เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนในสังคม ในขณะที่เราสนุกสนานไปกับโลกออนไลน์ จนลืมนึกถึงผลกระทบหลายๆที่ตามมา ซึ่งก็มีทั้งขอดี และข้อเสีย แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook Line Instagram Twitter Youtobe และอื่นๆ ในขณะที่เราเสพความบันเทิงบนโลกออนไลน์อย่างไร้ขีดจำกัด มันมักจะส่งผลร้ายตามมาแบบที่เราอาจคาดไม่ถึง

ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น (Hormones) 

“ละครซีรี่ส์..ที่ให้คุณสัมผัสชีวิตวัยรุ่น..แบบตรงไปตรงมา”

เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทละครชุด ผลิตโดยจีทีเอชและนาดาวบางกอก สร้างเรื่องและเขียนบทโดยทรงยศ สุขมากอนันต์ โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนนาดาวบางกอก ซึ่งเนื้อเรื่องได้แรงบันดาลใจ มาจากประสบการณ์ในชีวิตจริงของย้งเมื่อครั้งศึกษาชั้นมัธยมต้นและปลาย ออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งขณะนี้มีมาให้ชมแล้วถึง 3 season ด้วยกัน

ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น (Hormones) Season 1

โดย ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น (Hormones) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนนาดาวบางกอก นำเสนอเรื่องราวชีวิตของวัยรุ่น ตามความเป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา และไม่มุ่งยัดเยียดจรรโลงความดีงามอย่างชัดเจน และกระแสตอบรับจากซีรีส์เรื่องนี้เป็นไปได้ดีเอามากๆ เพราะเนื้อเรื่องแต่ละฉากนั้น สื่อออกมาค่อนข้างแรง ทำให้เป็นที่พูดถึงในโซเชียลกันอย่างถล่มทลายเลยทีเดียว

ซีซั่นแรกก็เป็นอีกหนึ่งผลงานสร้างชื่อให้กับเหล่านักแสดงวัยรุ่นอย่าง ต่อ ธนภพ,เก้า สุภัสสรา,ปันปัน,มาร์ช จุฑาวุฒิ,แพทตี้ อังศุมาลิน,พีช พชร,ฝน ศนันธฉัตร ฯลฯ เรียกได้ว่าแต่ละคนแสดงได้ถึงบทบาทของตัวละคนได้ดีอย่างไม่นาเชื่อ

Hormones วัยว้าวุ่น Season 2

ถัดมาใน Hormones วัยว้าวุ่น Season 2 เรื่องราวและความสัมพันธ์ของแต่ละคนเหมือนจะกำลังพัฒนาไปได้ด้วยดี แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆเหรอ? มาทบทวนเหตุการณ์โดนๆจี๊ดจาก ซีซั่นแรก ทำให้เนื้อหาในซีซั่นนี้ มีการปูเรื่องที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น บวกกับความแรงของเนื้อหาก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน

โดยจะเป็นเรื่องราวของนักเรียนกลุ่มเดิม ที่เลื่อนชั้นขึ้นไปในมัธยมศึกษาที่ 6 ผู้กำกับทรงยศ สุขมากอนันต์ ขึ้นมาเป็นโปรดิวเซอร์แทนวิชชพัชร์ โกจิ๋ว โดยมีเกรียงไกร วชิรธรรมพร หนึ่งในคณะผู้เขียนบท ขึ้นมาเป็นผู้กำกับการแสดงแทน

โดยก่อนการเริ่มการถ่ายทำในซีซั่นที่ 2 นั้น ทีมงานผู้สร้างได้เปิดตัวโครงการ Hormones The Next Gen ขึ้นเพื่อค้นหานักแสดงหน้าใหม่เพื่อมารับบทสมทบในซีซั่นนี้ และเตรียมขึ้นเป็นนักแสดงหลักกลุ่มใหม่ในซีซั่นต่อๆไป โดยได้จำนวนนักแสดงกลุ่มใหม่ทั้งหมด 12 คน โดยใน 12 คนนี้ มี 5 คนที่ได้รับบทสมทบในซีซั่นที่ 2 ได้แก่ แบงค์ – ธิติ, แพรวา – ณิชาภัทร, เจมส์ – ธีรดนย์, ต้าเหนิง – กัญญาวีร์ และ ฟรัง – นรีกุล

Hormones 3 The Final Season 

และสุดท้ายกับ Hormones 3 The Final Season ซึ่งได้หยิบยกนักแสดงจาก Hormones The Next Gen ที่เหลือมาเป็นนักแสดงหลัก โดยมี ฝน – ศนันธฉัตร และ เบลล์ – เขมิศรา เป็นนักแสดงรุ่นแรกที่ยังคงมีบทบาทเด่นอยู่ ซีซั่นนี้มีความพิเศษคือจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของซีรีส์ชุดนี้ ซึ่งกระบวนการผลิตของซีซั่นนี้ถือว่าเข้มข้นกว่า 2 ซีซั่นที่ผ่านมา เพราะเป็นซีซั่นที่ต้องสร้างตัวละครใหม่แทบทั้งหมด อีกทั้งนักแสดงทุกคนต้องผ่านการคัดเลือกอีกครั้งจากทีมงานคัดเลือกนักแสดง แม้ว่าบทจะถูกพัฒนามาจากตัวนักแสดงก็ตาม และทีมเขียนบทต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 7 เดือนเพื่อพัฒนาบทให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด

นอกจากนี้ในซีซั่นที่ 2 และ 3 จะมีนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มสีสัน และมิติของตัวละคร ได้อย่างครบรส ไม่ว่าจะเป็นในแง่มุมของความรัก การเรียน ความสัมพันธ์ ความอยากรู้อยากลองในเรื่องต่างๆ รวมไปถึงด้านครอบครัว และการเลี้ยงดูเด็กในช่วงวัยรุ่น วัยที่กำลังว้าวุ่น สับสน ซึ่งสะท้อนให้เห็นด้านมืดได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

#เป็ดIDOL

ซีรีส์เรื่องแรกจากค่าย MBO official สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของนักเรียนมัธยมยุค Online “เมื่อมนุษย์กลายเป็น สัตว์สังคม Online ใครจะเป็นผู้รอด? ” เรื่องนี้ได้นักแสดงนำเป็น พลอยชมพู มิว และสมาชิก MBO จิด้า,จีน่า ดี,นินน่า,ไอเฟล,โบลิ่ง,ป่าน ออนแอร์ตอนแรกทางช่อง GMM25

#เป็ดIDOL พูดถึงเรื่องของ เมื่อมนุษย์…กลายเป็นสัตว์สังคมออนไลน์ ในยุคที่โซเชียลมีเดีย มีผลกับชีวิตประจำวัน เมื่อเด็กสาว ม.5 ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย อย่างแสงแดด (พลอยชมพู ภารวี ไวเกล) แอบชอบหนุ่มรุ่นพี่ที่ป๊อปที่สุดในโรงเรียนอย่าง พี่บาส (ณัฐ ชยพล จิรัฐ) แต่พี่บาสกลับแอบหลงรักเพื่อนสนิทของเธอที่ชื่อ พิม (จิด้า จิดาภา ศิริบัญชาวรรณ) ว่าที่ Net idol มาแรงประจำโรงเรียน

แสงแดดจึงพยายามสร้างตัวเองให้เป็น Net Idol เพื่อเรียกร้องความสนใจบ้าง แต่ความพยายามของแสงแดดก็ไม่เป็นผล แถมยังโดนแก๊งนางฟ้าประจำโรงเรียนที่มีดีกรีเป็น Net Idol รุมเย้ยหยันอีก เมื่อเจอแรงเสียดสีแบบนี้ แสงแดดจึงตัดสินใจสร้างเพจ เป็ดไอดอล ขึ้นมาอย่างลับ ๆ เพื่อเอาคืนพวก Net Idol ที่ชอบดูถูกเธอ จากดีกรีความแรงของเพจที่แค่แกล้งคนให้เจ็บๆ คันๆ ก็เริ่มล้ำเส้นไปไกลเกินหันหลังกลับ เพราะเพจ เป็ด Idol ได้สร้างเรื่องเผยแพร่วีรกรรมสุดแสบของคนในโรงเรียน

สุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น ? เมื่อมิตรภาพบนโลกออนไลน์นั้นกลายเป็นกระแสนิยม แต่กลับสวนทางกับมิตรภาพบนโลกความจริงที่สั่นคลอนรอวันพลังทลาย ติดตามได้ในซีรีส์ เป็ด Idol ซีรีส์เรื่องแรกจาก MBO ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของนักเรียนมัธยมยุค Online

คุณแม่วัยใส

คุณแม่วัยใส เป็นละครชุดในโครงการพิเศษของแอปพลิเคชัน ไลน์ทีวี อันเป็นความร่วมมือพิเศษระหว่าง บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด จีเอ็มเอ็มทีวี และ ยูนิเซฟ ประเทศไทย โดยมีเค้าโครงเรื่องมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกัน โดย พีรพัชร เลขกุล หรือนามปากกา theterm ที่นำเสนอให้อ่านบนแอปพลิเคชัน ไลน์เว็บตูน และได้กระแสตอบรับที่แรงตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย

ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตท้องก่อนวัยอันควรของตัวละครชื่อ ฟ้า ที่ต้องเผชิญปัญหาทางสังคม และตัดสินใจหลีกหนีไปใช้ชีวิตอุ้มท้องตามลำพังในกรุงเทพมหานครกว่า 9 เดือน โดยมีรูมเมทข้างห้อง และพยาบาลแผนกสูตินารีเวชคอยเป็นพี่เลี้ยงดูแลตลอดเวลา ออกอากาศให้ชมทางแอปพลิเคชัน ไลน์ทีวี

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดตัวได้เพียงหนึ่งวัน กลับมีกระแสในแง่ลบบนโลกสังคมออนไลน์ รวมไปถึงเว็บไซต์พันทิป ซึ่งท้วงติงถึงความเหมาะสมในการหยิบเรื่องราวดังกล่าวมาทำเป็นละครชุด เนื่องจากเนื้อหาเดิมมีความไม่เหมาะสม หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันที่ไม่เป็นจริง และตัวละครเอกมีความโลกสวยเกินไป และเหมือนเป็นการเชิญชวนให้เกิดค่านิยมผิดๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ทางจีเอ็มเอ็มทีวี ได้นำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงานแถลงข่าว LINETV NEXPLOSION โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่านำมาเฉพาะเค้าโครงเรื่อง แต่จะมีการปรับเนื้อหาให้เหมาะสม สอดคล้องกับความเป็นจริง และสอดแทรกข้อคิดและข้อควรระวังในการรับชม รวมทั้งระบุว่าได้รับทุนเพิ่มเติมจาก ยูนิเซฟ ประเทศไทย ในฐานะของตัวแทนเรื่องการคุ้มกันการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ และเสริมสร้างสถาบันครอบครัวด้วย

Social death vote

มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเทคโนโลยีมีอิทธิพลกับชีวิตเรามากแค่ไหน ตัวอย่างความผิดพลาดจากการใช้สื้อโซเชียลในทางที่ผิดนั้นก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ในชีวิตจริงที่ต้องใช้คำว่า “การถูกรุมฆ่าผ่านโลกออนไลน์” ถูกตัดสินโดยคนที่..ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ใช่แม้แต่คนเคยรู้จัก แค่เห็นภาพ ก็ตัดสินชีวิตคนๆหนึ่งได้อย่างไม่ปราณี ซึ่งมนุษย์เรานี่แหละที่ขับเคลื่อนสังคมให้ต่ำลง การใช้อำนาจโดยใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ ไม่ต่างอะไรจากการสวมหน้ากากเข้าหากัน ซึ่งหลายคนมักแสดงความเห็นไปเพราะความสะใจ ความเครียดสะสมจากสิ่งอื่น บ้างก็อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

และซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่สะท้อนการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของคนในปัญจุบันได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่วัยรุ่นเท่านั้น คนทั่วๆไปก็ด้วย หากเราสารมารถอยู่ในโลกออนไลน์ได้ด้วยสติ หยุดส่งต่อ หยุดดู และหยุดรังแกกันบนโลกออนไลน์ ตั้งสติสักนิดก่อนที่จะแชร์หรือพิมพ์อะไรลงไป เพราะไม่แน่ว่าอารมณ์ชั่ววูบของคุณ อาจจะไปทำลายชีวิตคนๆนึงให้พังไปเลยก็ได้

และในซีรีส์ Social Death Vote เล่าเรื่องราวของวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้โซเชียลในปัจจุบัน โดยมีการก่อตั้ง Facebook Fanpage ที่ใช้ชื่อว่า Sex Vote และได้ทำการเชิญชวนให้เพื่อนทุกคน ผู้คนอีกมากมายให้เข้ามากดติดตาม และร่วมกันโหวตเน็ตไอดอลเด็กมัธยมที่มีข่าวฉาวของแต่ละโรงเรียน โดยผลจากการโหวตจะส่งผลให้ผู้ชนะหรือผู้ที่ถูกโหวตถูกเผยแพร่ภาพลับคลิปหลุดสู่หน้าเพจ Sex Vote

ในทุก ๆ หนึ่งสัปดาห์จะมีเด็กนักเรียนมัธยมจากโรงเรียนต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่หน้าตาดีและมีวีรกรรมเด็ด ๆ ที่เป็นที่จับตามองทยอยเรียงคิวกันถูกนำรายชื่อมาโหวตให้โดนแฉเรื่องเซ็กส์ ด้วยภาพหรือคลิปวิดีโอ

ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้นั้นไม่มีใครได้รู้ด้วยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของทุกอย่างคือ คิว ชายหนุ่มผู้เก็บงำความแค้นไว้มากมาย จากการที่เขาต้องสูญเสียคนรักไปมันคือ เบสท์ หญิงสาวที่เขาแอบหลงรักได้ฆ่าตัวตาย เพราะมีคนเผยแพร่คลิปฉาวของเธอในโลกออนไลน์ และแชร์ส่งต่อกันไปจนทั่วแบบไม่มีที่สิ้นสุด

บาดแผลครั้งนี้กลับสร้างความแค้น ทำให้คิวคิดว่าตัวเองจะต้องออกมาตอบโต้สังคมเพื่อเบสท์ ด้วยการสร้างเพจ Sex Vote ขึ้นมา โดยที่คิวได้ทำการวางแผนทุกอย่างไว้ล่วงหน้า คิวใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานเป็นปี ทั้งศึกษาโลกของอินเตอร์เน็ต ออนไลน์ และรวบรวมข้อมูลภาพลับคลิปหลุด และคลิปฉาวของเหยื่อวัยรุ่นแต่ละราย

เมื่อสังคมออนไลน์ กลายเป็นเครื่องมืออันตราย พวกเขาและเธอจะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาโดยศาลสังคม ที่มีผู้ใช้โซเชียลออนไลน์ทุกคน เป็นผู้ตัดสิน บทเรียนจากความคึกคะนอง และขาดสติครั้งนี้จะส่งผลให้พวกเค้าต้องเจอกับบทลงโทษที่ต้องจำไปจนตาย จะเป็นอย่างไร ติดตามและหาดูกันได้ที่ไลน์ทีวี ซึ่งมีทั้งหมด 6 ตอนด้วยกัน

 

สงครามไฮสคูล

War of High School the Series สงครามไฮสคูล เป็นซีรีส์ที่ออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ผ่านระบบทีวีแอนะล็อกทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ และออกอากาศคู่ขนานผ่านระบบทีวีดิจิตอล ทางช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี

ในช่วงแรกที่มีการประชาสัมพันธ์ละครชุดเรื่องนี้ ละครเรื่องดังกล่าวมีชื่อตั้งต้นว่า “สงครามคอนแวนต์” ซึ่งหลังจากมีการประชาสัมพันธ์ละครชุดเรื่องนี้ได้ไม่นาน ก็เกิดปัญหา เมื่อสหสมาคมเซนต์ปอลเดอซาร์ตร ซึ่งเป็นองค์กรกลางของสถานศึกษากลุ่มคอนแวนต์ในประเทศไทยนั้น ก็ได้ยื่นเรื่องต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

เนื่องจากหลายคนให้ความเห็นว่า ซีรีส์เรื่องนี้ มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในเรื่องของการแต่งกาย รวมถึงพฤติกรรม ตลอดจนการใช้ความรุนแรง จนเรื่องได้บานปลายเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

และภายหลัง กสท. ได้มีการตรวจสอบและพบว่า มีเนื้อหาไม่เหมาะสมในเรื่องของการแย่งชิงนักเรียนชาย ซึ่งขัดมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 กสท.จึงมีมติให้สั่งปรับทางช่องเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท และให้ปรับระดับความเหมาะสมของเรื่องเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ทั้งนี้ทางช่องต้องระงับการออกอากาศไปสัปดาห์ ก่อนจะกลับมาออกอากาศอีกครั้งในชื่อปัจจุบัน

เด็กใหม่

เด็กใหม่ (The Series Girl From No Where) เป็นซีรีส์แนว Mysterious-Fantasy เพื่อเพื่อนหญิงพลังหญิง สร้างจากข่าวฉาวจริงในรั้วโรงเรียนมาเล่าเป็นตอนๆ ผ่านตัวละครที่ชื่อ ‘แนนโน๊ะ’ (คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล) ที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใคร มาจากไหน และไม่คาดคิดว่าเธอคนนี้จะย้ายไปเป็นเด็กใหม่ถึง 13 โรงเรียน เพื่อเหตุผลเดียวคือการแก้แค้น!

ในเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงในโรงเรียนที่ตกเป็นเหยื่อ ทั้งการโดนแกล้ง ข่มขู่ หรือแม้กระทั่งข่มขืน แต่ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมายืนหยัดต่อสู้ เด็กใหม่ในเรื่องคนนี้ จึงเป็นเหมือนตัวแทนที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อเด็กผู้หญิงทุกคน

นอกจากเรื่องนี้ เล่าถึงสิ่งที่ผู้หญิงไม่กล้าลุกขึ้นมาตอบโต้ ซึ่งบางกรณีก็ทำให้ตกเป็นเหยื่อของความโหดร้าย แต่ครั้งนี้ “เด็กใหม่” ที่เป็นตัวแทนของพวกเด้กผู้หญิง จะกลับมาทวงคืนความยุติธรรม และจะไม่ยอมเป็นอีกต่อไป โดย“แนนโน๊ะ” (รับบทโดยคิตตี้ ชิชา) ซึ่งจะเข้ามาเป็นเด็กใหม่ของทุกโรงเรียน และพร้อมจะเข้าไปเผยเบื้องลึก ด้านมืดของคนรอบข้าง และในทุกๆ ตอน จะเท่ากับเริ่มต้นใหม่เสมอ

การล้างแค้นครั้งนี้จะดุเดือดเลือดสาดขนาดไหน ติดตามพร้อมกันได้ทุกวันพุธ เวลา 22.25 น. เริ่มวันที่ 8 สิงหาคมนี้เป็นตอนแรก รับชมสดทางโทรทัศน์ช่อง GMM25 หรือสามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง Netflix นะจ๊ะ