
‘เมื่อความเร็วการเชื่อมต่อก็เป็นส่วนสำคัญของการเล่นเกม’
หากให้พูดถึงประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตของแต่ละคนคงจะเริ่มต้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมาได้เริ่มใช้งานจริงๆ ในยุคที่การเชื่อมต่อเสถียรดีมากแล้ว หรือบางคนอาจจะเริ่มใช้ตั้งแต่ความเร็ว 64 KB/s แล้วเน็ตก็จะตัดทุกครั้งที่มีการใช้งานโทรศัพท์บ้าน เอาละมาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่าวันนี้ผมจะมานำเสนอเกี่ยวกับการเลือกความเร็วของอินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมกับการเล่นเกมว่าแล้วก็มาดูกันเลย
ประเภทการเชื่อมต่อ
ปัจจุบันเรามีการแบ่งการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตออกเป็น 2 ประเภทคือประเภทที่ใช้สายในการเชื่อมต่อ (Wired) กับประเภทไร้สาย (Wireless) ซึ่งปกติแล้วความเร็วและความเสถียรของการใช้งานผ่านสายจะค่อนข้างดีกว่าแบบไร้สายอยู่แล้ว
ประเภทของอินเทอร์เน็ต
ประเภทของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ณ ปัจจุบันก็มีอยู่มากมายหลายรูปแบบ แต่ผมจะขอยกตัวอย่างที่เราสามารถหาใช้ได้กันในบ้านเรากันมาให้ได้ดูและอธิบายกันครับ
DSL – การเชื่อมต่อที่เราได้เห็นกันตั้งแต่ช่วงแรกๆของการใช้งานโดยเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ โดยทำความเร็วได้สูงสุดที่ 100 Mbit ซึ่งปัจจุบันก็มีให้บริการน้อยลงแล้ว เพราะเจ้าหลักๆก็เปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นแทน แต่ก็ยังพอให้เห็นกันได้อยู่
Fiber optic cable – การเชื่อมต่อโดยการดูการวิ่งผ่านของแสงบนสาย Fiber ทำให้หากไม่มีอะไรที่ชำรุดก็ถือว่ามีการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด อีกทั้งค่า Latency หรือที่เรียกกันว่า Ping ก็จะน้อยที่สุดด้วย
Mobile network – ถือว่าเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายรูปแบบหนึ่งโดยความเร็วการเชื่อมต่อนั้นจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ใช้งาน แพ็คเกจที่เลือกใช้ และช่วงเวลาที่ใช้งาน ซึ่งการใช้งานการเชื่อมต่อแบบนี้จะเน้นไปที่การใช้งานผ่าน Devices ที่ไม่ได้ต้องการไหลผ่านของข้อมูลมากอย่าง Mobile Devices ความเร็วการใช้งานจึงไม่น่าเป็นห่วงมากแต่หากเอามาใช้งานผ่าน PC หรือ Laptop แน่นอนว่าความเร็วจะดูน้อยลงมาทันที
จากที่กล่าวมาหากจะให้แนะนำว่าควรเลือกใช้งานตัวไหนดีก็คงต้องเป็น Fiber อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็มีข้อคิดเห็นอยู่ว่าหากภายในบริเวณบ้านของคุณเขาเปลี่ยนไปใช้งาน Fiber กันหมดแล้ว การเลือกใช้งาน DSL ต่อก็ถือว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจไม่น้อย ส่วน Mobile network หากเลี่ยงใช้งานได้ก็เลี่ยง แต่หากจำเป็นต้องใช้ก็ต้องทำใจกันไว้ก่อนเช่นกัน
Ping เท่าไหร่ถึงจะดี
ค่า Latency หรือที่เราจะเรียกว่า “Ping” คือค่าในการวัดการส่งข้อมูลของเราไปถึงเซิฟเวอร์ว่าจะมีการตอบกลับมาใช้เวลาเท่าไหร่ โดยปกติแล้วหากเราห่างจากเซิฟเวอร์มากก็จะมีค่า Ping ที่มากตามไปด้วย เทียบง่ายๆก็เช่นการที่เราเล่นอยู่บนเซิฟเวอร์ สิงคโปร์ กับ เล่นอยู่บนเซิฟเวอร์ อเมริกา แน่นอนว่าค่า Ping บนเซิฟเวอร์ สิงคโปร์จะน้อยกว่าแน่นอน ซึ่งเราก็ต้องเลือกเล่นให้ถูกด้วย
โดยค่า Ping ที่ผมแนะนำนั้นไม่ควรเกิน “100 – 150 ms” เพราะค่าช่วงนี้คือค่าสุดท้ายที่รับได้ในการเล่นอย่างราบรื่น ถ้าหากมากไปกว่านั้นก็จะทำให้เล่นไม่ได้หรือเล่นได้แต่ แลคมากนั้นเอง
ความเร็วเน็ตเท่าไหร่ถึงจะดี
โดยทั่วๆไปแล้วความเร็วการเชื่อมต่อขั้นต่ำของเกมที่จะสามารถเล่นได้จะอยู่ที่ ดาวน์โหลด 3 – 5 Mbits และค่าอัพโหลด 1 Mbits ซึ่งจริงๆแล้วแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตที่มีให้เลือกในปัจจุบันของบ้านเรามันสูงกว่าค่าที่ผมแนะนำอยู่แล้ว จึงไม่ใช่ปัญหาหลักในการเล่นอยู่แล้ว แต่หากคุณใช้ Mobile network ในการเล่นก็แนะนำว่าให้หาแพ็คเกจขั้นต่ำตามที่ผมแนะนำดีกว่า และระหว่างเล่นก็ปิดการใช้งานในแอพอื่นๆด้วยเพื่อการเล่นที่ดีขึ้นครับ
โดยสรุปแล้วในการเล่นเกมให้ราบลื่นไม่มีปัญหาเราต้องดูกันหลักๆที่ประเภทของการเชื่อมต่อ ค่า Latency และความเร็วที่ใช้งาน แน่นอนว่ายังมีปัจจัยอื่นๆที่น่าพิจารณาด้วย เช่น สภาพอากาศ จำนวนคนที่ใช้งานเน็ตเวิร์คในขณะนั้น ซึ่งปัจจัยพวกนี้เราอาจจะควบคุมไม่ได้ ซึ่งท้ายที่สุดก็แนะนำให้เลือกใช้งานในส่วนต่างๆ ให้เหมาะสมกับตัวเราเองและรอบๆว่าต้องการมันมากแค่ไหนนั้นเอง