สัมภาษณ์พิเศษ I บก. วรวุฒิ วรวิทยานนท์ แห่ง MEGA เจาะลึกหนึ่งในตำนานวงการนิตยสารเกมไทย - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
สัมภาษณ์พิเศษ I บก. วรวุฒิ วรวิทยานนท์ แห่ง MEGA เจาะลึกหนึ่งในตำนานวงการนิตยสารเกมไทย

จากจุดเริ่มต้นจนถึงการจากลา ปิดฉาก 26 ปีในการทำนิตยสารเกม MEGA

หากใครเป็นเกมเมอร์ยุค 90 หรือ เคยผ่านเครื่องเกมอย่างแฟมิคอมมาก่อน น่าจะคุ้นชื่อหนังสือนิตยสารเกมอย่าง MEGA ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือที่เรียกได้ว่าเป็นยุคบุกเบิกโดยเฉพาะเครื่องเกมฝั่งคอนโซลเลยก็ว่าได้ วันนี้ทีมงานได้มีโอกาสดีมากๆ ไปสัมภาษณ์ บก. วรวุฒิ วรวิทยานนท์ ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานผู้สร้างแห่งวงการนิตยสารเกมไทย เราทำความรู้จักและย้อนอดีตไปรู้จักตัวตนและหนังสือเกม MEGA กันดีกว่า

 

Q: ก่อนอื่นต้องขอบคุณคุณ บก. วรวุฒิ มากๆ เลยนะคะที่สละเวลาให้ทีมงาน ได้สัมภาษณ์ ส่วนตัวเป็นแฟนหนังสือทั้ง การ์ตูนของ Vibulkij และ นิตยสารเกมอย่าง Mega มานาน ก่อนอื่นเลยอยากทราบความเป็นมาของตัว บ.ก. ก่อนเลยค่ะ อยากให้แนะนำตัวสักนิด คุณ บก. เรียนจบด้านอะไรมาคะ? ทำไมถึงเข้ามาทำงานด้านสิ่งพิมพ์ได้?

A: แนะนำตัวก่อนเลยนะครับ ผมชื่อ วรวุฒิ วรวิทยานนท์ เป็นคนจังหวัดสงขลาครับ ผมได้มาทำหนังสือการ์ตูนกับ สนพ. วิบูลย์กิจตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ ประมาณปี 1 ตอนสมัยนั้นก็จะเป็นยุคของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคนั้นก็ว่าได้ เพราะว่าเราเป็นคนชอบการ์ตูน แต่ในสมัยนั้นเองการ์ตูนที่แพร่หลายก็จะเป็นการ์ตูนของไทย เช่น เบบี้ หนูจ๋า, วีรธรรม พวกนี่ไกลมากเลยนะ บางคนอาจจะนึกไม่ออกว่ามันคือหนังสืออะไร (หัวเราะ) เป็นการ์ตูนของคนไทยที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น แล้วก็การ์ตูนเล่มละบาทก็อ่านหมด แต่ว่าก็จะมีการ์ตูนอีกประเภทคือ การ์ตูนที่แปลมาจากญี่ปุ่น ซึ่งเราก็จะชอบในสมัยนั้นก็ยังเป็นวัยรุ่นนะ เราก็จะชอบวาด ชอบอะไรแบบนี้ตามไปด้วย จากอิทธิผลที่เราได้รับในตอนนั้น รวมถึงการ์ตูนทางทีวีด้วย ยุคนั้นก็จะเป็นพวก ไอ้มดแดง, อุลตราแมน หุ่นอภินิหาร สิ่งเหล่านี้เราชอบตั้งแต่อยู่ต่างจังหวัด จนกระทั่งได้เข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพ ผมเรียนทางด้านการพิมพ์มา สมัยนั้นยังเป็นวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ ซึ่งสมัยนี้คงเปลี่ยนไปหมดแล้วครับ

ที่มา: บางกอกหนังสือเก่า

 

Q: แบบนี้ก็คือคุณ บก. ถือว่าเรียนตรงสายมาด้วยเลยใช่ไหมคะ?

A: จริงๆ แล้วสิ่งที่เรียนคือการพิมพ์ การถ่ายภาพ แล้วตอนนั้นก็จะมีในเรื่องของภาพยนตร์ แต่เราเน้นไปทางด้านการพิมพ์ แต่สิ่งที่เราเรียนมันเกี่ยวกับการผลิตสิ่งพิมพ์ มันก็มีส่วนที่ไม่ตรงกับการทำ Content เสียทีเดียวนะ สมัยนี้เขาเรียก Content สมัยนั้นไม่ได้เรียกอะไรแบบนี้ ในแง่ของการเข้าไปสู่ในส่วนกองบรรณาธิการ มันจะมีองค์ประกอบส่วนหนึ่งเท่านั้นของการศึกษาเรา แต่ด้วยความชอบ พอมีโอกาสเขามาเราก็ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากรุ่นพี่ ถามว่าตรงไหม ก็อาจจะตรงในแง่การผลิตสื่อชนิดนี้ แต่ถ้าในแง่การทำต้นฉบับ การสร้างการ์ตูนอะไรพวกนี้เราต้องมาเรียนเพิ่มเติมเอง เพราะในยุคนั้นไม่มีการสอนครับ

 

Q: หลายๆ คนน่าจะรู้จักคุณ บก. วรวุฒิ ผ่านหนังสือการ์ตูนของ สนพ. วิบูลกิจย์ บ้าง แต่คิดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นแฟนหนังสือเกม MEGA ส่วนตัวแล้วก็ติดตามตั้งแต่ยังชื่อ MEGA ถ้าจำไม่ผิดเล่มแรกที่ซื้อก็สมัยราวปี 1996 และในสมัยที่ยังมีออก MEGA Month สำหรับบทสรุปควบคู่ จนมาเปลี่ยนเป็น MegaXgame ไม่ทราบว่าจุดเริ่มต้นแรกเริ่ม หรือ ก้าวแรกของ Mega ฉบับที่ 1 มีความเป็นมาอย่างไรคะ? คิดอย่างไรถึงมาจับนิตยสารเกมในตอนนั้น? 

A: เอาจริงๆ แล้วต้องถือว่าในสมัยนั้นมันเป็นไลฟ์ไสตล์ของคนรุ่นใหม่ คือถ้าชอบอ่านการ์ตูน ดูการ์ตูนทีวี ก็จะชอบโมเดล ของเล่นด้วย และอีกสิ่งที่มันตามมาภายหลังก็คือวิดีโอเกม มันเริ่มจากเครื่องคอมพิวเตอร์ใน PC ก่อน ทีเป็นจอมีเส้นเขียวๆ (นานมากๆ)  แล้วขยับมาเป็นเกมกด แล้วขยับมาเป็นเครื่องเล่นเกมคอนโซล เครื่อง Atari จนกระทั่งมาสมัยมีใส่ตลับได้แบบเครื่องแฟมิคอม มันก็เป็นสิ่งที่เราได้สัมผัสมา ในกลุ่มเพื่อนๆ ก็จะชอบเล่น ส่วน MEGA ก็เริ่มประมาณปี 2532 (29 ปีมาแล้ว!)

 

Mega Game

นิตยสาร MEGA ฉบับที่ 1 ปี พ.ศ. 2532

 

Q: ในสมัยนั้นมีหนังสือหรือนิตยสารเกมแบบ MEGA หรือเปล่าคะ?

A: ไม่มี ไม่มีเลย จริงๆ ต้องบอกแบบนี้ว่า ตอนแรกมันเริ่มต้นมาจากส่วนหนึ่งของนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ในสมัยนั้น จนกระทั่งเรามาคิดว่าน่าจะทำเป็นสื่อแยกออกมาเพื่อให้ข้อมูลกับเกมเมอร์ หรือ กับคนที่ชอบอะไรเหมือนกับเรา เพราะตอนนั้นมันไม่มี Internet หรือ Smartphone แบบตอนนี้ ข้อมูลก็จะหาค่อนข้างยาก จากหนังสือต่างประเทศบ้างอะไรบ้าง และราคาก็สูงด้วย เลยคิดว่าคงถึงแล้วว่าที่จะทำหนังสือสักเล่มให้กับคนที่ชอบเหมือนกับเราได้ติดตาม

 

Q: ในตอนเริ่มแรกที่ทำหนังสือนี่ยากมากไหมคะ?

A: อืม ก็ไม่ได้คิดว่ามันยากหรืออะไรนะ เพราะว่าเราก็เอาข้อมูลจากหนังสือจากต่างประเทศมาแปล มาเรียบเรียง บวกกับพวกเราก็เล่นเกมกันอยู่แล้ว เลยถ่ายทอดได้ค่อนข้างตรงไปตรงมา ก็ไม่ได้รู้สึกว่ายากอะไรครับ แต่คือในแง่ของขั้นตอนมันต้องทำมือ อย่าง Logo อะไรพวกนี้ก็วาดมือทั้งนั้นครับ (ภาพเส้นโคจรบน Logo MEGA สมัยแรก) ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ เนื้อหาเราก็พิมพ์ด้วยพิมพ์ดีดก่อน คือไม่เหมือนการทำในสมัยนี้ที่มีความสะดวกมากกว่า การปิดต้นฉบับในสมัยนั้นก็จะมีความท้าทาย เพราะต้องเผื่อเวลาตีพิมพ์ เผื่อจัดส่งกระจายไปยังจังหวัดอื่นๆ ทุกอย่างต้องคำนึงว่าจะทันให้ถึงมือคนอ่านหรือเปล่า ซึ่งมันมีความท้าทายมาก ถ้าบทสรุปคนเล่นก็ต้องเล่นให้ผ่านให้จบทันปิดต้นฉบับ

ที่มา: su-usedbook

 

Q: แบบนี้ก็ถือได้ว่า MEGA เป็นหนังสือเกมเล่มแรกๆ ของวงการในประเทศไทยเลยก็ว่าได้นะคะ อย่างยิ่งเกี่ยวกับเกมคอนโซล

A: ก็จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ

 

Q: แล้วแบบนี้รบกวนสอบถาม ขอย้อนไปเรื่องการทำงานสักนิดนึง คุณพ่อ คุณแม่ บก. คิดอย่างไรคะ ที่เราตัดสินใจมาทำงานด้านหนังสือการ์ตูน หนังสือเกม คือถ้าคิดย้อนไปในสมัยนั้นนี่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่สังคมทั่วไปหรือผู้หลักผู้ใหญ่ยอมรับสักเท่าไหร่ บก. เจอปัญหานี้หรือเปล่าคะ?

A: เอาจริงๆ มันเริ่มจากการ์ตูนด้วยซ้ำครับ เพราะมันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีสาระในสายตาผู้ใหญ่ แต่ด้วยความที่เขาห่วงใยอนาคตเรา เขาก็อาจจะมองว่ามันไม่ได้มีประโยชน์อะไร เพราะมันเป็นเรื่องของความบันเทิง แถมการ์ตูนก็เป็นการ์ตูนผี แต่ถ้ามองลงไปจริงๆ มันก็มีการ์ตูนแบบอื่นๆ ด้วยนะครับ อย่างการ์ตูนที่อยู่ในเบบี้ หนูจา มันก็เป็นการ์ตูนประกอบความรู้นะ บางครั้งมันก็อยู่ในวิชาเรียน หรือการ์ตูนวีรธรรม มันก็แปลมาจากการ์ตูนฝรั่ง ในแง่เชิงศาสนาที่เขาเผยแพร่เข้ามา เราก็จะรู้จักพวก Tin Tin ผจญภัย จากการ์ตูนเหล่านั้น ดังนั้นมันก็ไม่ได้ถือว่าไร้สาระเสียทีเดียว แล้วอีกอย่างตอนผมทำงานมันก็เป็นการหารายได้ ให้เราส่งเสียตัวเองเรียน โดยไม่ต้องเดือดร้อนคุณพ่อ คุณแม่ มันอยู่ที่การปฏิบัติตัวของเรามากกว่าครับ

 

 

Q: คุณ บก. มีเกมโปรดในดวงใจ หรือ ค่ายโปรดไหม เช่น สมัยนี้ก็แบบ บางคนเป็นแฟนบอย Sony หรือ Nintendo หรือ Microsoft ในสมัยนั้นมี Moment อะไรแบบนี้ไหมคะ?

A: จริงๆ ผมก็ประทับใจในการเกิดของ Atari นะ ที่ทำให้มีเกมมีกระแสอะไรขึ้นมา แต่สิ่งที่ชื่นชอบและประทับใจเป็นพิเศษจริงๆ ก็จะเป็นเกมอยู่ 2 ตัว คือ Gradius รู้จักใช่ไหมครับ? นี่ไงอยู่บนปก MEGA เล่มแรก มันทำให้เราต้องใช้สมอง ต้องวิเคราะห์ล่วงหน้า หาหนทางที่ทำให้ผ่านอุปสรรคไปได้ แล้วก็การใช้กล้ามเนื้อนิ้วของเราเนี่ยประสาทสัมผัส อีกเกมก็คือ Mario ผมคิดว่ามันมีความเป็นเกมค่อนข้างสูง เพราะการที่จะผ่านแต่ละด่านมันก็จะมีเทคนิคลูกเล่นที่ไม่ใช่แค่ดุ่ย เข้าเส้นชัย หลักๆ ที่ประทับใจก็จะมี 2 เกมครับ

 

Q: สมัยแรกเลยที่ทำหนังสือทราบยังไม่มีลิขสิทธิ์ใช่ไหมคะ แล้วมันถึงจุดเปลี่ยนอะไรที่ทำให้มีลิขสิทธ์สำหรับหนังสือและสิ่งพิมพ์ในตอนนั้น

A: มันเป็นช่วงสอดคล้องเกี่ยวกับความเข้าใจของสื่อ หมายถึงสื่อต่างๆ ไม่ใช่แค่เกมและการ์ตูนนะครับ เพราะสมัยก่อนต้องยอมรับว่าคนไทยที่ทำสื่อสมัยนั้นอาจจะยังไม่มีความชัดเจนความเข้าใจ สิ่งเหล่านี้มาทีหลัง รัฐบาลก็มาทำให้ความรู้ว่ามันคืออะไร มันเริ่มจากการ์ตูนก่อน จนกระทั่งเราบอกว่าเราทำหนังสือเกมด้วยอะไรด้วย มันก็เลยเริ่มการดำเนินการเรื่องลิขสิทธิ์ตอนนั้น อย่าง MEGA ก็จะเป็นของ Famitsu

เกมกราดิอุส เกมยิงสมัยปี 1985 (33 ปีที่แล้ว)

 

Q: คำถามนี้อาจจะน่าเศร้า แต่ว่าหลายคนก็อยากจะรู้ คือตอนนี้ MEGA ปิดตัวไปแล้ว จริงๆ หนังสือเกมปิดตัวไปหมดแล้ว อยากทราบเหตุผลที่ทำให้หนังสือต้องปิดตัวลงไป?

A: จริงๆ ปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจก็คือรายได้ ถูกไหมครับ นั่นคือปัจจัยสำคัญ แต่ในฐานะสื่อเราก็อยากทำให้มันคงอยู่ตราบเท่าที่จะอยู่ได้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมันก็มีวันคงอยู่ ดับไป ส่วนเหตุผลจริงๆ ผมคิดว่ามันก็ไม่ต่างอะไรจากนิตยสารหัวอื่น คือ ยอดผลิตที่ลดลง จนมันไม่คุ้มค่าที่จะผลิตละ ดังนั้นพอมันถึงจุดนั้น จุดที่สภาพแวดล้อมของโลกมันเปลี่ยนไป เราจะไปโทษ Internet ก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะเราก็ต้องดูคนอ่าน ผู้บริโภคว่าเขาเปลี่ยนแปลงไป เราจะมายึดอัตตาว่า เฮ้ย เราทำตั้งแต่เล่มแรก ยังไงก็จะทำต่อไปก็ไม่ใช่ เราบังคับผู้อ่านไม่ได้ จะมาบังคับให้อ่านเราไปตลอดก็ไม่ได้ เขามีสิทธิ์จะที่ปรับและเข้าถึงการบริโภคใหม่ ลองถามตัวเองดูว่าในตอนนี้ เราหยิบหนังสือหรือมือถืออะไรบ่อยกว่ากันแค่นี้ ผมว่าแค่นี้ก็คงจะพอบอกได้แล้วนะครับ

 

Q: คำถามนี้อาจไม่ได้เกี่ยวกับเกมสักเท่าไหร่นะคะ คิดว่าผู้อ่านหลายคนก็อยากจะรู้จัก คุณ บก. ให้มากกว่านี้ ไม่ทราบมีงานอดิเรกอะไรที่ทำและชอบนอกจากหนังสือการ์ตูนและเกมไหมคะ?

A: ขี่จักรยานครับ ผมขี่มาเป็นสิบปีแล้ว จริงๆ ผมชอบอ่านหนังสือนะ ก็คือชอบในสิ่งที่ทำอยู่นี่ล่ะ แต่ถ้าเป็นการออกกำลังกายแต่ก่อนจะชอบตีแบด แล้วพอมีปัญหาประสบอุบัติเหตุทำให้ตีแบดต่อไม่ได้ ก็เลยหันมาขี่จักรยานครับ

 

Q: อยากให้ บก. ฝากอะไรถึงผู้อ่านที่ติดตาม MEGA มาตั้งแต่ฉบับแรกๆ หรือแฟนเกมแฟนหนังสือสักนิดค่ะ

A: ผมก็อยากขอบคุณนะครับ กับผู้อ่านที่ติดตามอ่าน MEGA มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอ่านบ้าง เว้นบ้าง แต่ก็ยังมีความทรงจำหนังสือของพวกเราอยู่ เราก็ทำด้วยความรู้สึกไม่ต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเล่มแรกหรือเล่มปัจจุบัน MEGA ปัจจุบันแม้จะเปลี่ยนไปเป็นเว็บไซต์ หรือ Facebook แต่ก็ยังคงเป็นแหล่งที่พบปะพูดคุยกับคนที่ชอบเหมือนกัน พวกเราก็รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น คือเป็นหนึ่งในสื่อที่มีโอกาสเข้าไปสนับสนุน คนที่เล่นเกมมีข้อมูล มีความรู้ ทุกวันนี้ผมเจอน้องๆ หลายคนเติบโตในธุรกิจ ก้าวไกล กลายเป็นโปรแกรมเมอร์ สร้างเกม เปิดบริษัทเกม ทุกอย่างมันเกิดจากจุดที่เขาชอบเล่นเกม ผมก็ขอบคุณจริงๆ และประทับใจที่ยังมีผู้อ่านจดจำเราได้และนึกถึงเราอยู่

นิตยสารมีการเปลี่ยนแปลงจนเป็น MEGAXGAME (ที่มา)

 

ที่มา : Thisisgame Thailand

MachoMan
วัยรุ่นยุค 90's l Alternative Rock I Cartoon l Gamer l Soccer

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save