กระแสตอบรับกระหึ่มเกินคาดหลัง Apple เปิดตัว iPad Pro ใหม่ รุ่นที่ปรับทั้งโฉมชุดใหญ่ อัพเกรดสเปคภายใน รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมคู่บุญอย่าง Apple Pencil ที่แก้ปัญหารุ่นเก่าได้อย่างหมดจด ด้วยความพิเศษที่ Apple ตั้งใจปั้นออกมาเพิ่มยอดรายได้ ดึงเงินจากกระเป๋าทั้งสาวกหน้าเก่า สาวกหน้าใหม่ที่อาจมีตกหลุมเสียเงินให้กับค่ายผลไม้อีกรอบ
ด้วยตลาดแท็ปเล็ตในปัจจุบัน Apple ครองส่วนแบ่งทางการตลาดไปเกือบจะทั้งหมด ทิ้งห่างเบอร์สองรองลงไปชนิดไม่เห็นฝุ่น จนในงานเปิดตัว iPad Pro นั้น ทิม คุกถึงได้นำ iPad ไปเปรียบเทียบกับตลาดโน๊ตบุ๊คกันเลยทีเดียว การมีจุดแข็งด้านฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ส่งผลให้ Apple นั้นอยู่ในภาวะผูกขาดไร้คู่แข่ง
ถึง Apple จะเปิดตัวออกรุ่นใหม่มายั่วใจ แต่ The Macho ก็ยังเห็นว่าเจ้า iPad Pro ตัวใหม่นี้ยังไม่คู่ควรกับการลงทุนเงินจำนวนมาก จะด้วยเหตุผลอะไรบ้างลองมาดูไปพร้อมกันเลย
หน้าจอกั๊กสเปค
แม้จะออกแบบหน้าจอดีไซน์ใหม่แบบขอบบางไร้ปุ่มโฮม แต่การลดสเปคจากจอรุ่นเดิมแบบ LED ไปเป็น LCD ที่ Apple ระบุว่าเป็น Liquid Retina ให้ความคมชัดสูง สีสวยสดเที่ยงตรง ก็เป็นการพยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าจอของ iPad Pro รุ่นใหม่นี้ไม่ได้ใช้จอที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการลดต้นทุน การหาผู้ผลิตจอรุ่นใหม่ไม่ทัน เตรียมไว้เพิ่มเป็นฟีเจอร์ใหม่ในรุ่นถัดไป การ เปลี่ยนไปใช้จอแบบ LCD แทนที่การใช้จอแบบใหม่สมัยนิยมก็ดูไม่สมเหตุสมผลเพราะราคาที่ Apple ตั้งมาของ iPad Pro ใหม่นี้ มีราคาสูงเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คได้เครื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ราคาแพงขึ้น
การอัดสเปคด้านซีพียู กราฟฟิค รวมถึงเทคโนโลยีใหม่อย่าง Face ID ทำให้ Apple กล้าที่จะตั้งราคาขาย iPad Pro ตัวใหม่แพงกว่าเดิมราว 6,000 บาท ราคาที่สูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมนี้อาจไม่คุ้มค่าสำหรับคนที่ซื้อมาใช้งานทั่วไปไม่ได้ใช้ทำงานหารายได้ โดยตัวเก่ารุ่นก่อนอย่าง iPad Pro 10.5 นิ้ว ที่ราคาถูกกว่านั้นยังได้สเปคซีพียู A11X ที่ใช้งานได้เร็วลื่น แถมยังได้จอแบบ LED ภาพสวยคมชัด สว่างใส
ไม่มีรูหูฟัง 3.5
สิ่งที่ผู้ใช้หลายคนชอบอย่างรูหูฟัง 3.5 มม.ในรุ่นเก่านั้น ได้อันตธานหายไปแล้วในรุ่นใหม่นี้ ในขณะที่ผู้ใช้หลายคนยังคงชื่นชอบการมีรูหูฟังเพราะสามารถใช้ฟังเพลง คุยไลน์ เฟซไทม์ ขณะชาร์ตแบตไปได้ด้วย แถมหูฟังที่ใช้กับรูหูฟัง 3.5 นั้น ก็หาได้ง่าย มีราคาไม่แพง การตัดช่องหูฟังออกไปอาจจะทำให้หลายคนหนักใจเพราะนั่นหมายความว่าต้องลงทุนซื้อหูฟังบลูทูธอีกหลายพันบาท พกลำบาก ดูแลยาก และต้องคอยนั่งชาร์ตแบตอีกต่างหาก
Face ID แบบใหม่อาจยังไม่ดีอย่างที่คิด
คนที่เคยใช้ iPhone X รุ่นแรกปี 2017 นั้นต้องพบกับปัญหาระบบ Face ID ที่ยังอ่านปลดล็อคใบหน้าไม่แม่นยำรวดเร็วเท่าที่ควร และยังมีรายงานผู้ใช้พบปัญหากล้องหน้าของ Face ID พังต้องเคลมเปลี่ยนใหม่กันมากมายหลายราย พอ iPad Pro ตัวใหม่นี้เปลี่ยนมาใช้ Face ID ระบบใหม่ที่ Apple เคลมว่าปลดล็อคใบหน้าได้จากทุกทิศทางไม่ว่าคุณจะหัน iPad ไว้ด้านใดก็ตาม
คนที่มี iPad Pro ตัวเดิมควรเปลี่ยนหรือไม่ ?
สำหรับคนที่ใช้ iPad Pro ตัวเดิม ถ้าเป็นเจนแรกจอ 9.5 นิ้ว ก็น่าเปลี่ยนเพราะได้อะไรใหม่เพิ่มขึ้นเยอะ แต่ถ้าใช้เจนสองจอ 10.5 obh;อยู่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในตัวใหม่ จอตัวเดิมก็ยังถือว่าสวยสด ความเร็วแรงดีอยู่ใช้งานได้ยาวนานรองรับการอัพเดท iOS ได้อีกอย่างน้อย 3-4 ปี
สำหรับคนที่มี iPad รุ่นเก่าก็น่าเปลี่ยนมาใช้ตัวใหม่ เว้นแต่จะเน้นใช้ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม เล่นโซเชียลการเปลี่ยนมาใช้ตัวบางทีตัว iPad Pro จอ 10.5 นิ้วที่ยังคงมีขายอยู่คู่กันก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
ซื้อ iPad Pro ใหม่มาใช้แทนโน๊ตบุ๊คดีไหม?
ถึงแม้ Apple จะมีความพยายามในการพัฒนาและชักจูงให้ผู้ใช้ได้เห็นศักยภาพของแท็ปเล็ตอย่าง iPad Pro ในการใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์พกพาอย่างโน๊ตบุ๊คนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว จากการใช้งานในหลายด้านยังไม่สามารถใช้งานได้เทียบเท่าโน๊ตบุ๊คเต็มร้อย
ประการแรก โปรแกรมหรือแอปพริเคชั่นที่ใช้งานบน iPad Pro เน้นงานด้านกราฟฟิคดีไซน์มัลติมีเดียมากกว่างานด้านธุรกิจ ถึงจะมีโปรแกรมเดียวกันแต่ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ยังน้อยกว่า มีการใส่คำสั่งที่ยังเป็นรองอยู่
ประการที่สอง หากคุณต้องการจะใช้งาน iPad Pro ให้ได้เต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องลงทุนอุปกรณ์อย่าง Apple Pencil 2 และคีย์บอร์ดแยก ซึ่งจะต้องใช้จ่ายเงินอีกราว 11,000 บาท เมื่อรวมกับค่าเครื่องแล้วอาจจะแพงกว่าการซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้งานเสียอีก แถมการพกพายังยุ่งยาก เสี่ยงต่อการทำอุปกรณ์เหล่านี้หาย ทั้งนี้ยังไม่นับรวมค่าเคส แผ่นกันรอยต่างๆนานา
ประการสุดท้าย ถ้าคุณเป็นคนชอบเล่นเกมแนวฮาร์ดคอร์เน้นกราฟฟิคสวยงามยังไงทางฝั่ง Windows PC หรือโน๊ตบุ๊คก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ด้วยสเปคระดับสูงที่รองรับการประมวลผลกราฟฟิคขั้นสูง เกมที่มีให้เลือกเล่นมากกว่า อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมทางเลือกมากมายให้ใช้เล่นเกมได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
iPad Pro นั้นเหมาะสำหรับคนที่จะเน้นใช้งานด้านมัลติมีเดีย กราฟฟิคดีไซน์ ที่ต้องใช้ปากกาเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ปากกาในงานออกแบบของ Wacom ดูจะเหมาะที่สุด ส่วนจะเอามาใช้เพื่อความบันเทิงดูหนังฟังเพลงเล่นเกม หากมีงบก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่เราอยากให้รอรุ่นใหม่ที่จะออกต่อไปที่ปรับให้หน้าจอเป็น LED หรือ OLED เสียก่อน เพราะจะมีสีสันความคมชัดที่ดีกว่า LCD ในรุ่นนี้อย่างมาก
ราคา iPad Pro ประกันศูนย์ในประเทศไทย
หน้าจอ 11 นิ้ว
แบบ Wifi
– ความจุ 64 GB ราคา 28,900 บาท
– ความจุ 256 GB ราคา 33,900 บาท
– ความจุ 512 GB ราคา 40,900 บาท
– ความจุ 1 TB ราคา 54,900 บาท
แบบ Wifi + Cellular
– ความจุ 64 GB ราคา 33,900 บาท
– ความจุ 256 GB ราคา 38,900 บาท
– ความจุ 512 GB ราคา 45,900 บาท
– ความจุ 1 TB ราคา 59,900 บาท
หน้าจอ 12.9 นิ้ว
แบบ Wifi
– ความจุ 64 GB ราคา 35,900 บาท
– ความจุ 256 GB ราคา 40,900 บาท
– ความจุ 512 GB ราคา 47,900 บาท
– ความจุ 1 TB ราคา 61,900 บาท
แบบ Wifi + Cellular
– ความจุ 64 GB ราคา 40,900 บาท
– ความจุ 256 GB ราคา 45,900 บาท
– ความจุ 512 GB ราคา 52,900 บาท
– ความจุ 1 TB ราคา 66,900 บาท
* ยังไม่มีการประกาศวันวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ
ขอบคุณภาพประกอบจาก
Dose Media
Eleven X
