรชั่นนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวในนิทานออกมาได้ครบรส สมจริง สนุกไม่เวอร์ชั่นก่อนหน้า
ความน่าสนใจอีกอย่างของเมาคลีภาคนี้คือทีมนักแสดงนำที่ได้ โรฮาน ชานด์ (Rohan Chand) จาก เด็กหนุ่มจากภาพยนตร์เรื่อง Jack and Jill, Jumanji: Welcome to the Jungle ฯลฯ มาแสดงนำเป็นเมาคลี รวมถึงได้นักแสดงสมทบมากฝีมืออย่าง คริสเตียน เบล(Christian Bale) มารับบทเสือดำบากีรา (Bagheera) เคต แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) ในบทงูคา (Kaa) , เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) กับบทเสือแชร์คาน (Shere Khan) และนักแสดงชื่อดังอีกคับคั่ง ทั้งยังไปถ่ายโลเคชั่นกันที่แอฟริกาจริงๆ รวมถึงเก็บลายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในนิทานเอาไว้หมด
เดิมทีโครงการสร้างมาไล่เลี่ยกันกับ The Jungle Book (2016) ของ Disney แต่เพราะใช้เทคนิคโมชั่นแคปเชอร์ทำให้ภาพยนตร์เสร็จช้ากว่า เมื่อออกฉาย เซอร์คิส ก็เลิกเร่งถ่ายทำและใช้เวลาถ่ายทำเพิ่มเติมเพื่อให้ได้มีโอกาสปรับแต่งมากขึ้น เซอร์คิส เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมตื่นเต้นที่ Netflix ได้เมาคลีไปฉาย ทำให้เราเลี่ยงการถูกเปรียบเทียบกับหนังอีกเรื่องได้และโล่งใจที่ไม่ต้องรู้สึกกดดันแบบนั้น ผมได้เห็นหนังฉบับ 3D แล้ว มันวิเศษมากมีมุมมองที่แตกต่างจากฉบับ 2D ที่มีสีสดและมีความลึกอย่างมาก”
แต่หลังปล่อยเทรลเลอร์ออกมามันก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ The Jungle Book อยู่ดีโทษฐานที่เป็นหนังเล่าเรื่องของเมาคลีเหมือนกันแต่ว่ากันว่านี่คือเมาคลีเวอร์ชั่นดาร์คกว่าเพื่อชี้ให้เห็นว่าป่าแห่งนี้ไม่ได้สวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความน่ากลัวและภัยคุกคามอีกด้วย แต่สิ่งที่คล้ายคลึงกันคือการแฝงแง่คิดการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่าไว้อย่างตั้งใจ โดยส่วนตัวเราชอบเนื้อเรื่องของบทเวอร์ชั่นนี้มากกว่าแต่อาจจะไม่เหมาะกับเด็กดูเพราะมีบางฉากสะเทือนใจอย่างรุนแรง ใครยังไม่ได้ดูเรื่องราวการเดินทางของเด็กชายที่ชีวิตครึ่งหนึ่งของเขาคือป่าและอีกครึ่งคือโลกมนุษย์ในเวอร์ชั่น Netflix จะน่าตื่นเต้นขนาดไหนชมพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 7 ธันวาคมนี้แหละ รีบกลับบ้านไปเปิดหน้าจอดูได้เลย
Tip : โมชั่นแคปเจอร์คือการให้ตัวละคร CGI เชื่อมต่อกับนักแสดงที่สวมชุดพิเศษและมีเซนเซอร์ติดอยู่ตามข้อต่อบนร่างกาย คอ ข้อศอก เอว หัวเข่า โดยให้ดาราที่สวมชุดนั้นแสดงไปตามบทบาทจริง ผ่านกล้องหลายตัวที่บันทึกรอบตัว และบันทึกข้อมูลการเคลื่อนไหวไปเชื่อมต่อเข้ากับตัวละคร CGI